xs
xsm
sm
md
lg

วิลเลียม จาฎามระ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ทายาทอดีตแพทย์ประจำพระองค์ฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


>>เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงปลาบปลื้มกับหนุ่มนักกีฬาไม่น้อย Celeb Online จึงมีลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หนุ่มหล่อนักกีฬาโปโลม้ามาแนะนำให้รู้จัก นั่นคือ “วิลเลียม จาฎามระ” ชายหนุ่มผู้มีความสามารถทั้งในด้านกีฬา การเรียน และดนตรี ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “รศ.ดร.กฤษณ์ จาฎามระ” ผู้บริหารศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

“วิลเลียม จาฎามระ” หรือ วิล สาวๆ หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาเขาบ้างตามสื่อและอีเวนต์ต่างๆ ด้วยรูปร่างที่ฟิตเป๊ะแบบนักกีฬาเและซิกแพกที่สาวๆ เห็นแล้วต้องกรี๊ด ประกอบกับหน้าอันหล่อเหลาราวกับนายแบบจึงทำให้ได้รับการทาบทามให้ถ่ายแบบกับนิตยสารต่างๆ มากมาย เขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 19 ปี ลูกชายสุดหวงของ “คุณหญิงฟิโนล่า จาฎามระ” ชาวอังกฤษ กับ “รศ.ดร.กฤษณ์ จาฎามระ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งหลอดอาหาร อีกทั้งยังเป็นผู้บริหารศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นศูนย์มะเร็งเต้านมที่ดีที่สุดในประเทศไทย และอดีตแพทย์หลวงประจำพระองค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

หนุ่มนักกีฬาคนนี้เพิ่งเรียนจบไฮสคูลจาก Stowe School โรงเรียนเก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของอังกฤษ “ผมเรียนที่ Stowe School ซึ่งอยู่ใน Buckinghamshire โรงเรียนประจำแห่งนี้มีความเก่าแก่ประมาณ 300-400ปี ที่นี่มีคนไทยเรียนเยอะเหมือนกันครับ อย่าง “พี่แชมป์-ศักดิ์ทิพ ปันยารชุน” ก็เรียนที่นี่ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน ผมย้ายไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 13 ปี ตอนแรกๆ ที่ไปเรียนก็รู้สึกเหงามากและคิดถึงคุณพ่อคุณแม่มากด้วย ร้องไห้และโทรศัพท์กลับมาหาเขาเกือบทุกวัน แต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มชินและเริ่มสนุกกับโรงเรียน สนุกกับเพื่อนๆ และสนุกกับกีฬาต่างๆ ประกอบกับคุณพ่อคุณแม่โทรศัพท์มาหาเราบ่อย เวลาวิลมีปัญหาอะไรท่านก็เป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่อง หรือสายตรงถึงคุณพ่อเลย แล้วยิ่งตอนนี้มี facebook, Line, Whatapp และโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ก็ช่วยให้คุยกันแบบเห็นหน้ามันก็ยิ่งช่วยทำให้หายคิดถึงได้” วิลเล่าให้เราฟังสมัยเริ่มปรับตัวกับโรงเรียนใหม่

ด้วยความที่ชอบเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ วิลเลียมจึงได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาของโรงเรียนในหลายๆ ประเภท เช่น เป็นกัปตันทีมว่ายน้ำ นักวิ่งระยะสั้นและเป็นนักรักบี้ของโรงเรียน เขาได้เล่าประสบการณ์ในการแข่งขันกีฬาให้เราฟังว่า “มีอยู่ครั้งหนึ่งในการแข่งรักบี้รอบชิงชนะเลิศ โรงเรียนของวิลได้แข่งกับ Wellington School ซึ่งโรงเรียนนี้เขาเก่งเรื่องรักบี้มาก เราก็กังวลเหมือนกัน และยิ่งไปกว่านั้นเขามาเชียร์กันเยอะมากประมาณ 2,000 กว่าคน เหมือนขนมาทั้งโรงเรียน (หัวเราะ) ยิ่งทำให้ตื่นเต้นเข้าไปอีก ตอนแข่งพวกเราก็เล่นกันอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ได้ชัยชนะมาครองครับ”

หนุ่มนักกีฬาคนนี้เล่นกีฬามาแล้วหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น รักบี้ ว่ายน้ำ สโนว์บอร์ด เจ็ตสกี Wakeboard Water Sport ปีนเขา โปโลน้ำ โปโลม้า ฯลฯ “ผมชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้เล่นแล้วมันรู้สึกแปลกๆ เหมือนขาดอะไรไป ผมเล่นชอบกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะกีฬาที่ใช้ความเร็วแล้วก็ปะทะกัน อย่าง กีฬาโปโลม้า มันรู้สึกสนุกและท้าทายดี การขี่ม้าโปโลเป็นกีฬาที่มีความเก่าแก่อีกประเภทหนึ่ง เป็นกีฬาที่สนุกมากครับเพราะต้องใช้ความเร็วสูง มันจะแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 4 คน เล่นครึ่งละ 7 นาที พอตีเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามแล้วก็สลับด้าน คล้ายๆ ฟุตบอลน่ะครับ แต่เราอยู่บนม้าแล้วก็ต้องใช้ไม้ตีลูกเข้าประตูของอีกฝ่าย ซึ่งน่ากลัวและเป็นอันตรายเหมือนกันเพราะผู้ขี่ต้องทำความคุ้นเคยกับม้าเป็นอย่างดีด้วย”

วิลเลียมเล่าอุบัติเหตุในการแข่งขันกีฬาโปโลม้าที่เขาได้ประสบมาให้ฟังว่า “มีอยู่การแข่งขันหนึ่งครับซึ่งทำให้วิลไม่มีวันลืมการตกม้าครั้งนั้นเลย คือในระหว่างที่แข่งขันอยู่นั้น วิลกับคู่แข่งกำลังแย่งลูกบอลกันอยู่ แล้วลูกบอลมันก็กระเด็นไปอีกทาง เราก็เลยต่างคนต่างควบม้าให้เร็วเพื่อไปตีบอล แต่จู่ๆ ม้าของอีกฝ่ายเขาก็ขี่มาชนม้าของวิล จนทำให้เสียการทรงตัว ทำให้วิลตกลงมาแขนหัก จนอดเข้าร่วมการแข่งขันไปหลายรายการ อึดอัดมากที่ไม่ได้เล่น จำได้ว่าตอนนั้นพักฟื้นเป็นเดือนเหมือนกัน แต่ผมก็ยังไม่เข็ดกับกีฬานี้นะครับกลับยิ่งชอบมันเข้าไปอีก”

ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬาเท่านั้นที่เขาสนใจและชื่นชอบ วิลยังมีความสามารถด้านดนตรี อย่าง เปียโน ฝีมือเข้าขั้นได้เข้าร่วมวง Jazz Band ของโรงเรียนอีกด้วย “ตอนผมอยู่ Grade 7 เคยอยู่วง Jazz Band ของโรงเรียนครับ ตอนนั้นผมเล่นเปียโนซึ่งเป็นดนตรีที่ผมถนัด เพราะเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาว่างผมก็จะชอบร้องเพลงแล้วก็เล่นเปียโนไปด้วย มันช่วยให้ความเพลิดเพลินและเป็นการฝึกสมาธิไปในตัวครับ”

นอกจากวิลเลียมจะเป็นนักกีฬาของโรงเรียนแล้ว เขายังเป็น Head Boy หรือประธานนักเรียนอีกด้วย ซึ่ง Head Boy จะมีหน้าที่ดูแลรุ่นน้อง และคอยติดต่อประสานงานกับคุณครู ปรึกษาในเรื่องปัญหาต่างๆ ในโรงเรียน “ในปีสุดท้ายผมได้รับเลือกให้เป็น Head Boy ทุกวันจันทร์ Head Boy จะต้องกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้านักเรียนทุกชั้นปี ซึ่งแรกๆ ผมตื่นเต้นมาก ผมกับ Head Girl มีหน้าที่คอยดูแลน้องๆ คอยคุยประสานงานกับคุณครูและครูใหญ่ คอยช่วยเหลือแนะนำน้องๆ ในเรื่องต่างๆ ตอนเรียนจบ Head Boy กับ Head Girl ก็ต้องกล่าวสุนทรพจน์ทิ้งท้ายบนเวทีต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนประมาณ 4,000 คน นี่เป็นอีกเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นและน่ากลัวมาก ช่วงนั้นผมเตรียมตัวและซ้อมทุกวัน โดยซ้อมกับเพื่อนๆ แล้วก็ Head Girl เพื่อไม่ให้ตื่นเต้นมากในวันจริง”

ตอนนี้เขากำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในฝันของใครหลายๆ คน โดยอาชีพทนายหรืออาชีพเกี่ยวกับกฎหมายเป็นอาชีพที่เขาใฝ่ฝัน วิลอาจจะไม่ใช่ลูกไม้ที่หล่นใต้ต้น คือการเป็นแพทย์เหมือนผู้พ่อ และความชอบของหนุ่มวิลอาจจะแตกต่างจากบิดา แต่เป้าหมายที่เหมือนกันคือการช่วยเหลือผู้อื่น

“จริงๆ แล้วผมอยากเป็นทนายหรือนักกฎหมายครับ ผมว่าอาชีพเกี่ยวกับกฎหมายเป็นอาชีพที่ดี Opportunity มันเยอะ สิ่งที่ดีสำหรับกฎหมายคือช่วยคนได้ เป็นอาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน ผมชอบการทำงานเป็นทีม ชอบพูดคุย และชอบช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาครับ ผมอยากเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หรือไม่ก็ที่ LSE (London School of Economics and Political Science) ครับ”

หนุ่มลูกครึ่งคนนี้ไปอยู่ประเทศอังกฤษตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้เขาไม่ค่อยคุ้นชินกับภาษาไทยในตอนแรก เพราะห่างภาษาไทยไปนานมาก วิลยอมรับว่ากลับมาแรกๆ เขาพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้เลย กลับมารื้อฟื้นในช่วงหลังๆ ซึ่งใช้เวลาไม่กี่เดือนในการเรียนภาษาไทยจนพูดได้คล่อง

“ตอนผมกลับมาแรกๆ พูดภาษาไทยแทบไม่ได้เลย อยู่ที่โน่นก็ไม่ค่อยได้พูดภาษาไทย ผมจะฝึกเรียนและพูดภาษาไทยกับคุณพ่อครับ ท่านสอนทุกอย่างสอนให้ผมออกเสียงภาษาไทยให้ชัด สอนการวางตัว พูดภาษาไทยแรกๆ ก็เขินเหมือนกัน กลัวออกเสียงไม่ถูก ก็เลยฝึกพูดภาษาไทยกับคุณพ่อทุกวัน ส่วนคุณแม่ผมก็จะพูดเป็นภาษาอังกฤษครับ”

การไปเรียนต่างบ้านต่างเมืองเป็นเวลานานทำให้เขาคุ้นชินกับสถานที่ท่องเที่ยวในอังกฤษเป็นอย่างดี เวลาว่างวิลเลียมกับเพื่อนๆ ชอบไปแฮงเอาต์ย่าน Knightsbridge ซึ่งเป็นสถานที่สุดฮิปแห่งหนึ่งของลอนดอน “อยู่กรุงเทพฯ ผมไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไร เพราะว่ามีเวลาน้อย ที่ไปบ่อยที่สุดเห็นจะเป็นพัทยา เนื่องจากไปแข่งโปโล แต่ที่ลอนดอนผมเที่ยวบ่อยพอสมควร หากมีเวลาหลายๆ วันจะชอบไปเดินป่า ปีนเขากับเพื่อนๆ แต่ถ้ามีเวลาไม่มากก็จะไปฟังเพลงชิลๆ กันแถว Chelsea วิลชอบฟังเพลงชิลๆ สบายๆ แบบเพลงของ Jack Johnson ครับ บางอารมณ์ก็ชอบเพลงพวก Deep House สนุกๆ”

ส่วนของสะสมของ วิลเลียม จาฎามระ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อกีฬา รองเท้ากีฬา และรองเท้าหลากหลายสไตล์ โดยเฉพาะทรงที่ดูเก่าๆ วินเทจๆ หน่อย “ผมชอบสะสมพวกเสื้อกีฬาครับ มันสวยและมีลวดลายที่หลากหลายดีครับ ส่วนรองเท้าจริงๆ แล้ว ถ้าเดินผ่านแล้วเห็นว่าทรงสวยถูกใจถึงซื้อ มีหลายคู่เหมือนกันครับ ผมชอบรองเท้าของ Tod's รองเท้าเขาทรงสวย ใส่สบาย แล้วก็สามารถใส่แมตช์ได้กับหลายชุด เพราะส่วนใหญ่ผมจะชอบใส่เสื้อผ้าโทนสีขาว ดำ น้ำเงิน หรือโทนสีเข้มๆ มากกว่า”

เรื่องของสาวในสเปกของหนุ่มคนนี้ เขาชอบผู้หญิงที่คุยกันรู้เรื่อง และดูที่นิสัยใจคอเป็นประเด็นหลัก “หน้าตาก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทุกคนสนใจเป็นอันดับแรก แต่นิสัยใจคอก็เป็นสิ่งสำคัญในการที่เราจะคบหาใครสักคน ไม่ใช่รูปร่างหน้าตาภายนอกอย่างเดียว แค่เราคุยกันทุกเรื่อง เข้าใจกัน และเข้ากับคุณพ่อคุณแม่และเพื่อนฝูงเราได้ ผมก็โอเคแล้วครับ”

วิลเลียมสนุกกับสิ่งที่เขาทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน กีฬา หรือว่าดนตรี และเขาก็ทำได้ดีในทุกๆ ด้าน เคล็ดลับของหนุ่มคนนี้ คือ การแบ่งเวลา หากเราแบ่งเวลาได้ดีแล้ว ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน เราก็สามารถทำสิ่งที่เรารักควบคู่กันไปได้



เคล็ดการฟิตหุ่นของหนุ่มนักกีฬา
-ออกกำลังกายเป็นประจำ และควรมีการวอร์มก่อนเล่นทุกครั้งเพื่อเป็นการลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เพราะบางครั้งหากเราไม่มีการวอร์มก่อนการเล่นก็อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
-ควรให้ความสำคัญกับอาหารการกิน ควรกินอาหารที่มีประโยชน์และไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไปเพราะมันอาจจะสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน
-ที่สำคัญคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้านอนดึกมันจะเป็นปัญหากับการสร้างกล้ามเนื้อหรือซิกแพก
-การเล่นกีฬากลางแจ้ง อย่าง โปโลม้า ควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง และหลังจากเล่นเสร็จควรทาครีมพวก After Sun เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวไหม้  :: Text by FLASH

Fact File
ชื่อ : วิลเลียม จาฎามระ
ชื่อเล่น : วิล
อายุ : 19 ปี
การศึกษา : Stowe School ประเทศอังกฤษ
งานอดิเรก : เล่นกีฬา เช่น รักบี้ ว่ายน้ำ โปโลม้า (เป็นกีฬาที่โปรดปรานเป็นพิเศษ)

Special Thanks : โรงแรมดับเบิลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2649-6772 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ www.doubletree.com
กำลังโหลดความคิดเห็น