By Lady Manager
จำภาพนี้กันได้ไหมคะ สาวน้อยกับกองเงิน และกระปุกออมสินหมูสีเหลือง ที่ว่อนกระหน่ำ ฮอตฮือฮาในโลกโซเชียลเมื่อจวนสิ้นเดือนเดือนสิ้นปีที่ผ่านมา
เพราะเงินในกระปุกสุกรสีเหลืองนั้นไม่ใช่แค่หลักพัน แต่ยอดทั้งหมดคือ 131,830 บาท !!
เราจึงขอเปิดศักราชปีใหม่นี้ ด้วยบทสัมภาษณ์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้สาวๆ ขยันหาเงินขยันออมเงิน พึ่งตนเอง สร้างฐานะด้วยสมองลำแข็งตัวเราเอง ดั่งสาวน้อยติดดินที่ไม่ธรรมดาเลย
เธอชื่อ ตั๊ก-สุนทรี แห้วเพชร
“พ่อแม่ตั๊กเป็นชาวไร่ค่ะ ทำไร่มัน อ้อย ข้าวโพด ครอบครัวเคยจนมาก่อน จึงสอนให้ลูกขยัน ตั๊กเรียนจบมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะสัตวศาสตร์ และเทคโนโลยี ตอนนี้ไม่ได้ทำงานประจำและตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ทำ จะขายของ ตอนนี้ก็ขายอาหารสัตว์ วัคซีน ยาสัตว์ เพาะชำลูกเป็ด ลูกไก่ และครีมส่งออก รวมทั้งเสื้อผ้าและอื่นๆ อีกมากมาย”
เป็นลูกสาวชาวไร่ แม้จบปริญญาตรี แต่ไม่ทำงานประจำตามที่เรียน หากเลือกลุยเองสารพัดอาชีพ รายได้ต่อเดือนมากกว่าสาวออฟฟิศแต่งตัวดูดีทำงานในเมืองตั้งหลายเท่า
“ต้องทำงานให้ได้หลายๆ อย่างค่ะ”
เรียกว่าเอาหมด ทั้งถ่ายแบบ เป็นตัวประกอบละคร ขายเสื้อผ้ามือหนึ่ง มือสอง ขายครีม ขายอาหารสัตว์ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เก็บลำไย ขายไข่ ขายหมวกไหมพรม ขายกำไลหินมงคล อะไรที่ได้เงินแม้จะเหนื่อยเพียงไหนสาวอุทัยธานีวัย 24 คนนี้ นางอึดสู้ ฮึดทำทุกงานอย่าง นอนดึกตื่นเช้า สายสุดของเธอคือ หกโมงเช้า!
ส่วนนิสัยแม่ค้า รักการขายนั้น น้องตั๊กเล่าว่า เธอมีใจมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ
ใจรักงานขายตั้งแต่เด็ก การรู้จักคนเยอะได้อะไรกว่าที่คิด
"ตอนเด็กๆ ประมาณ ป.4 ก็ขโมยข้าวโพดหวานที่บ้านไปขายเพื่อน เพื่อนก็บอกขายฝักหนึ่งกินไม่หมด งั้นไม่เป็นไรครึ่งนึงตั๊กก็ขาย หรือปู่ตั๊กปลูกมันแกว ตั๊กก็สับๆ หั่นใส่ถุงไปขาย ทำพริกเกลือเอง ไปขายบนรถเมล์ ขายถุงละ 2 บาท รับจ้างแกะสลัก จัดดอกไม้ กับทีมงานของอาจารย์ เออนะ เมื่อนึกย้อนไปในอดีต เราก็ชอบขายมาตั้งแต่เด็กแล้วสินะ
พอเรียนมหาวิทยาลัย ตั๊กก็ได้เป็นดาวคณะ ได้มีโอกาสเป็นพรีเซนเตอร์มหาวิทยาลัย ถ่ายโปสเตอร์ และมีงานที่เชียงใหม่ ถ่ายแบบ เดินแบบบ้าง รับงานแบบนี้มาตลอด จากนั้นก็มีพี่ที่โมเดลลิ่งติดต่อไปแสดงละครที่กรุงเทพฯ
เหนื่อยแต่ได้เงินไม่เยอะ จึงต้องหางานเสริม พอว่างก็ไปขายเสื้อผ้ามือหนึ่ง มือสองบ้าง ส่วนใหญ่ขายทางอินเตอร์เน็ต ตั๊กค่อนข้างมีคนรู้จักเยอะ และมีอัธยาศัยดี ชอบคุย
สนุกดี ทำงานได้หลายอย่าง เพื่อนมักจะถามว่า ทำไมแกรู้จักคนเยอะมาก ตั๊กก็จะบอกว่า เวลาเรารู้จักใครนะ ตั๊กคิดอยู่เสมอว่า เขาต้องได้อะไรจากเรา และเราต้องได้ประโยชน์จากเขา
ตั๊กคิดเสมอว่า เรารู้จักคนนี้เราต้องไปขายของให้เขาได้ ทำประโยชน์ให้เขาได้จริง ตั๊กจะไม่หลอกเขา
และทุกวันนี้ที่ขายของได้ดีมาก เพราะลูกค้ารักตั๊กมาก เราไม่บังคับให้ลูกค้าซื้อของ ไม่ยุยง และแถมยังห้าม บอกว่าอย่าซื้ออีกต่างหาก” ตั๊กกล่าว
เปลี่ยนกดดันเป็นแรงผลัก! มุ่งมั่นเก็บเงินลบคำสบประมาท
ต้องขอบคุณคำดูถูก ที่เปลี่ยนแปลงแรงกดดันเป็นแรงผลักให้น้องตั๊กเก็บเงิน เพราะคุณแฟนดันไปดูถูกไว้ว่า ชีวิตล่องลอย จะทำอะไรได้ งานก็ไม่มีเป็นหลักแหล่ง น้องตั๊กจึงท้าว่ามาเก็บเงินแข่งกันมั้ยล่ะ!
“เพราะแฟนตั๊กของดูถูกเรา แฟนตั๊กเป็นลูกคนรวย ชอบบอกเราว่า ทำไมเธอไม่สมัครงาน ทำอะไรให้เป็นหลักแหล่ง ตั๊กก็เก็บกด แฟนตั๊กก็พูดกดดันมาเรื่อยๆ จนตั๊กร้องไห้ บอกว่า ตัวเอง เอางี้นะ เรามาแข่งกัน สิ้นปีนี้ใครจะมีเงินเยอะกว่ากัน งานที่ตัวเองว่า มีศักดิ์มีศรีนักหนา กับงานที่ไม่เป็นตัวเป็นตนไม่เป็นหลักแหล่งของเค้า ใครจะเก็บเงินได้มากกว่ากัน แฟนตั๊กก็บอกว่า ได้สิ เธอก็ล่องลอยดูอย่างนี้ ฉันจะดูว่าเธอจะทำอะไร
จริงๆ แล้วไม่ได้อยากจะเก็บในกระปุกออมสินเลย กลัวตังค์หาย แต่แฟนตั๊กเขาทำงานธนาคาร เราตั้งเป้ากันว่า เราจะแข่งกันเก็บเงิน เราจึงไม่อยากให้แฟนรู้ว่าเราเก็บได้เท่าไหร่หากนำไปฝากธนาคาร
ด้วยความพ่อกับแม่จะไม่อยากให้ทำงานในระหว่างเรียน ชาวบ้านก็มักจะพูดว่า พ่อแม่ตั๊กเลี้ยงลูกสบายเนอะ และญาติตั๊กก็จะมองว่า ตั๊กเป็นเด็กดื้อ รั้น เราก็คิดในใจว่า เราจะเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้
เริ่มต้นจาก พอเรียนจบปุ้บไม่กลับบ้านเลยนะ ตั๊กไปเป็นพรีเซนเตอร์กาแฟอยู่พิษณุโลกจนพ่อร้องไห้ ทะเลาะกับพ่อ ตั๊กก็ไม่ยอมเพราะเราใช้เงินพ่อแม่ไปเยอะมาก อยากได้อะไรพ่อแม่ให้เราหมดเลย แล้วทำไมไม่ยอมให้เราทำอะไรบ้าง แต่ร้านกาแฟก็ประสบวิกฤต เราไม่มีเงินเลยสักบาท เริ่มเครียดจนตัดสินใจลาออกจากพิษณุโลก ไปกรุงเทพฯ ไปเป็นตัวประกอบละคร
งานอะไรมาตั๊กทำหมด ยกเว้นพริตตี้ ตั๊กไม่ทำ เพราะเราไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่อยากโชว์ คือได้เงินเยอะจริง แต่ตั๊กมีความรู้สึกว่า ตั๊กสามารถทำอะไรที่ได้เงินมากกว่านั้น จุดยืนคนเรามันต่างกัน เราก็เอาเงิน 20,000 บาทที่ยืมเเฟนมาไปซื้อเสื้อผ้า ขายของนอนตีสาม ตื่นตีห้าทุกวัน จนเราเก็บเงิน 20,000 บาทที่ยืมแฟนมาใส่กระปุกออมสินไว้ เพราะถ้าเก็บในแบงก์ต้องกดมาแน่นอน เลยยัดลงไปในกระปุกหมูนั้น”
หยอดกระปุก 90% ของรายได้ เจียดใช้แค่สิบ กลเม็ดเด็ดเก็บตังค์
พับแบงก์ให้เล็กจิ๋วที่สุดแล้วยัดเข้าไปในกระปุกออมสิน เห็นเล็กแค่นี้แต่แงะเงินออกมาที เป็นแสน!
“หลังจากเก็บเงิน 20,000 ที่ยืมแฟนมาได้แล้ว เราตั้งเป้าว่า จะเก็บเงินให้ได้วันละพัน พอวันนี้ได้พันนึง เก็บ 800 บาท ใช้ 200 บาท คือ วันๆ ตั๊กไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว ก็ขายเสื้อผ้า ขายอาหารเสริม
เราก็ขยันทำมาหากิน โพสต์ขายไป พี่ที่รู้จักก็ส่งเสื้อผ้ามาให้ราคาทุนต่ำกว่าปกติ ตั๊กก็โพสต์ขาย เสื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น คนก็แย่งกัน ได้กำไรจากเสื้อผ้าตัวละร้อย ได้กำไรก็นำมาใส่กระปุก ทำแบบนี้ทุกวัน
วันไหนขายได้น้อย พรุ่งนี้ก็จะตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องได้มากกว่านี้ ต้องได้ 2,000 บาท เพื่อชดเชยเมื่อวานที่เราได้น้อย
เก็บแบบนี้ไปเรื่อยๆ จน 7 เดือน สรุปยอดแคะกระปุกออมสินออกมาจำนวนเงินคือ 131,830 บาท จริงๆ ตั๊กได้มากกว่านี้นะ แต่มันใส่ในกระปุกได้แค่นั้น จากนั้นก็นำไปฝากธนาคาร
ไม่ได้อยากจะโชว์ใครเลยนะ แต่อยากให้คนที่ชอบถามพ่อแม่ว่า ลูกทำอะไรเหรอ จะได้เห็นว่า เราทำงานเก็บเงินได้ขนาดนี้เลยนะ และอยากให้กำลังใจกับคนที่กำลังท้อแท้ด้วยค่ะ
หลังจากโพสต์ภาพไปนั้น พอเช้ามาเราก็งง คนทักมาจนตกใจ เฟซบุ๊กเราค้างหรือเปล่า เป็นอะไรหรือเปล่า ขายของก็เริ่มดีขึ้น คนมาให้กำลังใจเยอะมาก ลูกค้าเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตัว
ทว่าตอนนี้เราแบ่งเก็บเงินให้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะรายได้เยอะขึ้น ได้เงินมา 20,000 บาท เราก็จะเก็บไว้ 1 พัน ได้เยอะเก็บเยอะ เก็บประมาณ 90% อีก 10% ใช้
ในหนึ่งเดือน ตั๊กจะมีเรื่องจำเป็นอยู่แค่เรื่องค่าโทรศัพท์ เราจะตัดตอนบิลสุดท้ายของรอบเดือน คือ 3 อาทิตย์แรกของเดือนเราจะเก็บ 90% พออาทิตย์ที่ 4 ได้มา 100% เราจะเก็บ 60% อีก 40% จ่ายค่านู้นนี่นั่น ตั๊กทำแบบนี้มาตลอด”
ทว่าการเก็บเงินต้องควบคู่ไปกับการประหยัด แม้เห็นจะเข้าเยอะแค่ไหน น้องตั๊กก็ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายปล่อยเงินพร่องไปกับของไร้สาระเลยแม้แต่น้อย
“ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่ค่อยซื้อ ปกติตั๊กเป็นคนไม่ค่อยแต่งตัวนะ ใส่แค่นี้ เวลาไปถ่ายแบบเสื้อผ้า เขาก็จะให้เสื้อผ้ามา เราก็ได้ใส่ ตัวไหนไม่ชอบก็เอามาขาย และตั๊กก็เป็นคนแต่งตัวเซอร์มาก ง่ายๆ บางทีไปเดินห้างก็จะใส่รองเท้าแตะ กางเกงใส่นอน เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ
ยอมทำตัวเหมือนไม่ใช่ผู้หญิง ของแบรนด์เนมของดีๆ ก็จะเป็นของที่พี่ๆ ซื้อมาให้ เพราะตั๊กไม่ติดเเบรนด์เลย จริงๆ แล้วตั๊กบ้านนอกนะ กระเป๋าราคาแพงๆ เราเสียดาย เพราะเราไม่ค่อยดูแล ก็เลยซื้อธรรมดาๆใช้ 199 บาทตามตลาดก็ใช้ได้หมด”
ว้าว! รายได้เหยียบแสนต่อเดือน ยึดหลักจริงใจต่อลูกค้า
“พ่อแม่สอนเสมอให้เราเป็นคนขยัน อย่าตื่นสาย”
การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จมันยากนะ ตอนขายแรกๆ ตั๊กร้องไห้ทุกวันเลย ขายไม่ได้ กดดันไปหมด ท้อแท้มาก ก่อนนอนก็จะสวดมนต์ ให้ตัวเองมีสติ จนเริ่มขายดีขึ้น
“และสิ่งสำคัญที่แม่ค้าต้องมี คือต้องจริงใจกับลูกค้า”
เราจะขายอะไรสักอย่าง เราต้องลองก่อนว่ามันดีจริง ดีกับตัวเรา เราจะได้กล้าเอาไปขายให้กับคนอื่น กล้าพูดอย่างเต็มปากว่า ใช้แล้วดีแบบนี้นะ เราชอบประทับใจแบบไหน ไม่ใช่เห็นเน็ตไอดอลขายเราจึงไปรับมาขายตามกระแส เเต่เราไม่เคยลองใช้แล้ว จะทำให้เราตอบลูกค้าไม่ได้ แต่คนที่ใช้จริง จะตอบลูกค้าอย่างฉะฉานว่าเราใช้จริง ให้ใจลูกค้าอย่างจริงใจ มีจรรยาบรรณความเป็นแม่ค้า ลูกค้าก็จะบอกต่อ ตั๊กจะได้ลูกค้าแบบนี้เยอะมาก
ส่วนใหญ่คนขายครีมจะเป็นพวกพริตตี้ สวยๆ หรือเน็ตไอดอลดังๆ ถึงจะขายดีใช่ไหมคะ แต่ตั๊กจะทำตัวธรรมดา ใช้ชีวิตบ้านๆ ไม่โชว์นม ทำหน้าสวย แต่เราให้ความจริงใจลูกค้า ซึ่งเขาก็มั่นใจในตัวเรา
มีลูกค้าคนนึงอยากจะซื้อครีมหลายๆเซ็ต เราก็บอกว่า ซื้อหลายๆ เซ็ตไปใช้ไม่ได้นะคะ เพราะครีมบางเซ็ตไม่ได้ผลิตมาสำหรับเรา เราต้องดูสภาพผิวหน้าเราก่อน ตอนแรกเขาจะซื้อครีมเราเป็นหมื่น ก็บอกเขาให้ซื้อตัวทดลอง 99 บาทไปใช้ก่อน ถ้าใช้ดีค่อยมาซื้อต่อ ตั๊กคิดว่า ถ้าเป็นเราไปซื้อของมาเป็นหมื่น สรุปใช้ไม่ได้ ต้องเททิ้ง ก็เสียดายนะ และในที่สุด หลักจากเขาซื้อไป 99 บาท เขาก็กลับมาซื้อเราเป็นหมื่นๆ อยู่ดี
สรุป เราได้ทั้งเงิน และใจของลูกค้า”
สุดท้าย น้องตั๊กฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิตด้วยว่า
วันไหนที่เราคิดว่า ทำไม่ได้ ทำไมไม่เหมือนคนอื่น ทำไมชีวิตไม่ดีเหมือนเค้า ให้คิดว่าอาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้นะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดี ก็เป็นวันมะรืนก็ได้นะ ถ้าอาทิตย์นี้ไม่ดี อาทิตย์หน้าอาจเป็นของเรา แล้วถ้าอาทิตย์ต่อไปมันไม่โอเค แต่ถ้าเดือนหน้ามันเป็นเดือนที่ดีที่สุดของเราล่ะ คิดไว้ว่ายังมีวันพรุ่งนี้ๆ ไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาเรารู้สึกหมดกำลังใจ ท้อแท้
คือตั๊กจะท่องอย่างนี้เรื่อยๆ จนเจอวันที่ดีที่สุด
อ๊ะ! และปัจจุบันนี้เธอก็กำลังตั้งใจเก็บเงินใส่กระปุกหมูอันใหม่ต่ออีก 2 ตัวแน่ะ ^^
ขอบคุณ ภาพจากเฟซบุ๊ก My’takiesarit Suntaree
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
จำภาพนี้กันได้ไหมคะ สาวน้อยกับกองเงิน และกระปุกออมสินหมูสีเหลือง ที่ว่อนกระหน่ำ ฮอตฮือฮาในโลกโซเชียลเมื่อจวนสิ้นเดือนเดือนสิ้นปีที่ผ่านมา
เพราะเงินในกระปุกสุกรสีเหลืองนั้นไม่ใช่แค่หลักพัน แต่ยอดทั้งหมดคือ 131,830 บาท !!
เราจึงขอเปิดศักราชปีใหม่นี้ ด้วยบทสัมภาษณ์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้สาวๆ ขยันหาเงินขยันออมเงิน พึ่งตนเอง สร้างฐานะด้วยสมองลำแข็งตัวเราเอง ดั่งสาวน้อยติดดินที่ไม่ธรรมดาเลย
เธอชื่อ ตั๊ก-สุนทรี แห้วเพชร
“พ่อแม่ตั๊กเป็นชาวไร่ค่ะ ทำไร่มัน อ้อย ข้าวโพด ครอบครัวเคยจนมาก่อน จึงสอนให้ลูกขยัน ตั๊กเรียนจบมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะสัตวศาสตร์ และเทคโนโลยี ตอนนี้ไม่ได้ทำงานประจำและตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ทำ จะขายของ ตอนนี้ก็ขายอาหารสัตว์ วัคซีน ยาสัตว์ เพาะชำลูกเป็ด ลูกไก่ และครีมส่งออก รวมทั้งเสื้อผ้าและอื่นๆ อีกมากมาย”
เป็นลูกสาวชาวไร่ แม้จบปริญญาตรี แต่ไม่ทำงานประจำตามที่เรียน หากเลือกลุยเองสารพัดอาชีพ รายได้ต่อเดือนมากกว่าสาวออฟฟิศแต่งตัวดูดีทำงานในเมืองตั้งหลายเท่า
“ต้องทำงานให้ได้หลายๆ อย่างค่ะ”
เรียกว่าเอาหมด ทั้งถ่ายแบบ เป็นตัวประกอบละคร ขายเสื้อผ้ามือหนึ่ง มือสอง ขายครีม ขายอาหารสัตว์ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เก็บลำไย ขายไข่ ขายหมวกไหมพรม ขายกำไลหินมงคล อะไรที่ได้เงินแม้จะเหนื่อยเพียงไหนสาวอุทัยธานีวัย 24 คนนี้ นางอึดสู้ ฮึดทำทุกงานอย่าง นอนดึกตื่นเช้า สายสุดของเธอคือ หกโมงเช้า!
ส่วนนิสัยแม่ค้า รักการขายนั้น น้องตั๊กเล่าว่า เธอมีใจมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ
ใจรักงานขายตั้งแต่เด็ก การรู้จักคนเยอะได้อะไรกว่าที่คิด
"ตอนเด็กๆ ประมาณ ป.4 ก็ขโมยข้าวโพดหวานที่บ้านไปขายเพื่อน เพื่อนก็บอกขายฝักหนึ่งกินไม่หมด งั้นไม่เป็นไรครึ่งนึงตั๊กก็ขาย หรือปู่ตั๊กปลูกมันแกว ตั๊กก็สับๆ หั่นใส่ถุงไปขาย ทำพริกเกลือเอง ไปขายบนรถเมล์ ขายถุงละ 2 บาท รับจ้างแกะสลัก จัดดอกไม้ กับทีมงานของอาจารย์ เออนะ เมื่อนึกย้อนไปในอดีต เราก็ชอบขายมาตั้งแต่เด็กแล้วสินะ
พอเรียนมหาวิทยาลัย ตั๊กก็ได้เป็นดาวคณะ ได้มีโอกาสเป็นพรีเซนเตอร์มหาวิทยาลัย ถ่ายโปสเตอร์ และมีงานที่เชียงใหม่ ถ่ายแบบ เดินแบบบ้าง รับงานแบบนี้มาตลอด จากนั้นก็มีพี่ที่โมเดลลิ่งติดต่อไปแสดงละครที่กรุงเทพฯ
เหนื่อยแต่ได้เงินไม่เยอะ จึงต้องหางานเสริม พอว่างก็ไปขายเสื้อผ้ามือหนึ่ง มือสองบ้าง ส่วนใหญ่ขายทางอินเตอร์เน็ต ตั๊กค่อนข้างมีคนรู้จักเยอะ และมีอัธยาศัยดี ชอบคุย
สนุกดี ทำงานได้หลายอย่าง เพื่อนมักจะถามว่า ทำไมแกรู้จักคนเยอะมาก ตั๊กก็จะบอกว่า เวลาเรารู้จักใครนะ ตั๊กคิดอยู่เสมอว่า เขาต้องได้อะไรจากเรา และเราต้องได้ประโยชน์จากเขา
ตั๊กคิดเสมอว่า เรารู้จักคนนี้เราต้องไปขายของให้เขาได้ ทำประโยชน์ให้เขาได้จริง ตั๊กจะไม่หลอกเขา
และทุกวันนี้ที่ขายของได้ดีมาก เพราะลูกค้ารักตั๊กมาก เราไม่บังคับให้ลูกค้าซื้อของ ไม่ยุยง และแถมยังห้าม บอกว่าอย่าซื้ออีกต่างหาก” ตั๊กกล่าว
เปลี่ยนกดดันเป็นแรงผลัก! มุ่งมั่นเก็บเงินลบคำสบประมาท
ต้องขอบคุณคำดูถูก ที่เปลี่ยนแปลงแรงกดดันเป็นแรงผลักให้น้องตั๊กเก็บเงิน เพราะคุณแฟนดันไปดูถูกไว้ว่า ชีวิตล่องลอย จะทำอะไรได้ งานก็ไม่มีเป็นหลักแหล่ง น้องตั๊กจึงท้าว่ามาเก็บเงินแข่งกันมั้ยล่ะ!
“เพราะแฟนตั๊กของดูถูกเรา แฟนตั๊กเป็นลูกคนรวย ชอบบอกเราว่า ทำไมเธอไม่สมัครงาน ทำอะไรให้เป็นหลักแหล่ง ตั๊กก็เก็บกด แฟนตั๊กก็พูดกดดันมาเรื่อยๆ จนตั๊กร้องไห้ บอกว่า ตัวเอง เอางี้นะ เรามาแข่งกัน สิ้นปีนี้ใครจะมีเงินเยอะกว่ากัน งานที่ตัวเองว่า มีศักดิ์มีศรีนักหนา กับงานที่ไม่เป็นตัวเป็นตนไม่เป็นหลักแหล่งของเค้า ใครจะเก็บเงินได้มากกว่ากัน แฟนตั๊กก็บอกว่า ได้สิ เธอก็ล่องลอยดูอย่างนี้ ฉันจะดูว่าเธอจะทำอะไร
จริงๆ แล้วไม่ได้อยากจะเก็บในกระปุกออมสินเลย กลัวตังค์หาย แต่แฟนตั๊กเขาทำงานธนาคาร เราตั้งเป้ากันว่า เราจะแข่งกันเก็บเงิน เราจึงไม่อยากให้แฟนรู้ว่าเราเก็บได้เท่าไหร่หากนำไปฝากธนาคาร
ด้วยความพ่อกับแม่จะไม่อยากให้ทำงานในระหว่างเรียน ชาวบ้านก็มักจะพูดว่า พ่อแม่ตั๊กเลี้ยงลูกสบายเนอะ และญาติตั๊กก็จะมองว่า ตั๊กเป็นเด็กดื้อ รั้น เราก็คิดในใจว่า เราจะเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้
เริ่มต้นจาก พอเรียนจบปุ้บไม่กลับบ้านเลยนะ ตั๊กไปเป็นพรีเซนเตอร์กาแฟอยู่พิษณุโลกจนพ่อร้องไห้ ทะเลาะกับพ่อ ตั๊กก็ไม่ยอมเพราะเราใช้เงินพ่อแม่ไปเยอะมาก อยากได้อะไรพ่อแม่ให้เราหมดเลย แล้วทำไมไม่ยอมให้เราทำอะไรบ้าง แต่ร้านกาแฟก็ประสบวิกฤต เราไม่มีเงินเลยสักบาท เริ่มเครียดจนตัดสินใจลาออกจากพิษณุโลก ไปกรุงเทพฯ ไปเป็นตัวประกอบละคร
งานอะไรมาตั๊กทำหมด ยกเว้นพริตตี้ ตั๊กไม่ทำ เพราะเราไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่อยากโชว์ คือได้เงินเยอะจริง แต่ตั๊กมีความรู้สึกว่า ตั๊กสามารถทำอะไรที่ได้เงินมากกว่านั้น จุดยืนคนเรามันต่างกัน เราก็เอาเงิน 20,000 บาทที่ยืมเเฟนมาไปซื้อเสื้อผ้า ขายของนอนตีสาม ตื่นตีห้าทุกวัน จนเราเก็บเงิน 20,000 บาทที่ยืมแฟนมาใส่กระปุกออมสินไว้ เพราะถ้าเก็บในแบงก์ต้องกดมาแน่นอน เลยยัดลงไปในกระปุกหมูนั้น”
หยอดกระปุก 90% ของรายได้ เจียดใช้แค่สิบ กลเม็ดเด็ดเก็บตังค์
พับแบงก์ให้เล็กจิ๋วที่สุดแล้วยัดเข้าไปในกระปุกออมสิน เห็นเล็กแค่นี้แต่แงะเงินออกมาที เป็นแสน!
“หลังจากเก็บเงิน 20,000 ที่ยืมแฟนมาได้แล้ว เราตั้งเป้าว่า จะเก็บเงินให้ได้วันละพัน พอวันนี้ได้พันนึง เก็บ 800 บาท ใช้ 200 บาท คือ วันๆ ตั๊กไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว ก็ขายเสื้อผ้า ขายอาหารเสริม
เราก็ขยันทำมาหากิน โพสต์ขายไป พี่ที่รู้จักก็ส่งเสื้อผ้ามาให้ราคาทุนต่ำกว่าปกติ ตั๊กก็โพสต์ขาย เสื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น คนก็แย่งกัน ได้กำไรจากเสื้อผ้าตัวละร้อย ได้กำไรก็นำมาใส่กระปุก ทำแบบนี้ทุกวัน
วันไหนขายได้น้อย พรุ่งนี้ก็จะตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องได้มากกว่านี้ ต้องได้ 2,000 บาท เพื่อชดเชยเมื่อวานที่เราได้น้อย
เก็บแบบนี้ไปเรื่อยๆ จน 7 เดือน สรุปยอดแคะกระปุกออมสินออกมาจำนวนเงินคือ 131,830 บาท จริงๆ ตั๊กได้มากกว่านี้นะ แต่มันใส่ในกระปุกได้แค่นั้น จากนั้นก็นำไปฝากธนาคาร
ไม่ได้อยากจะโชว์ใครเลยนะ แต่อยากให้คนที่ชอบถามพ่อแม่ว่า ลูกทำอะไรเหรอ จะได้เห็นว่า เราทำงานเก็บเงินได้ขนาดนี้เลยนะ และอยากให้กำลังใจกับคนที่กำลังท้อแท้ด้วยค่ะ
หลังจากโพสต์ภาพไปนั้น พอเช้ามาเราก็งง คนทักมาจนตกใจ เฟซบุ๊กเราค้างหรือเปล่า เป็นอะไรหรือเปล่า ขายของก็เริ่มดีขึ้น คนมาให้กำลังใจเยอะมาก ลูกค้าเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตัว
ทว่าตอนนี้เราแบ่งเก็บเงินให้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะรายได้เยอะขึ้น ได้เงินมา 20,000 บาท เราก็จะเก็บไว้ 1 พัน ได้เยอะเก็บเยอะ เก็บประมาณ 90% อีก 10% ใช้
ในหนึ่งเดือน ตั๊กจะมีเรื่องจำเป็นอยู่แค่เรื่องค่าโทรศัพท์ เราจะตัดตอนบิลสุดท้ายของรอบเดือน คือ 3 อาทิตย์แรกของเดือนเราจะเก็บ 90% พออาทิตย์ที่ 4 ได้มา 100% เราจะเก็บ 60% อีก 40% จ่ายค่านู้นนี่นั่น ตั๊กทำแบบนี้มาตลอด”
ทว่าการเก็บเงินต้องควบคู่ไปกับการประหยัด แม้เห็นจะเข้าเยอะแค่ไหน น้องตั๊กก็ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายปล่อยเงินพร่องไปกับของไร้สาระเลยแม้แต่น้อย
“ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่ค่อยซื้อ ปกติตั๊กเป็นคนไม่ค่อยแต่งตัวนะ ใส่แค่นี้ เวลาไปถ่ายแบบเสื้อผ้า เขาก็จะให้เสื้อผ้ามา เราก็ได้ใส่ ตัวไหนไม่ชอบก็เอามาขาย และตั๊กก็เป็นคนแต่งตัวเซอร์มาก ง่ายๆ บางทีไปเดินห้างก็จะใส่รองเท้าแตะ กางเกงใส่นอน เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ
ยอมทำตัวเหมือนไม่ใช่ผู้หญิง ของแบรนด์เนมของดีๆ ก็จะเป็นของที่พี่ๆ ซื้อมาให้ เพราะตั๊กไม่ติดเเบรนด์เลย จริงๆ แล้วตั๊กบ้านนอกนะ กระเป๋าราคาแพงๆ เราเสียดาย เพราะเราไม่ค่อยดูแล ก็เลยซื้อธรรมดาๆใช้ 199 บาทตามตลาดก็ใช้ได้หมด”
ว้าว! รายได้เหยียบแสนต่อเดือน ยึดหลักจริงใจต่อลูกค้า
“พ่อแม่สอนเสมอให้เราเป็นคนขยัน อย่าตื่นสาย”
การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จมันยากนะ ตอนขายแรกๆ ตั๊กร้องไห้ทุกวันเลย ขายไม่ได้ กดดันไปหมด ท้อแท้มาก ก่อนนอนก็จะสวดมนต์ ให้ตัวเองมีสติ จนเริ่มขายดีขึ้น
“และสิ่งสำคัญที่แม่ค้าต้องมี คือต้องจริงใจกับลูกค้า”
เราจะขายอะไรสักอย่าง เราต้องลองก่อนว่ามันดีจริง ดีกับตัวเรา เราจะได้กล้าเอาไปขายให้กับคนอื่น กล้าพูดอย่างเต็มปากว่า ใช้แล้วดีแบบนี้นะ เราชอบประทับใจแบบไหน ไม่ใช่เห็นเน็ตไอดอลขายเราจึงไปรับมาขายตามกระแส เเต่เราไม่เคยลองใช้แล้ว จะทำให้เราตอบลูกค้าไม่ได้ แต่คนที่ใช้จริง จะตอบลูกค้าอย่างฉะฉานว่าเราใช้จริง ให้ใจลูกค้าอย่างจริงใจ มีจรรยาบรรณความเป็นแม่ค้า ลูกค้าก็จะบอกต่อ ตั๊กจะได้ลูกค้าแบบนี้เยอะมาก
ส่วนใหญ่คนขายครีมจะเป็นพวกพริตตี้ สวยๆ หรือเน็ตไอดอลดังๆ ถึงจะขายดีใช่ไหมคะ แต่ตั๊กจะทำตัวธรรมดา ใช้ชีวิตบ้านๆ ไม่โชว์นม ทำหน้าสวย แต่เราให้ความจริงใจลูกค้า ซึ่งเขาก็มั่นใจในตัวเรา
มีลูกค้าคนนึงอยากจะซื้อครีมหลายๆเซ็ต เราก็บอกว่า ซื้อหลายๆ เซ็ตไปใช้ไม่ได้นะคะ เพราะครีมบางเซ็ตไม่ได้ผลิตมาสำหรับเรา เราต้องดูสภาพผิวหน้าเราก่อน ตอนแรกเขาจะซื้อครีมเราเป็นหมื่น ก็บอกเขาให้ซื้อตัวทดลอง 99 บาทไปใช้ก่อน ถ้าใช้ดีค่อยมาซื้อต่อ ตั๊กคิดว่า ถ้าเป็นเราไปซื้อของมาเป็นหมื่น สรุปใช้ไม่ได้ ต้องเททิ้ง ก็เสียดายนะ และในที่สุด หลักจากเขาซื้อไป 99 บาท เขาก็กลับมาซื้อเราเป็นหมื่นๆ อยู่ดี
สรุป เราได้ทั้งเงิน และใจของลูกค้า”
สุดท้าย น้องตั๊กฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิตด้วยว่า
วันไหนที่เราคิดว่า ทำไม่ได้ ทำไมไม่เหมือนคนอื่น ทำไมชีวิตไม่ดีเหมือนเค้า ให้คิดว่าอาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้นะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดี ก็เป็นวันมะรืนก็ได้นะ ถ้าอาทิตย์นี้ไม่ดี อาทิตย์หน้าอาจเป็นของเรา แล้วถ้าอาทิตย์ต่อไปมันไม่โอเค แต่ถ้าเดือนหน้ามันเป็นเดือนที่ดีที่สุดของเราล่ะ คิดไว้ว่ายังมีวันพรุ่งนี้ๆ ไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาเรารู้สึกหมดกำลังใจ ท้อแท้
คือตั๊กจะท่องอย่างนี้เรื่อยๆ จนเจอวันที่ดีที่สุด
อ๊ะ! และปัจจุบันนี้เธอก็กำลังตั้งใจเก็บเงินใส่กระปุกหมูอันใหม่ต่ออีก 2 ตัวแน่ะ ^^
ขอบคุณ ภาพจากเฟซบุ๊ก My’takiesarit Suntaree
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net