จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ ทายาทสกุลดังของเมืองไทย จนเติบโตเป็นสาวและสวยมาก ทำงานเป็นนักบริหารช่วยพ่อดูแลธุรกิจดำน้ำและรีสอร์ตหรูที่อินโดนีเซีย เชื่อไหมว่า ถึงจะโตแค่ไหนชีวิตจะเปลี่ยนอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนและไม่ห่างหายจากสตรีที่ชื่อ แพร - พัณณิตา ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ณ สงขลา) คือครอบครัว โดยเฉพาะความรักที่เธอมีให้พ่อแม่รวมถึงรักที่พ่อแม่มีให้เธอนั้น ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย และในอากาสวันพ่อปีนี้ น้องแพรจะมาพูดถึงเรื่องราวดีๆที่พ่อและแม่มีให้เธอ
แพร - พัณณิตา ในชุดกระโปรงลูกไม้สีเนื้อเรียบหรู เปิดประตูบ้านหลังใหญ่ท้ายซอยสีลม 19 ที่ร่มรื่นด้วยร่มเงาไม้ใหญ่ของ รศ.กรรติกา ณ สงขลา ผู้เป็นยาย เพื่อพูดคุยเรื่องครอบครัวด้วยท่วงท่าสง่างาม โดยระหว่างเดินไปยังห้องรับแขก แพรหันมาบอกเล่าความเป็นมาของบ้านไม้สักโบราณอายุกว่า 100 ปีที่เธอรักว่า เคยเป็นเรือนหอของคุณทวด เจ้าพระยาศรีธรรมธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) กับ ท่านผู้หญิงน้อม ซึ่งต่อมากลายเป็นมรดกตกทอดให้คุณตา เจตนา ณ สงขลา เธอเองก็เติบโตมากับบ้านหลังนี้ และเดี๋ยวนี้ทุกเสาร์-อาทิตย์เธอจะต้องเดินทางมาพักที่นี่เพื่อดูแลคุณยาย
สาวใบหน้าสวยคนนี้เรียกได้ว่าถอดแบบความสุขุมมาจากพ่อ คุณกษิดิศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และความงามจากแม่ คุณฐิติพร ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ณ สงขลา)มาอย่างครบถ้วน บอกเราว่า หลังออกจากรั้วมาแตร์เดออี ก็เข้าเรียนที่ Shrewsbury International School ก่อนจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ
“ตอนเรียนคุณยายแอบบ่นตลอดค่ะ คือคุณยายกับคุณแม่เรียนอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ท่านก็อยากให้แพรเรียนแบบท่าน แต่แพรชอบฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ชอบค้นหา อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับยา เรื่องโครงสร้างการรักษาอาการเจ็บป่วย เลยเลือกเรียน Biomedical Sciences ที่ University College London (UCL) แล้วต่อโท Biomedical Engineering ที่ Imperial College London จบมาถึงแม้ไม่ได้ทำงานตรงสาย แต่อนาคตแพรมีแผนนำมาต่อยอดในธุรกิจส่วนตัวที่คิดอยากทำค่ะ”
ด้วยความที่แพรเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ดังนั้นทั้งพ่อและแม่จึงทั้งหวงและห่วงลูกสาวคนนี้มากมาย เมื่อถามว่าพ่อรักและห่วงขนาดไหน เธอได้เล่าย้อนถึงความประทับใจในความรักที่พ่อกษิดิศ มีให้เธอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่ชัดเจนราวกับว่าเหตุการณ์นี้เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานว่า
“ตอนไปเรียต่อที่อังกฤษถือเป็นการก้าวออกจากบ้านคนเดียวครั้งแรกในชีวิตค่ะ และไปอยู่ที่โน่นต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ก็กลัวเพราะไม่เคยอยู่คนเดียวมาก่อน เลยต้องโทรคุยกับทางบ้านตลอดเวลา แค่แพรโทรศัพท์คุยกับคุณพ่อว่าแพรเหงาแพรกลัวไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว เท่านั้นคุณพ่อก็บินมาหาทันที ซึ่งแพรตกใจมากไม่คิดว่าพ่อจะทำให้แพรได้มากขนาดนี้ แพรแน่ใจว่าไม่มีใครรักแพรได้มากเท่านี้ เพราะคุณพ่อคือคนที่อยู่เคียงข้างแพรในวันที่ไม่ว่าแพรจะสุขหรือทุกข์”
และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เธอไม่เคยลืมเลยนั่นก็คือ วันที่เข้าประกาศผลเข้ามหาวิทยาลัย UCL ที่ประเทศ อังกฤษได้ ด้วยเกรดเฉลี่ย A หมด เมื่อส่งให้พ่อดู พ่อก็น้ำตาคลอ เพราะรู้ว่าลูกสาวคนนี้จะต้องไปอยู่ตัวคนเดียวที่เมืองนอกและต้องต่อสู้ทุกอย่างที่ในชีวิตไม่เคยทำ แต่สุดท้ายลูกก็ทำได้ดี
เมื่อรู้ซึ้งถึงความรักความห่วงใยที่พ่อแม่มีให้ เธอในฐานะลูกสาวคนเดียวของครอบครัวแล้ว แพรบอกว่าก็พร้อมจะ เสียสละและทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่และครอบครัวของเธอซึ่งนับรวมถึง คุณยาย คุณย่า ที่ทำให้แพรได้มีวันนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับวันพ่อปีนี้ แพรยังบอกอีกว่า ตั้งใจวางแผนจะทำอาหารอร่อยๆด้วยฝีมือแพรเองให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชิม “พ่อเป็นคนที่ชอบทานอาหารมาก (เน้นเสียง) ทำอาหารอร่อยด้วยค่ะ และเป็นคนสอนแพรทำอาหารตั้งแต่เด็ก ท่านจบเลอ กอร์ดอง เบลอ จากประเทศอังกฤษ ครอบครัวเรานอกจากเที่ยวแล้วก็ชอบเรื่องทานอาหารนี่แหละค่ะ
และก่อนจากกันแพรยังพูดถึงอนาคตของเธออีกว่า ปีหน้าเธอวางแผนจะไปเรียนต่อด้าน MBA ด้านการบริหารโดยตรงเพื่อจะได้กลับมาช่วยพ่อทำงาน และเปิดธุรกิจที่เธอตั้งใจไว้แต่ยังของอุบไว้ก่อนอีกด้วย