สมเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง สำหรับมัณฑนากรหนุ่ม กร-กติกากร วรวรรณ ณ อยุธยา ที่วันนี้ยึดการทำงานเป็นมัณฑนากร บริษัท คิดดี ดีไซน์ รับงานออกแบบบ้าน คอนโดมิเนียม รวมถึงรีสอร์ตทั้งในและต่างประเทศ แม้คิวงานจะแน่นเอี้ยดจนแทบไม่มีเวลาให้ใคร แต่เขากลับมีเวลาอย่างเหลือเฟือที่จะรักปลาคาร์ฟได้อย่างล้นใจ โดยเฉพาะ ปลาคาร์ฟในบ่อที่บ้าน ที่เจ้าตัวยอมรับว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เพื่อชื่นชม
บรรยากาศในบ้านหลังใหญ่ รายล้อมด้วยต้นไม้ที่แฝงตัวอยู่กลางเมือง ที่ กร-กติกากร เปิดให้เราได้เข้ามาสัมผัส ทำให้รู้สึกได้ว่าบ้านหลังนี้มีความอบอุ่นแทรกอยู่ในทุกอณู โดยหนุ่มกรเป็นลูกชายคนโตของ อนุชา ภิญโญกุล กับ ม.ล.พรรณศรี วรวรรณ ณ อยุธยา เขาถูกส่งตัวไปเรียนที่นิวซีแลนด์ตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบใหญ่ขึ้นแม่อยากให้เรียนด้านเศรษฐศาสตร์ แต่เรียนได้ไม่นานขอทรานสเฟอร์เกรด ไปเรียนต่ออินทีเรียดีไซน์ ที่ RMIT หรือ Royal Melbourne Institute of Technology ประเทศออสเตรเลีย ควบคู่กับการเรียนปริญญาตรีอีกหนึ่งใบด้าน Marketing Communication Study ที่มหาวิทยาลัยโมนาช
ทันทีที่เรียนจบ “กร” ก็บินลัดฟ้ากลับประเทศไทย พร้อมเพื่อนชาวออสเตรเลีย เพื่อเปิดบริษัทออกแบบตกแต่ง ชื่อ ทรีดีไซน์ รับงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรีสอร์ตและโรงแรมที่ต่างประเทศ “ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ มีทั้งออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น แต่เปิดได้เพียง 3 ปี หุ้นส่วนที่เป็นชาวอิตาลีและออสซี่ มีความจำเป็นต้องย้ายกลับบ้านเกิด ผมทำคนเดียวไม่ไหวเลยต้องปิดไป ตอนนี้ก็มีลูกค้าเก่าติดต่อเข้ามา บวกกับงานที่เพื่อน 2 คนส่งมาให้อีกก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร”
หลังปิดบริษัทของตัวเองแล้ว กรก็ถูกน้าสาวทาบทามให้ไปช่วยงานออกแบบและก่อสร้างบ้านครบวงจร ที่ บริษัท คิดดี ดีไซน์ จำกัด ทำหน้าที่รับผิดชอบด้านการตกแต่งภายใน “ลูกค้าหลักส่วนใหญ่เป็นพวกคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในคอนโดมิเนียม พื้นที่น้อย ตกแต่งภายในแล้วยังต้องการมีพื้นที่สวน ตรงนี้เราต้องเพิ่มเติมเข้าไป ก็ถือเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งครับ ทำให้ได้เรียนรู้ทดลองออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ออกแบบสวนแนวตั้งดีไซน์กระถางให้เข้ากับต้นไม้และสถานที่"
แม้จะเป็นงานที่ตรงกับความชอบมากเพียงไร ปัญหาก็มีตามมาให้ต้องปวดหัวได้เช่นกัน โดยหนุ่มหน้าคมบอกว่า ส่วนใหญ่เพราะความเข้าใจไม่ตรงกันระหว่างความคิดของเขาและความต้องการลูกค้า โดยงานของเขาจะเน้นลักษณะโมเดิรน์คลาสสิก มีครบ 3 องค์ประกอบคือ เน้นเรื่องการใช้งาน ความสมดุลและต้องสวยงาม แต่เมื่อได้อธิบายให้ลูกค้าฟังอย่างละเอียดก็ล้วนพอใจในงานของเขา
นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องราคาที่ดินในเมืองที่สูงขึ้น ทำให้คอนโดฯ แต่ละแห่งมีพื้นที่แคบลง ก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน “จากเดิมคอนโดฯ จะมีขนาด 40-50 ตร.ม. เดี๋ยวนี้เหลือ 30-35 ตร.ม. เราก็ต้องออกแบบให้ใช้ประโยชน์ได้มากสุด เฟอร์นิเจอร์ ต้องเป็น 3 อิน 1 เลือกใช้สีที่ดูโล่งโปร่งสบาย แต่ในมุมของผม ผมคำนึงถึงชีวิตประจำวันว่า ในแต่ละวันลูกค้าเน้นใช้ชีวิตอยู่ห้องไหนมากที่สุด จะได้จัดบ้านตามการใช้ชีวิตของเขา ไม่อยากให้คำนึงถึงแต่ความสวยงามแต่กลับไม่สามารถใช้ได้จริง”
ความตั้งใจกับงานออกแบบดีไซน์ที่ต้องอาศัยความคิดในทุกระบบ ทำให้ดูเหมือนกรจะมีเรื่องเครียดตลอดทั้งวัน ซึ่งเขายอมรับว่าจริง แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ความเครียดเข้ามาปกคลุมหัวใจแม้แต่วินาทีเดียว เพราะทุกครั้งที่เริ่มเครียดเขาจะมานั่งเล่นที่บ่อปลา หรือเที่ยวดูปลาเป็นการผ่อนคลายความรู้สึก
หนุ่มกรบอกว่า มีโอกาสเลี้ยงปลามาตั้งเด็ก พร้อมสุนัขและแมว แต่ช่วงไปเรียนต่างประเทศก็ห่างเหินไปพักใหญ่ เมื่อกลับจากต่างประเทศ แม่ปรับปรุงบ้านใหม่จึงขุดบ่อปลา “ตอนนั้นเริ่มสนใจปลาคาร์ฟ ก็ไปซื้อมาตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ สนุกและมีความสุขมากครับ ได้ดูแล ให้อาหารเองทุกเช้า จากเดิมมีไม่กี่ตัว ตอนนี้เพิ่มเป็นร้อยกว่าตัวแล้ว พอเห็นเขาเติบโต ยิ่งสวยยิ่งภูมิใจ ผมมองว่าการเลี้ยงปลาไม่ให้ตายนั้นไม่ยาก แต่เลี้ยงปลาให้มีความสวยสมบูรณ์นั้นยากกว่ามาก”
กรยังบอกอีกว่า การเลี้ยงปลาคาร์ฟของเขาก็เพื่อความเพลิดเพลิน ไม่ได้เลี้ยงเพื่อขาย ดังนั้น ถ้าปลาในบ่อต้องตายไปสักตัวก็เสียใจเช่นกัน เพราะทุกตัวเป็นเหมือนเพื่อน มีความผูกพันกันเป็นเรื่องธรรมดา
สำหรับเสน่ห์ของปลาในมุมของเขานั้น อยู่ที่การว่ายน้ำในแบบเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย แต่ไม่เคยหยุดนิ่ง ปลาเหล่านี้สามารถสร้างพลังและกำลังใจให้เขาได้เป็นอย่างดียิ่งโดยเฉพาะในยามที่ท้อแท้ “ปลายังไม่เคยหยุด เราเป็นคนมีมือมีสมองถ้าหยุดนิ่งก็แพ้ปลา”
การพูดคุยกันท่ามกลางเสียงน้ำไหลและการดีดน้ำเล่นของปลาที่ว่ายไปมา จบลงอย่างรวดเร็ว แววตาของกร ระหว่างที่เล่าเรื่องราวของปลา ฉายแววของความสุขและความตั้งใจ ใบหน้าที่อิ่มสุขเมื่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในชีวิต ทำให้เราเพลิดเพลินมีความสุขและประทับใจยิ่งนัก โดยหวังว่าในวันข้างหน้า จะมีโอกาสได้มาสัมผัสปลาสวยๆ ของเขาอีกสักครั้ง
