xs
xsm
sm
md
lg

CHIM BANGKOK 2014 มหกรรมความอร่อยจากฝีมือเชฟขั้นเทพของเมือไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แค่กวาดตาดูรายชื่อของบรรดาเชฟ 25 คนที่มาร่วมปล่อยเมนูเด็ดในงาน CHIM BANGKOK 2014 หรือมหกรรมการชิมอาหารระดับกูร์เม่ต์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 16 ธันวาคม นี้ ถือเป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ของกรุงเทพฯที่สามารถระดมเชฟฝีมือขั้นเทพตามร้านอาหารชื่อดังและโรงแรมระดับ 5 ดาว มาร่วมมือกันทำอาหารคนละเมนูเพื่อนำรายได้มอบให้แก่โครงการหลวง

ลองคิดดูว่าถ้าเราจะไปกินอาหารฝีมือ เชฟDavid Thompson มิชลินสตาร์หนึ่งดาวจากร้านNahm,เชฟ Gaggan Anand ผู้พลิกโฉมอาหารอินเดียด้วยเทคนิคโมลิกูลาร์ จากร้านGaggan, เชฟ Haikal Johari จากWater LibraryThonglor ร้านอาหารฝรั่งเศส สไตล์Modern Cusine ที่ขึ้นเรื่องราคาแพงแต่มีลูกค้าจองตลอด และเชฟอื่น ๆ อีกให้ครบ 25 คนคงต้องใช้เวลาตระเวนกินไม่น้อย แต่งานนี้เชฟระดับเทพจากทั่วสารทิศเดินทางปรุงเมนูเด็ดที่รังสรรค์สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเสร็จจากงานนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองเมนูนี้อีกแล้วก็ได้
นั่นคงเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับนักชิมที่จะได้เปิดหูเปิดตากับอาหารหลากรส หลากสไตล์กับหลากหลายเชฟ งานจัดหนักขนาดนี้พลาดได้อย่างไร!!

ไฮไลต์ของงานที่น่าสนใจเริ่มตื่นเต้นกันตั้งแต่วันที่ 6 ธันวามคม เวลาห้าโมงเย็นแดดร่มลมตกไปจนถึงสองทุ่ม เป็นงาน CHIM IN THE GARDEN หรือดินเนอร์ในสวนสวยต้นไม้ร่มรื่นของสยามสมาคม อโศก ท่ามกลางดนตรีคลอเบา ๆ ซึ่งจัดเป็นลักษณะ Long Table สำหรับแขกนั่งเล่นกินดื่มแบบชิล ๆ
ส่วนรอบ ๆ สวนจัดวางเป็นซุ้มอาหารที่มีเชฟชื่อดังของเมืองไทยทั้งหมด 25 คนมาปรุงอาหารใหม่สดให้กินกันแบบพอร์ชั่นพอดีคำ เชฟ 25 คนก็ได้ 25 คำ กำลังอิ่มพอดี ในราคา 2,500 บาท หรือตกแล้วคำละ 100 บาท งานนี้รับจำนวนจำกัดเพียง 250 คนเท่านั้นที่จะมีโอกาส มาอร่อยกับฝีมือของบรรดาเชฟมืออาชีพที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย

อยากรู้ว่าอาหารคำละร้อยมีอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่างมาเป็นออร์เดิร์ฟยั่วน้ำลายหน่อย อาทิ เชฟชุมพล แจ้งไพร ร้านSiam Wisdom ทำกุ้งแม่น้ำผัดพริกขิง , เชฟ Arnaud Dunand Sauthier จาก Le Normandie, Mandarin Oriental Bangkok ทำ Beef cheek parmentier / black winter truffle ,เชฟ Haikal Johari แห่งร้าน Water Library จะทำทาร์ทาเนื้อแกะ ,เชฟDavid Thompson แห่งร้าน Nahm จะมาทำหมูซ่าใส่กุ้งมังกร ,เชฟ Stefano Merlo แห่งร้าน Enoteca จะทำเมนู Veal tongue with saffron potato ed and licorice
แค่ดูเมนูตัวอย่างก็คุ้มค่ากับคำละร้อยแล้วใช่ไหม


ส่วนใครชอบอาหารไทยไม่ควรพลาดมื้อสำคัญของวันที่ 9 ธันวาคม นี้ ในชื่อ CHIM THAI ถือเป็นไวน์ดินเนอร์มื้อประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ เพราะจะมีเชฟชั้นนำระดับเอเชียมาปล่อยของเด็ดเมนูอาหารไทย 7 คอร์ส 7 เชฟ ที่จะมาปรุงอาหารไทยสไตล์ Modern & Authentic ซึ่งเหล่านักชิมควรจะต้องมาอัพเดทอย่างยิ่ง
เมนูเด็ดของเชฟแต่ละคนที่ผู้เขียนมีโอกาสไปลองชิมมาแล้ว อาทิ จานแรกจากเชฟนูรอ แห่งร้าน Blue Elephent เป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกับ “ 3 Period” ย้อนยุคไปสู่ขนมจีบโบราณแบบไทยคือช่อม่วง , อาหารอีสานเป็นลาบเหนียวปลาทูน่า และอาหารไทยโมเดิร์นคือซัลซ่าอโวคาโดกับลอบสเตอร์เทอริยากิ

จานที่ 2 เป็นอาหารสองแซบมาเจอกันโดยมิได้นัดหมายแต่อร่อยแบบลงตัวคือยำปลาดุกฟูกับคัสตาร์ดต้มยำกุ้ง รสชาติของความแซบจี๊ดจ๊าดนั้นแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือเชฟฝรั่งหนุ่มหล่อ Morten Nielsen ร้าน Benjarong โรงแรมดุสิตธานี

จานที่ 3 กั้งแช่น้ำปลา ที่เก๋คือน้ำจิ้มซีฟู้ดนำไปปั่นแล้วทำให้เย็นเป็นไอศกรีม ราดลงบนตัวกั้งที่แช่น้ำปลาให้มีรสเค็มปะแล่ม เวลาเคี้ยวเนื้อกั้งอยู่ในปาก น้ำจิ้มซีฟู้ดเย็น ๆ จะค่อย ๆละลาย ความแซบของน้ำจิ้มจะค่อย ๆ กำซาบเข้าไปในต่อมรับรส ให้รับรู้ถึงความอร่อย

จานที่ 4 พบกับเชฟหนุ่ม แห่งร้านOSHA ที่กำลังมาแรงในสไตล์ Thai with Molecular Twist กับจานเด็ด “ข้าวตังฟัวกราสหน้าปูกับซุปข้าวโพดหวาน” เป็นหนึ่งร้อนคือซุปข้าวโพดหวานและหนึ่งเย็นคือฟัวกราสที่นำไปหมักและทำซูวีให้รสชาติเข้มข้นขึ้น

จานที่ 5 “ขนมจีนรักษาเนื้อไก่ฉีก” จากฝีมือของเชฟโบ-ลาน เป็นเมนูโบราณของหม่อมเจ้าจันทร์เจริญ รัชนี ทำจากน้ำพริกเผาปรุงรสกับกะทิ กินกับขนมจีน มีผักสดเป็นเครื่องเคียง โรยหน้าด้วยผักชี กระเทียมเจียว เป็นเมนูโบราณที่อร่อยแบบข้ามกาลเวลาทีเดียว

จานที่ 6 แกงดอแนปลาจาระเม็ด แกงชื่อแปลกเพราะเป็นแกงส้มของชาวยาวีที่ ใช้ความเปรี้ยวจากส้มแขกแห้ง และเครื่องเทศ เพื่อมาช่วยตัดความคาวของปลา ส่วนเครื่องเคียงปลาหมึกแดดเดียวและหมูหวานมาเติมเต็มให้ครบรส

จานที่ 7 เป็นของหวานฝีมือเชฟชุมพล แจ้งไพร ในชื่อ Trio of Thai Dessert คือข้าวตูข้าวตอก ข้าวเหนียวมะม่วง และกล้วยบวดชีซูเฟร 3 รส 3 แบบที่มีไอศกรีมเชอร์เบทส้มซ่ารสเปรี้ยวนิดแหอมกลิ่นส้มซ่าเอาไว้คอยตัดหวาน
ครบ 7 คอร์ส จาก 7 เชฟพร้อมไวน์ที่คัดสรรโดย อ.วิโรจน์ ลี้ตระกูล โดยจัดขึ้นที่ห้องอาหารเบญจรงค์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ บัตรราคา 5,000 บาท มีเพียง 60 ที่นั่ง


อีกไฮไลต์ คือวันที่ 10-11ธันวาคม  CHIM’s YOUNG CHEF ลองไปลิ้มลองฝีมือของเชฟหนุ่มสาวเชฟรุ่นใหม่แต่ฝีมือไม่แพ้ปรมาจารย์รวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์ไวน์ดินเนอร์มื้อแห่งความทรงจำ เชฟเหล่านี้มีไลฟ์สไตล์ไม่ต่างจากหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ซึ่งนอกจากเขาจะเข้าใจถึงความต้องการของคนยุคนี้แล้ว พวกเขายังจะพาไปสัมผัสประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีพในดินเนอร์มื้อเดียว ด้วยฝีมือการปรุงอาหารสไตล์โมเดิร์นทรงพลัง
ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เหล่าเชฟระดับเทรนดี้มารวมตัวกัน อาทิ ZraJiraratana - Aston 31, Mirco Keller - WL Chamchuri Square, Nan Bunyasaranand - Little Beast, Daniel Bucher - Reflexions, Angela Brown - Park Societyและ Mai Apirawit - Whale’s Bellyจัดขึ้นที่ร้าน ASTON 31 บัตรราคา 5,000 บาท อาหาร 6 คอร์ส จับคู่กับไวน์ชั้นนำ มีเพียง 60 ที่นั่งเท่านั้น (จัด 2 วัน)

ปิดท้ายเทศกาล CHIM THAILAND ด้วยสุดยอดไวน์ดินเนอร์สำหรับผู้ที่หลงใหลอาหารแบบโมเดิร์นจากอาหารระดับกูร์เมต์ตำรับฝรั่งเศส โดยพ่อครัวหัวใจโมเดิร์นเหล่านี้จะมารวมตัวปรุงเมนูจากซิกเนเจอร์ของตัวเองคนละคอร์ส ไล่เรียงถึง 8 คอร์ส จาก 8 เชฟ ได้แก่ เชฟ HaikalJohari - Water Library, เชฟArnaud DunandSauthier - Le Normandie,เชฟAlex Burger - Aziamendi Phuket,เชฟ Norio Nomoto - Tsu / JW Marriott Bangkok, เชฟStephano Merlo - Enoteca, เชฟTim Butler - Eat Me เชฟ,Erwin Eberharter / Fine Food & Two ChefsและเชฟPaul Smart - Sofitel So Bangkok จัดขึ้นที่โรงแรม JW Marriott Bangkok บัตรมีจำหน่ายเพียง 80 ที่นั่งในราคา 10,000 บาท

ดูรายชื่อเชฟแล้วล้วนอยู่ระดับขั้นเทพของเมืองไทยทุกคน และในช่วงตอนทำเทสติ้งอาหารแต่ละจานนั้น เรียกได้ว่าทุกเชฟปล่อยทีเด็ดกันสุดฤทธิ์แบบไม่ยอมน้อยหน้ากันเลย ขอแนะนำว่าอย่าพลาดงานชิมวันที่ 16 ธันวาคม นี้ ซึ่งถือเป็นงานปิดฤดูกาล CHIM THAI ถ้าพลาดแล้วต้องรอถึงปีหน้าแน่นอน

สนใจจะลิ้มลองความอร่อยวันไหนตัดสินใจแล้วสำรองที่ได้ที่ www.chimbangkok.comรวมทั้งพันธมิตร 3 เว็บไซต์ที่ร่วมให้ข้อมูล www.eatigo.com / www.paysbuy.com / www.uber.com
กำลังโหลดความคิดเห็น