คำโบราณบอกว่า คนหล่อคนสวยมักนอนเหงาได้ไม่นาน โดยเฉพาะ พ่อม่ายแม่ม่ายทรงเครื่อง เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติด้วยแล้ว นอนเหงานับดาวคนเดียวได้ไม่กี่คืน ก็มีคนอาสาเข้ามาทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ โดยเฉพาะ ปีม้าคะนองปีนี้ บรรดาพ่อม่ายแม่ม่ายเนื้อหอมในวงการไฮซ้อไฮโซบ้านเรา ต่างพาเหรดกันเข้าประตูวิวาห์รอบ2 กันอย่างคึกคัก บางคนครองตนเป็นม่ายทรงเครื่องมาเกือบสิบปี แต่บางคนม่ายได้ไม่ทันถึงเดือน ก็มีคนมาดามหัวใจให้เสียแล้ว ดังนั้น Celeb Online Daily จะพาไปสำรวจกันว่า ในรอบปี 2557 มีม่ายเนื้อหอมคนไหนกันบ้างที่สละโสดพร้อมนอนกอดกันให้ผ้าห่มอิจฉา
** รักร้อนในวัยเรียน มาดามแป้ง-อธิบดีฯ ณรัชต์
อุตส่าห์ครองตนเป็นม่ายทรงเครื่องมานานหลายปี สำหรับเจ้าแม่ประกันภัยอันดับหนึ่งของเมืองไทย มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ คุณแม่ลูกหนึ่งวัย 47 ปี สุดท้ายก็ยอมพ่ายให้กับความดีของพ่อม่ายครบเครื่อง “ดร.เอ” พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ วัย 53 ปี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
คู่นี้พบรักในห้องเรียน เพราะความรักก่อเกิดในชั้นเรียนหลักสูตร วตท.รุ่น 8 จนเมื่อความรักสุกงอม จึงซุ่มเงียบเข้าประตูวิวาห์กันไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางความยินดีของญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
มาดามแป้งเปิดใจถึงการแต่งงานใหม่รอบนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองปฏิญาณตนไว้ ไม่คิดจะแต่งงานแล้วว่า ประทับใจในความเป็นผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย สุขุมใจเย็น เป็นคนสม่ำเสมอ ที่สำคัญดร.เอ คือคนที่มาเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ขึ้น
นั่นคือเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้มาดามแป้งม่ายสาวใหญ่ทรงเครื่อง ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานก็ยอมลงจากบังลังก์ม่ายเนื้อหอม เพื่อมาใช้ชีวิตคู่รอบสอง แถมทั้งคู่ยังป่าวประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่า จะร่วมสร้างครอบครัวครั้งใหม่ ให้สมบูรณ์และมั่นคงมากกว่าเดิม
** เนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน...เสี่ยหนู-อนุทิน กับ จ๋า-ศศิธร
เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาดจริงๆ ค่ะคู๊ณ คนที่เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันต่อให้พลัดพรากจากกันไปนานแค่ไหน สุดท้ายก็หนีพรหมลิขิตขีดเส้นไว้ไม่ได้จริงๆ ดูอย่างสองม่ายหัวใจตรงกัน เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล พ่อม่ายลูกสองและแม่ม่ายลูกสามคนสวย จ๋า-ศศิธร จันทรสมบูรณ์ ที่ครั้งหนึ่งทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนกันในสมัยวัยเรียนมัธยม แต่ต้องมีอันจากกันไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่แล้วหลังจากที่จากกันไปแสนนาน สุดท้ายทั้งคู่ก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น ต้องกลับมาใช้ชีวิตคู่กันจนได้ อย่างนี้ไม่เรียกว่า “พรหมลิขิต” แล้วจะเรียกว่าอย่างไรล่ะคร๊า !
เรื่องราวความรักของมหาเศรษฐีนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนี้ เริ่มปรากฏเป็นข่าวครึกโครมกระหึ่มบนโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อมีคนโพสต์ภาพถ่ายใบทะเบียนสมรสของ เสี่ยหนู-อนุทิน กับ จ๋า-ศศิธร หลังจากนั้นเสี่ยหนูเองจึงออกมายอมรับว่า ได้แยกทางกับอดีตภรรยาหน้าหวาน ยุ้ย-สนองนุช วัฒนวรางกูร กันระยะหนึ่งแล้ว
และด้วยความที่ตัวเองเป็นคนขี้เหงา นอนหนาวคนเดียวนานๆ ไม่ได้ เมื่อหวนกลับมาพบกับเพื่อนเก่าอย่าง จ๋า-ศศิธร ที่ครองตัวเป็นแม่ม่ายลูกสาม เจ้าตัวก็คิดว่าน่าจะใช้ชีวิตคู่เป็นเพื่อนกันได้ จึงตัดสินใจสลัดตำแหน่ง “พ่อม่ายเนื้อหอม” ไปจดทะเบียนสมรสและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างแฮปปี้เอนดิ้งจ้า !
** ม่าย 2 กายหัวใจตรงกัน สนองนุช-พลิศร์
คนสวยมักอยู่คนเดียวได้ไม่นาน โดยเฉพาะยิ่ง เป็นม่ายทรงเครื่องสวยรวยทรัพย์ อย่างยุ้ย-สนองนุช วัฒนวรางกูร หลังจากหย่าขาดจากอดีตสามี หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ไม่นาน และยิ่งพอเห็นฝ่ายชายโชว์ทะเบียนสมรสใหม่หราขนาดนี้ มีหรือม่ายสวยรวยทรัพย์จะทนเหงาคนเดียวได้ อยู่เป็นโสดได้ไม่กี่เดือน ม่ายหน้าหวาน ยุ้ย-สนองนุช ก็สละโสดเข้าประตูวิวาห์รอบสองตามอดีตสามีไปติดๆ
ชายหนุ่มผู้โชคดีที่สามารถเด็ดดอกฟ้าไปครอบครองได้คือ เอ็มดีหนุ่มม่ายวัย 49ปี แห่งค่ายสิงห์ เป๊ก-พลิศร์ ภิรมย์ภักดี ลูกชายคนโตของ วาปี ภิรมย์ภักดี และ อิสราภรณ์ โปษยานนท์ งานนี้ทั้งคู่เนรมิต โรงแรมโฟร์ซีซั่น ให้เป็นงานฉลองมงคลสมรสในฝัน เพราะทั่วทั้งงานสะพรั่งไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวและดอกไฮเดรนเยียสีขาวสุดโรแมนติก ท่ามกลางเพื่อนฝูงคนใกล้ชิดต่างมาร่วมยินดีกับรักครั้งใหม่ของทั้งคู่
การแต่งงานใหม่ครั้งนี้ ม่ายสาวคนสวยพูดสั้นๆ ว่า “แต่งรอบสองแล้ว คงไม่ต้องพูดเยอะ ดูจากหน้าตาก็คงรู้ว่ามีความสุขนะคะ” แม้จะเป็นการแต่งงานรอบสอง แต่สาวยุ้ยก็ยังคงบอกว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คิดแต่ว่าจะพยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด เมื่อวันนี้ดีแล้ว วันข้างหน้าก็จะดีมากด้วย
** วิวาห์ร้อนฉ่า ม่ายสุดจี๊ด “วาชินี ไกรฤกษ์”
ตกพุ่มม่ายมานานหลายปีก็ถึงคราวม่ายสาวพราวเสน่ห์หุ่นเป๊ะแห่งยุค หนึ่ง-วาชินี ไกรฤกษ์ ถือเอาช่วงฤดูสายฝนกำลังชุ่มฉ่ำช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นฤกษ์ดีสละโสดจูงมือนักธุรกิจหนุ่มเมืองผู้ดี มร.คริส เข้าประตูวิวาห์ส่งท้ายสายฝน หลังจากที่ใช้เวลาคบหาดูใจกันมานานถึง 4ปี
งานแต่งงานครั้งนี้ มีความสำคัญกับม่ายสาวหุ่นเป๊ะมากถึงขนาดที่เจ้าตัวยอมรับทั้งน้ำตาว่า การแต่งงานครั้งนี้เป็นรักครั้งแรกของเธอ ที่ทำให้เรียนรู้และรู้ซึ้งถึงคำว่ารักอย่างแท้จริง โดยทั้งคู่ได้เนรมิตโรงแรมเดอะสยาม บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีสำคัญ มีการผสานพิธีทางศาสนาทั้งแบบไทยและคริสต์อย่างอบอุ่น ท่ามกลางแขกเหรื่อและคนใกล้ชิดราว 50 คนเท่านั้น เพราะเจ้าสาวอยากให้งานนี้เป็นกันเองที่สุด เพื่อที่ทั้งคู่จะได้มีเวลาทักทายผู้มาร่วมแสดงความยินดีจนครบทุกคน
ม่ายสาวบอกอย่างอารมณ์ดีว่า ถึงแม้ว่ารักครั้งนี้จะเป็นรักแรก แต่ก็ขอให้เป็นรักสุดท้ายของตัวเองตลอดไป เป็นต้นฉบับเจ้าสาวไม่กลัวฝนตัวจริงเสียงจริงเลยคร่า
เห็นมั๊ยคะว่า ปีม้าคึกคะนองสมชื่อจริงๆ ไม่ว่าความรักจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม ก็ขอให้ทุกคู่ประคองและรักษาความรักให้อยู่เป็นรักนิรันดร์ตลอดไปนะคะ
