>>แม้ภายนอกจะไม่ได้ดูเป็นคู่รักที่สวีตหวานแหววตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วคู่รักที่เริ่มมาจากความเป็นเพื่อนอย่างคู่ของ “นัท-ธนัท ตันอนุชิตติกุล” กับ “กิ๊ฟ-สรัญธร เตชะไพบูลย์” ก็มีมุมโรแมนติกของตัวเองด้วยเหมือนกัน และจากความใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นการสร้างความประทับใจ และรู้ใจซึ่งกันและกัน
“ธนัท ตันอนุชิตติกุล” หรือ “นัท” หนุ่มนักบริหารที่เขาต้องดูแลงานอยู่ถึง 3 บริษัท ไม่ว่าจะเป็น บริษัท เอฟฟ์ (EFF) จำกัด ผู้นำเข้ารายการสารคดี, บริษัท การ์ตูนคลับ ผู้จัดรายการเกี่ยวกับการ์ตูนทางช่อง 9 อสมท และบริษัท เมเจอร์แอดเวอไทซิ่ง จำกัด เป็นเอเยนซีดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร ทั้งสามบริษัทนั้นเรียกได้ว่าคลุกคลีอยู่ในแวดวงโทรทัศน์บ้านเรา
“ตอนนี้รายการการ์ตูนในเมืองไทยเราถือลิขสิทธิ์เยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นดราก้อนบอล, โคนัน, วันพีซ, มดแดง, อุลตร้าแมน, กันดัม ซึ่งเราเป็นพันธมิตรกับช่อง 9 อสมท มานาน นอกจากนั้นก็มีรายการสารคดีและช่องทีวีดาวเทียมเป็นของตัวเอง ชื่อช่องการ์ตูนคลับแชนแนล ซึ่งกำลังขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น เช่นแบรนด์การ์ตูนคลับของเราตอนนี้ไปขยายที่ประเทศพม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชาแล้ว และยังมีสัมปทานฉายฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ประเทศพม่าด้วย”
เห็นทำงานเยอะอย่างนี้แต่ในเรื่องความรัก เขาก็ยังสามารถดูแลและให้เวลากับความรักของเขาได้เป็นอย่างดี เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่เขาใช้ชีวิตคู่กับสาวสังคมคนเก่ง “กิ๊ฟ-สรัญธร เตชะไพบูลย์” คู่ชีวิตที่ต่างคนต่างงานยุ่งกันทั้งคู่ แต่ก็มักจะหาเวลาอยู่ด้วยกันเสมอ
“คบกับกิ๊ฟมา 7 ปี ก่อนแต่งงาน เราเป็นเพื่อนๆ ที่รู้จักกัน ช่วงนั้นผมเรียนปริญญาโทอยู่ที่มหิดล ก็ได้ทำความรู้จักกับเขา ตอนนี้แต่งงานแล้ว เป็นสามีภรรยากัน ตั้งแต่เป็นแฟนกันจนวันนี้ก็เหมือนเดิม แค่เปลี่ยนสถานะจากคำว่า “แฟน” เป็นคำว่า “สามี-ภรรยา” ผมมองว่าพอเป็นสามีภรรยาแล้ว ต้องเข้าใจ เชื่อใจ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรคุยกันตรงๆ
ถ้าถามว่าประทับใจกิ๊ฟตรงไหนต้องใช้คำว่าทุกเหตุการณ์มันก็ประทับใจอยู่แล้ว กิ๊ฟเป็นคนจิตใจดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่มีทะเลาะกันเลย เขาก็ไม่ค่อยงอนด้วย เป็นคนเข้าใจโลก เป็นคู่คิดในชีวิตที่ดี ด้วยความที่ผมเป็นคนเดินทางบ่อยแต่ก็พยายามหาเวลาอยู่ด้วยกัน แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็ทำให้เราติดต่อสื่อสารกันสะดวกขึ้น จึงรู้สึกไม่ค่อยห่างเหินกัน แต่ทริปไหนที่ไปหลายๆ วันอย่างไปญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกาก็จะชวนภรรยาไปด้วย
แม้ว่าใครจะคิดว่ากิ๊ฟเป็นสาวสังคมไปงานเยอะ แต่ผมเฉยๆ นะ อาจจะเป็นเรื่องหน้าที่การงานของเธอ ผมก็เข้าใจ แต่พอช่วงหลังพอเป็นสามีภรรยากันก็ออกงานด้วยกันบ้าง”
ตั้งแต่รู้จัก คบหา และใช้ชีวิตด้วยกันรวมๆ ก็เกือบจะ 10 ปีแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังหมั่นเติมความพิเศษให้กันอยู่เสมอ เช่นการมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้กันในโอกาสต่างๆ จนเป็นของชิ้นโปรดที่อยากอวดว่าภรรยาซื้อให้!
“ต้องบอกว่าของขวัญชิ้นนี้ เป็นของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจที่สุด เพราะว่าเป็นของขวัญที่ภรรยาซื้อให้ (หัวเราะ) เนื่องในโอกาสที่เราแต่งงานกัน เป็นกล่องใส่นาฬิกา แบรนด์ Goyard ส่วนตัวผมเป็นคนชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว ชอบความคลาสสิกของแบรนด์ ต้นกำเนิดมาจากเครื่องหนังให้ราชวงศ์ของยุโรป ทุกอย่างที่เห็นเป็นงานแฮนด์เมดหมดเลย
เคยเห็นในต่างประเทศว่ามีขายกล่องนาฬิกาด้วย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แค่เปรยๆ กับภรรยาว่าอยากได้ ด้วยความที่ส่วนตัวผมเป็นคนชอบนาฬิกาและชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว ทั้งกระเป๋าสตางค์ ที่ใส่นามบัตร ก็ใช้ของแบรนด์นี้ ภรรยาจึงแอบไปสั่งเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์
จะสังเกตว่าความพิเศษของกล่องอันนี้คือ มีแกะสลักตัวอักษร “ST 29.6.14” อยู่ มีความหมายคือ ชื่อย่อของภรรยาและก็ผม “สรัญธร” กับ “ธนัท” ส่วนตัวเลขคือวันแต่งงานของเรา วันที่ 29 มิถุนายน 2014 ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานที่มีคุณค่าทางจิตใจมาก
เห็นแล้วดีใจมาก เป็นของที่เคยคิดว่าอยากได้ และไม่ได้หาซื้อง่ายๆ ไม่ได้มีขายทั่วไป ต้องสั่งทำพิเศษ ที่ภรรยาเล่าให้ฟังคือ ต้องสั่งผลิตที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ว่ากว่าจะสลักชื่อที่ฝรั่งเศสต้องใช้เวลานาน เขาเลยส่งมาแกะสลักชื่อที่สิงคโปร์ แล้วถึงส่งมาที่เมืองไทยให้ผม เป็นของขวัญชิ้นประทับใจและรักมากครับ”
ส่วนในเรื่องของความหวานและโรแมนติกจากคุณธนัทให้กับภรรยานั้น บอกได้เลยว่าไม่หวาน แค่หวานกันวันละนิด แต่ทุกวันเท่านั้นเอง! ฉะนั้นไม่ว่าจะวาเลนไทน์หรือวันไหนๆ ก็สามารถแสดงความรักได้ทุกวัน
“ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นคนโรแมนติกหรือเปล่า (หัวเราะ) อย่างวันวาเลนไทน์ ผมรู้สึกเฉยๆ นะ เพราะว่าผมรู้สึกว่าในเมื่อเราเป็นสามีภรรยากัน ทุกวันก็แฮปปี้ได้อยู่แล้วครับ ถ้าถามว่าจะต้องมีดอกไม้ให้ไหมในวันวาเลนไทน์ ไม่รู้สิ...เพราะปกติผมให้ดอกกุหลาบสีขาวกับเขาอยู่แล้วทุกสัปดาห์ ตั้งแต่คบกันจนทุกวันนี้ แต่งงานแล้วก็ยังให้อยู่ มีบ้างบางทีเวลาเดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ได้ให้ แต่พอกลับมาก็อาจจะให้ดอกใหญ่หน่อยเป็นการชดเชย เราสามารถสร้างโอกาสพิเศษให้กันได้ทุกวัน ไม่ใช่แค่เทศกาลเท่านั้น แค่ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้วครับ”
แม้จะไม่ได้แสดงออกถึงความรักกันอย่างมากมาย แต่เชื่อได้เลยว่าคู่นี้เขาหวานใส่กันทุกวันอยู่แล้ว ดูจากการใส่ใจในรายละเอียดของการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็น่าจะเป็นเครื่องการันตีได้
การเลือกของขวัญให้สำหรับคนพิเศษ
“ความจริงแล้วการเลือกของขวัญให้กับคนพิเศษในโอกาสใดก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง ขอให้เป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจก็พอ อาจจะเป็นกระดาษโน้ตใบนึงที่เขียนบอกรัก การ์ดวันครบรอบ เท่านี้ผมว่าก็มีคุณค่าทางจิตใจแล้ว ผมไม่เคยมองว่าจะต้องให้ของแพงๆ กัน ขอให้เป็นสิ่งที่คุณตั้งใจให้ เป็นของที่รู้สึกว่ามีความรู้สึกดีๆ แนบมาด้วย ผมว่านี่คือคุณค่าทางจิตใจ” :: Text by FLASH
Special Thanks : ร้าน Beccofino Italian Restaurant and Grill ชั้น 1 อาคารฟิฟธ์ตี้ฟิฟธ์ ทองหล่อ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ