xs
xsm
sm
md
lg

14 ข้อห้ามทำในวันตรุษจีน ซวยซ้ำซ้อนตลอดปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

วันตรุษจีน ถือว่าเป็นวันแรกแห่งการเริ่มต้นใหม่ของปีสำหรับชาวจีน แน่นอน ทุกคนมักจะพูดแต่สิ่งดีเพื่อเป็นนิมิตรหลายที่ดีเริ่มชีวิตใหม่ในปีใหม่

ทว่า ยังมีสิ่งที่ ต้องห้ามทำในวันตรุษจีน อีกด้วย เพราะเชื่อว่า จะนำความทุกข์โศกเข้าบ้าน และทั้งปีจะมีแต่สิ่งไม่ดี


ห้ามแรก: กวาดบ้าน

การกวาดทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีนนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมีความเชื่อที่ว่า จะเป็นการกวาดไล่สิ่งมงคลทิ้งออกไปจากบ้าน ไม่เทขยะ ไม่สาดน้ำเสีย ไม่กวาดพื้น นะคะ

ดังนั้น จึงควรทำความสะอาดบ้านเรือน ปัดกวาดฝุ่นละออง หยากไย่ที่ติดอยู่บนเพดาน เช็ดถูคราบสกปรกตามจุดที่ทำความสะอาดไม่ทั่วถึงซะก่อนตรุษจีนให้บ้านสะอาดเอี่ยมก่อนฉลองปีใหม่จะดีที่สุด


ห้ามสอง: กินโจ๊ก-ข้าวต้ม

เพราะโจ๊กและข้าวต้มมีข้าวน้อยแต่น้ำเยอะ ทำให้มีความเชื่อที่ว่า ทานโจ๊กหรือข้าวต้มในมื้อแรกของปีใหม่ จะทำให้การกินอยู่อย่างฝืดเคือง มีข้าวให้กินน้อยนั่นเอง เหมือนกับเป็นการขัดขวางตนเองไม่ให้รวย

ห้ามสาม: เนื้อสัตว์

เพราะเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ ดังนั้นการกินเจในมื้อเช้า ซึ่งก็คือมื้อแรกของปี จะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปีเลยล่ะค่ะ

ห้ามสี่: ตัดเล็บ ตัดผม

เนื่องจากกรรไกรตัดเล็บ กรรไกรตัดผม มีด เป็นของมีคม ชาวจีนจึงเชื่อว่า การตัดผมหรือการตัดเล็บในวันขึ้นปีใหม่นั้น เท่ากับว่าเป็นการตัดสิ่งที่ดี หรืออนาคตที่สวยงามออกไปจากชีวิต

ห้ามห้า: ซุ่มซ่าม

พยายามทำตัวให้ปลอดภัย ไม่ควรทำของตกแตก หรือลื่น สะดุด หกล้ม เจ็บป่วยในวันแรกของปี ซึ่งจะทำให้ความอับโชคเข้ามาในชีวิตได้
ดังนั้นต้องระวังเรื่องถ้วยชามแก้วน้ำกันเป็นพิเศษ ห้ามซุ่มซ่ามเชียวค่ะ

ห้ามหก: ให้คนอื่นล้วงกระเป๋าตนเอง

เช่นวานให้เพื่อนมาหยิบของในกระเป๋ากางเกง เสื้อ เพราะมือไม่ว่าง หรือไม่สะดวกอะไรก็ตาม

หรือใครก็ตามให้คุณล้วงของในกระเป๋าของเขา ต้องปฏิเสธไปในวันตรุษจีนนี้ เพราะมีความเชื่อว่าปีนี้จะถูกล้วงสิ่งดีๆ ในชีวิตออกไปหมด


ห้ามเจ็ด: สระผม

เชื่อว่าการสระผมจะชะล้างความโชคดีที่จะเข้ามาสู่ชีวิตในวันปีใหม่ ดังนั้นควรจะสระให้หอมๆ ก่อนตรุษจีนจะทำให้โชคลาภยังคงอยู่ค่ะ

อย่างบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีนกันเลยทีเดียว เนื่องจากคำว่า 'ผม' ในภาษาจีนเป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า 'มั่งคั่ง' เท่ากับว่า การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีนจะนำความมั่งคั่งออกไป


ห้ามแปด: พูดคำหยาบ ทะเลาะ

ควรจะพูดแต่สิ่งดีงาม พูดเพราะ หรือไม่พูดในแง่ลบกับใครก็ตาม และคำที่ส่อไปในทางที่ไม่ดี ความตาย เช่น แตก พัง หมด ตาย เจ๊ง ฆ่า ผี ป่วย แพ้ จน ซวย พินาศ

ดังนั้นไม่ควรด่าว่า หรือทะเลาะกับใคร พูดอะไรที่เป็นศิริมงคลให้ชีวิตในทุกวันๆ จะดีที่สุด แถมมีแต่คนอยากอยู่ใกล้นะคะ


ห้ามเก้า: ร้องไห้เสียใจ

การที่เราน้ำตาไหลร้องไห้ในวันปีใหม่ เชื่อว่าในปีนี้จะมีแต่ความทุกข์ตรม ความโศกเศร้าเสียใจในครอบครัว และชีวิตตัวเองตลอดปี
ยิ้มแย้มแจ่มใสรับวันใหม่ มีความสุข จิตใจดี ไม่หม่นหมองในวันปีใหม่กันดีกว่านะคะ

ห้ามสิบ: ยืมเงิน-เหนียวหนี้

หากเพื่อนโทรมายืมเงิน หรือโทรมาทวงเงินเราในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่นี้คนจีนถือว่าเป็นลางไม่ดี โชคร้ายทางทรัพย์ จะมีแต่เงินออก มีแต่คนมายืมเงินทั้งปี

หรือหากเราติดเงินใครไว้ ก็ควรใช้คืนก่อนตรุษจีน เพราะเชื่อว่า หากติดเงินใคร ทำเบี้ยว หนี ไม่จ่ายแล้วนั้น เราเองจะมีแต่หนี้สินตลอดปี


ห้ามสิบเอ็ด: ใส่เสื้อ ขาว ดำ

ดังนั้นคนจีนจึงเลือกใส่สีแดง หรือสีสดใส และเสื้อผ้าใหม่ เพราะจะมีแต่สิ่งดีงาม ชีวิตสดใส และมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต

เพราะคนจีนเชื่อกันว่า สีแดง จะช่วยขับไล่ปีศาจร้ายออกไป ส่วนการสวมใส่เสื้อผ้าสีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม เนื่องจากถือว่าเป็นสีของการไว้ทุกข์ค่ะ


ห้ามสิบสอง: เข้าห้องนอนคนอื่น

คนจีนหลายบ้านมีความเชื่อที่ว่า ห้ามเข้าไปหาใครในห้องนอนด้วย เพราะถือว่าเป็นโชคร้าย

หากมีใครมาหาเรา ก็ไม่ควรให้เขาเข้ามาในห้องนอน แม้จะป่วยก็ตาม ควรลุกออกไปหาเขาในห้องรับแขกจะดีกว่า


ห้ามสิบสาม: นอนกลางวัน

เพราะเชื่อกันว่า ใครนอนกลางวันในตรุษจีนนั้น จะทำให้ขี้เกียจตลอดปี นั่นเป็นความเชื่อเพื่อสอนให้ผู้คนต้องมีความขยันขันแข็ง ไม่ควรเอาเวลาตอนกลางวันมานอน ควรจะทำงานดีกว่านั่นเอง

ห้ามสิบสี่: ซื้อรองเท้าใหม่
หลายคนอาจจะงงใช่ไหมคะ ว่าทำไมห้ามซื้อรองเท้า ก็เพราะคำว่า 'รองเท้า' ในภาษาจีนออกเสียงว่า 'hai' ซึ่งมีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ เฮ้ออออ….. นั่นเอง

เสียงนี้เชื่อว่า นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี จะมีแต่ความเหน็ดเหนื่อยถอนหายใจกันทั้งปี

* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 

>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
 
กำลังโหลดความคิดเห็น