โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
การพูดถึง วัคซีนกับผู้ใหญ่ ดูจะเป็นเรื่องไม่คุ้นหูนัก เมื่อเทียบกับเด็กที่มีตารางฉีดวัคซีนสารพัดนับแต่คลอดออกมาเผชิญโลก
แล้วก็ต้องมาเผชิญกับการฉีดวัคซีนต่อไปอีกตามคิว
มนุษย์เราเริ่มต้นรับวัคซีนกันตั้งแต่เริ่มเปิดตัวกับโลกเป็นต้นมาถือว่าเป็นความเจ็บที่มีประโยชน์ แต่ครั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเรามีที่พึ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ “แอนติบอดี้” หรือภูมิคุ้มกายที่ธรรมชาติมอบให้ไว้กับทุกคน
เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด
แต่ในบางจังหวะชีวิตเราก็อาจมีเหตุให้ฉีดวัคซีนบ้าง อย่างเวลาถูกมีดบาดต้องฉีดบาดทะยัก หรือสุนัขกัดต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เพื่อสร้างให้มีสารคุ้มกายเราอยู่ภายในดังที่ว่านี่เองครับ
นอกจากนั้นในปัจจุบันยังมีโรคภัยไข้เจ็บหลายโรคที่ประดังเข้ามา ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพียงขณะเดียวคือในสมัยเด็ก ก็อาจไม่ครอบคลุมยาวนานมาจนเติบใหญ่อย่างตอนนี้ พลังคุ้มกายนั้นย่อมอ่อนแรงลงไป
จึงมีวัคซีนอยู่หลายชนิดที่อาจต้องฉีดตอนโตครับ
>>เสริมภูมิกันตอนโต
1) บาดทะยัก
ฉีดหลังจากมี “เหตุ” ครับ โดยเหตุที่ว่าได้แก่อุบัติเหตุเป็นแผลหรือสัตว์กัด ถึงแม้สมัยเด็กพวกเราต่างเคยถูกฉีดกันมาแล้วคนละหลายจึ้ก แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นอีกและเป็นเวลานาน หลังจากนั้นก็จำเป็นต้องฉีด “กระตุ้น” ครับ
ซ้ำถ้าแผลดูเปื้อนดินมอมแมมมาก ก็ควรต้องฉีดให้ครบถ้วนทั้งกระตุ้นและตัวภูมิคุ้มกันโดยตรงในกลุ่มบาดทะยักเลยครับ
สำหรับท่านที่เคยแพ้อาจขอทางเลือกเป็นวัคซีนแบบ “แพ้น้อย” ก็ได้ครับ
2) พิษสุนัขบ้า
เป็นวัคซีนที่มีคนเข้าใจผิดเยอะมาก นี่พูดจากประสบการณ์ตัวเองที่ตรวจคนไข้อยู่ทุกวันคือ คนมักจะเชื่อว่าถ้าถูกสุนัขหรือแมวที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามาแล้ว ตัวเราถูกกัดไม่จำเป็นต้องฉีดก็ได้
ซึ่งเรื่องนี้ไม่จริงเลยตรงที่ถ้าการกัดนั้นมีเลือดออกหรือมีน้ำลายสัตว์กระเด็นเข้าตาเข้าปาก อย่างนี้ก็จำเป็นต้องฉีดแล้วครับ
3) ไข้หวัดใหญ่
เป็นวัคซีนที่ดีมากช่วยชีวิตพวกเรามามากมาย เพราะไข้หวัดใหญ่เป็นไวรัสที่แม้ไม่รุนแรง แต่ก็มีผลกับบุคคลกลุ่มพิเศษที่เราห่วงใยอย่างเด็กเล็กๆ, คุณแม่ตั้งครรภ์, คนเป็นเบาหวาน และปู่ย่าตายายผู้อาวุโสทั้งหลาย เพราะท่านเหล่านี้มีสิทธิ์ติดได้ง่ายจากภูมิคุ้มกันที่เปราะบางอยู่แล้ว
ใครจะรู้ว่าการติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ครั้งหนึ่งอาจทำร้ายท่านอย่างหนักจนล้มหมอนนอนเสื่อกันก็ได้
4) คอตีบ
เป็นวัคซีนที่กำลังดังในช่วงนี้ ทางกระทรวงชี้ไว้ในประเด็นที่ดีคือ ผู้ใหญ่ในวัย 20-50 ปีควรต้องรอบคอบไว้เพราะผู้ใหญ่ก็ป่วยได้ ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขท่านจัดโครงการใหญ่สุดในโลกขึ้น
เพราะแม้วัคซีนนี้เราจะเคยฉีดมาแล้วแต่นั่นก็เป็นเมื่อเนิ่นนานกาเลมา ครั้นเมื่อโตแล้วภูมิในกายเราก็อาจเริ่มเจือจางลงทำให้เสี่ยงต่อเชื้อที่ว่าได้ถ้าไปสัมผัสเข้า
ดังนั้นการฉีดวัคซีนไว้อีกครั้งตอนเป็นผู้ใหญ่จึงเหมือนการปลุกภูมิเราให้ตื่นขึ้นมาคุ้มกายอีกครั้งครับ
5) ไวรัสตับอักเสบบี
เป็นวัคซีนที่ก่อนฉีดควรตรวจเลือดให้ดีก่อน เพราะหลายท่านเจาะเลือดแล้วพบว่า “มีภูมิ” อยู่แล้วซึ่งท่านอาจไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนอีกให้เจ็บตัว กับอีกกรณีหนึ่งคือ ตรวจเลือดแล้วพบว่าภูมิเริ่มต่ำไม่พอคุ้มกาย ก็จะได้รีบฉีดกระตุ้นอีกสักเข็มหนึ่งเสีย
เพียงเท่านี้ท่านก็จะมีเกราะกันไวรัสที่ทำให้ตับเป็นมะเร็งได้แล้วครับ
6) ป้องกันเชื้อเอชพีวี
เป็นวัคซีนในผู้ใหญ่ที่ควรฉีดตั้งแต่เด็ก ฟังแล้วอย่าเพิ่งตาเขียวว่าผมกวนนะครับ เพราะที่จริงวัคซีนป้องกันเชื้อมะเร็งปากมดลูกนี้ ควรฉีดเข็มแรกตั้งแต่ก่อนเข้าวัยเจริญพันธุ์ครับ จึงจะได้ผลดีที่สุด
ในช่วงก่อนวัยรุ่นเป็นวัยที่เหมาะสมแต่ส่วนใหญ่เรามักไปฉีดกันตอนโตหรือมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วซึ่งนั่นคือ ได้รับเสี่ยงเอชพีวีไปเรียบร้อยแล้ว
การฉีดวัคซีนมีข้อควรระวังอยู่ประการหนึ่งคือ “การแพ้” ที่อาจเกิดจากตัววัคซีนเอง หรือส่วนประกอบในวัคซีนก็ได้ โดยหลักของการฉีดวัคซีนข้อสำคัญคือ “วัคซีนไม่ได้ป้องกันได้ 100%” และ “ไม่ใช่ยิ่งฉีดมากยิ่งดี”
หากแต่ต้องฉีดตาม “ข้อบ่งชี้” ที่เหมาะสมครับ นั่นคือเด็กเล็กให้เลือกฉีดวัคซีนชนิดจำเป็น “อย่าให้ขาด” ส่วนวัคซีนเสริมนั้นก็ให้ดูตามความเหมาะไป เพราะสิ่งที่ต้องรู้คือการฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันได้ 100% แต่สิ่งดีที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูแลป้องกันลูกเราตั้งแต่ต้นครับ
ร่วมกันเป็นทีมเพื่อกันให้ได้มากที่สุด
ขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
การพูดถึง วัคซีนกับผู้ใหญ่ ดูจะเป็นเรื่องไม่คุ้นหูนัก เมื่อเทียบกับเด็กที่มีตารางฉีดวัคซีนสารพัดนับแต่คลอดออกมาเผชิญโลก
แล้วก็ต้องมาเผชิญกับการฉีดวัคซีนต่อไปอีกตามคิว
มนุษย์เราเริ่มต้นรับวัคซีนกันตั้งแต่เริ่มเปิดตัวกับโลกเป็นต้นมาถือว่าเป็นความเจ็บที่มีประโยชน์ แต่ครั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเรามีที่พึ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ “แอนติบอดี้” หรือภูมิคุ้มกายที่ธรรมชาติมอบให้ไว้กับทุกคน
เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด
แต่ในบางจังหวะชีวิตเราก็อาจมีเหตุให้ฉีดวัคซีนบ้าง อย่างเวลาถูกมีดบาดต้องฉีดบาดทะยัก หรือสุนัขกัดต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เพื่อสร้างให้มีสารคุ้มกายเราอยู่ภายในดังที่ว่านี่เองครับ
นอกจากนั้นในปัจจุบันยังมีโรคภัยไข้เจ็บหลายโรคที่ประดังเข้ามา ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพียงขณะเดียวคือในสมัยเด็ก ก็อาจไม่ครอบคลุมยาวนานมาจนเติบใหญ่อย่างตอนนี้ พลังคุ้มกายนั้นย่อมอ่อนแรงลงไป
จึงมีวัคซีนอยู่หลายชนิดที่อาจต้องฉีดตอนโตครับ
>>เสริมภูมิกันตอนโต
1) บาดทะยัก
ฉีดหลังจากมี “เหตุ” ครับ โดยเหตุที่ว่าได้แก่อุบัติเหตุเป็นแผลหรือสัตว์กัด ถึงแม้สมัยเด็กพวกเราต่างเคยถูกฉีดกันมาแล้วคนละหลายจึ้ก แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นอีกและเป็นเวลานาน หลังจากนั้นก็จำเป็นต้องฉีด “กระตุ้น” ครับ
ซ้ำถ้าแผลดูเปื้อนดินมอมแมมมาก ก็ควรต้องฉีดให้ครบถ้วนทั้งกระตุ้นและตัวภูมิคุ้มกันโดยตรงในกลุ่มบาดทะยักเลยครับ
สำหรับท่านที่เคยแพ้อาจขอทางเลือกเป็นวัคซีนแบบ “แพ้น้อย” ก็ได้ครับ
2) พิษสุนัขบ้า
เป็นวัคซีนที่มีคนเข้าใจผิดเยอะมาก นี่พูดจากประสบการณ์ตัวเองที่ตรวจคนไข้อยู่ทุกวันคือ คนมักจะเชื่อว่าถ้าถูกสุนัขหรือแมวที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามาแล้ว ตัวเราถูกกัดไม่จำเป็นต้องฉีดก็ได้
ซึ่งเรื่องนี้ไม่จริงเลยตรงที่ถ้าการกัดนั้นมีเลือดออกหรือมีน้ำลายสัตว์กระเด็นเข้าตาเข้าปาก อย่างนี้ก็จำเป็นต้องฉีดแล้วครับ
3) ไข้หวัดใหญ่
เป็นวัคซีนที่ดีมากช่วยชีวิตพวกเรามามากมาย เพราะไข้หวัดใหญ่เป็นไวรัสที่แม้ไม่รุนแรง แต่ก็มีผลกับบุคคลกลุ่มพิเศษที่เราห่วงใยอย่างเด็กเล็กๆ, คุณแม่ตั้งครรภ์, คนเป็นเบาหวาน และปู่ย่าตายายผู้อาวุโสทั้งหลาย เพราะท่านเหล่านี้มีสิทธิ์ติดได้ง่ายจากภูมิคุ้มกันที่เปราะบางอยู่แล้ว
ใครจะรู้ว่าการติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ครั้งหนึ่งอาจทำร้ายท่านอย่างหนักจนล้มหมอนนอนเสื่อกันก็ได้
4) คอตีบ
เป็นวัคซีนที่กำลังดังในช่วงนี้ ทางกระทรวงชี้ไว้ในประเด็นที่ดีคือ ผู้ใหญ่ในวัย 20-50 ปีควรต้องรอบคอบไว้เพราะผู้ใหญ่ก็ป่วยได้ ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขท่านจัดโครงการใหญ่สุดในโลกขึ้น
เพราะแม้วัคซีนนี้เราจะเคยฉีดมาแล้วแต่นั่นก็เป็นเมื่อเนิ่นนานกาเลมา ครั้นเมื่อโตแล้วภูมิในกายเราก็อาจเริ่มเจือจางลงทำให้เสี่ยงต่อเชื้อที่ว่าได้ถ้าไปสัมผัสเข้า
ดังนั้นการฉีดวัคซีนไว้อีกครั้งตอนเป็นผู้ใหญ่จึงเหมือนการปลุกภูมิเราให้ตื่นขึ้นมาคุ้มกายอีกครั้งครับ
5) ไวรัสตับอักเสบบี
เป็นวัคซีนที่ก่อนฉีดควรตรวจเลือดให้ดีก่อน เพราะหลายท่านเจาะเลือดแล้วพบว่า “มีภูมิ” อยู่แล้วซึ่งท่านอาจไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนอีกให้เจ็บตัว กับอีกกรณีหนึ่งคือ ตรวจเลือดแล้วพบว่าภูมิเริ่มต่ำไม่พอคุ้มกาย ก็จะได้รีบฉีดกระตุ้นอีกสักเข็มหนึ่งเสีย
เพียงเท่านี้ท่านก็จะมีเกราะกันไวรัสที่ทำให้ตับเป็นมะเร็งได้แล้วครับ
6) ป้องกันเชื้อเอชพีวี
เป็นวัคซีนในผู้ใหญ่ที่ควรฉีดตั้งแต่เด็ก ฟังแล้วอย่าเพิ่งตาเขียวว่าผมกวนนะครับ เพราะที่จริงวัคซีนป้องกันเชื้อมะเร็งปากมดลูกนี้ ควรฉีดเข็มแรกตั้งแต่ก่อนเข้าวัยเจริญพันธุ์ครับ จึงจะได้ผลดีที่สุด
ในช่วงก่อนวัยรุ่นเป็นวัยที่เหมาะสมแต่ส่วนใหญ่เรามักไปฉีดกันตอนโตหรือมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วซึ่งนั่นคือ ได้รับเสี่ยงเอชพีวีไปเรียบร้อยแล้ว
การฉีดวัคซีนมีข้อควรระวังอยู่ประการหนึ่งคือ “การแพ้” ที่อาจเกิดจากตัววัคซีนเอง หรือส่วนประกอบในวัคซีนก็ได้ โดยหลักของการฉีดวัคซีนข้อสำคัญคือ “วัคซีนไม่ได้ป้องกันได้ 100%” และ “ไม่ใช่ยิ่งฉีดมากยิ่งดี”
หากแต่ต้องฉีดตาม “ข้อบ่งชี้” ที่เหมาะสมครับ นั่นคือเด็กเล็กให้เลือกฉีดวัคซีนชนิดจำเป็น “อย่าให้ขาด” ส่วนวัคซีนเสริมนั้นก็ให้ดูตามความเหมาะไป เพราะสิ่งที่ต้องรู้คือการฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันได้ 100% แต่สิ่งดีที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูแลป้องกันลูกเราตั้งแต่ต้นครับ
ร่วมกันเป็นทีมเพื่อกันให้ได้มากที่สุด
ขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net