แม้จะไม่ได้เป็นนักพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ แต่ด้วยความที่ตระกูลนิรันดรนั้น อดีตเป็นถึงเจ้าของและผู้ก่อตั้งธนาคารนครหลวงไทย จึงมีแลนด์แบงก์อยู่ในพอร์ตไม่น้อย โดยเฉพาะ ที่ดิน 400 ไร่ ที่เขาใหญ่นั้น ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของทิวเขาสูงตามธรรมชาติ ที่ล้อมรอบเป็นชั้นๆ อากาศเย็นสบายตลอดปี ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลทองทีเดียว
ทั้ง ปราณี เยาวณี และ ธรรมรัชต์ 3 พี่น้อง จึงตัดสินใจนำที่ดินผืนใหญ่นี้ มาพัฒนาเป็นโครงการที่ชื่อ “บ้านทิวเขา” มูลค่าโครงการ5,000 ล้านบาท ที่เอาเงินสดๆ ใส่เข้าไปโดยไม่ต้องกู้แบงก์เลย ซึ่ง ธรรมรัตน์ ในฐานะCEO ของโครงการนี้ ตอบแบบขำๆ ว่า “ไม่กู้ ไม่ยืม เสียดาลยดอกเบี้ย” สมกับเป็นอดีตผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารนครหลวงไทย จริงๆ
โครงการบ้านทิวเขา ตั้งอยู่ต้นถนนธนะรัชต์ กิโลเมตรที่ 3 โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ด้านหน้าโครงการเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ Ribs Bann ซึ่งบริหารโดย บุ๊ค-ปฏิรูป ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ ความอร่อยของอาหารไทยและยุโรป เลื่องลือขนาดคนกรุงเทพฯ มากินจนแน่นร้านทุกสุดสัปดาห์
บรรยากาศในโครงการร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย โดยเฉพาะ ต้นมะขามใหญ่ยักษ์อายุกว่า 60 ปี อันเป็นต้นไม้เดิมที่อยู่คู่มากับผืนดินแห่งนี้ เจ้าของโครงการ อนุรักษ์ไว้ด้วยการวางผังตัดถนนไปตามแนวต้นมะขาม สร้างความร่มรื่นสบายตาให้กับโครงการมาก
ในส่วนของโครงการ สร้างเป็นคอนโดเตี้ยๆ 4ชั้น ที่ตั้งราคาเริ่มต้นเพียง 1.4 ล้านบาท สำหรับห้อง 24 ตร.ม. จึงขายดิบขายดีหมดไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ขึ้นคอนโดเฟส 3 คงเหลือเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น ที่ขายดีไม่ใช่เพียงราคาที่ถูกเท่านั้น แต่ด้านหน้าคอนโด ยังลงทุนก่อสร้างน้ำตกขนาดใหญ่พร้อมกับลำธารน้ำกลมกลืนไปกับธรรมชาติ บรรยากาศอย่างนี้ ในราคานี้ คงหาไม่ได้ในกรุงเทพฯ
ไฮไลต์อยู่ที่บ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีระเบียงหน้าบ้านโปร่งในสไตล์อเมริกัน ที่สร้างลดหลั่นไปตามเนินเขา ใครเคยขับรถไปเที่ยวจิบไวน์แถวนาป้า วัลเลย์ คงพอจะนึกออก บ้านแต่ละหลังไม่มีรั้วให้รกสายตา ปล่อยให้เจ้าของบ้านมีโอกาสนั่งอยู่ที่ระเบียง ทอดตาไกลดูภูเขา พร้อมกับสูดอากาศเย็นฉ่ำของเขาใหญ่อย่างมีความสุข
“นี่เป็นแบบหมู่บ้านในฝันของผมเลย ผมอยากให้ที่นี่เป็นชุมชนเล็กๆ ที่ทุกคนมีความเอื้ออาทรกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”
นั่นคือความฝันของธรามรัชต์ ที่เขาพยายามจะทำให้เป็นจริง ดังนั้น สิ่งที่โครงการบ้านทิวเขาไม่เหมือนที่อื่นๆ คือ “ความผูกพัน” ระหว่างเพื่อนบ้านและลูกบ้าน ที่นอกจากเจ้าของโครงการทั้งตระกูลนิรันดร จะยกครอบครัวมาอาศัยอยู่แล้ว ธรรมรัชต์ยังขอเสนอตัวเป็น “ผู้ใหญ่บ้าน”
“ผมขอตั้งตัวเองเป็นผู้ใหญ่บ้านดูแลหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรเป็นลูกบ้าน ผมอยากเปลี่ยนพฤติกรรมคนเมือง ที่มีรั้วบ้านติดกันแต่ไม่รู้จักกัน ให้มาอยู่ที่นี่เหมือนครอบครัวใหญ่”
เขาเริ่มจากยกพื้นที่แปลงหนึ่งเป็นที่ปลูกผัก ทั้งพริก ผักชี แครอทญี่ปุ่น กวางตุ้งฮ่องกง ผักสลัดฯลฯ เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนสามารถตื่นเช้ามาเด็ดผักสดๆ จากสวน ไปประกอบอาหารรับประทานกัน
“ตอนนี้ผมเริ่มเปิดชาร์จว่า สัปดาห์นี้มีลูกบ้านคนไหนมาพักแล้วต้องการไปตีกอล์ฟบ้าง ก็จะได้รวมกลุ่มกันไป หรือทำกิจกรรมสอนทำเค้ก เพื่อให้เพื่อนบ้านมีสันทนาการร่วมกัน ได้รู้จักกัน”
เปิดโครงการมาไม่นาน ปรากฏว่า ขณะนี้มีลูกบ้านจองซื้อไปกว่า 99% แล้ว ดังนั้น เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โครงการบ้านทิวเขาจึงจัดงานขอบคุณลูกค้า โดยเนรมิตพื้นที่ในโครงการจัดปาร์ตี้กลางหุบเขา และเชิญ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย พร้อมภริยา มาเป็นประธาน ซึ่งมีการเชิญลูกบ้านกว่า 200 คน มาร่วมกันตัดไส้กรอกที่ยาวที่สุด 200 ชิ้น พร้อมกับแจกรางวัลมูลค่ากว่า 3 แสนบาท โดยรางวัลใหญ่สุดเป็น แหวนเพชร มูลค่าเกือบ 2 แสนบาท ให้แก่ลูกบ้านที่โชคดี
งานนี้เหล่าลูกบ้านแฮปปี้สุดๆ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net