>>เดอะ เกล็นลิเว็ต (The Glenlivet) จุดเริ่มต้นของโลกซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ นำโดย มร.แพททริค กัสทานิเย่ร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) เนรมิตร้านวิสก้าส์ (Whisgars) เพลินจิต จัดงาน ‘เดอะ เกล็นลิเว็ต เลกาซี่ เทสติ้ง’ (The Glenlivet Legacy Tasting) เพื่อพาเหล่าวิสกี้คอนโนซัวร์แถวหน้าของเมืองไทยกว่า 30 คน ร่วมเปิดประสบการณ์จุดเริ่มต้นของโลกซิงเกิล มอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ ครั้งแรกในประเทศไทย โดยมี มร.ดาร์เรน โฮซี่ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ The Glenlivet บินตรงมาให้ความรู้เรื่องซิงเกิล มอลต์อย่างใกล้ชิดแก่เหล่าเอกบุรุษผู้ชื่นชอบซิงเกิล มอลต์ ที่มาร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในงานนี้อย่างคับคั่ง อาทิ กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา, วาริท อยู่วิทยา, ธํารง มหาดํารงค์กุล, เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ และธันยาวัฒน์ ตระกูลทอง
The Glenlivet เพรสทีจ ซิงเกิล มอลต์ สก็อตช์ วิสกี้แบรนด์แรกของโลก ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานร่วม 200 ปี เมื่อ จอร์จ สมิธ (George Smith) หนึ่งในเจ้าของโรงกลั่นวิสกี้ดั้งเดิมในเขตสเปย์ไซด์ ผู้เชื่อมั่นในการรังสรรค์อารยธรรมแห่งการดื่มวิสกี้ขนานแท้ ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยการดวลปืนกับกลุ่มผู้บุกเบิกโรงกลั่นวิสกี้ในยุคเริ่มแรกโรงอื่นๆ และผลักดันให้การตั้งโรงกลั่นเป็นไปอย่างถูกต้อง จนในที่สุดได้รับใบอนุญาตกลั่นวิสกี้อย่างถูกกฎหมายเป็นคนแรกในปี ค.ศ. 1824 โดยเริ่มต้นผลิตซิงเกิล มอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ ระดับคุณภาพภายใต้ชื่อ The Glenlivet แต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งนับเป็นการบุกเบิกยุคทองของการผลิตซิงเกิล มอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ อย่างแท้จริง
งาน The Glenlivet Legacy Tasting ถูกเนรมิตขึ้นในบรรยากาศแบบสปีกอีซี่ (Speakeasy) ณ ร้านวิสก้าส์ (Whisgars) เพลินจิต ซึ่งเปรียบเสมือนซีเคร็ต เพลส ที่ซ่อนอยู่ในแหล่งที่คาดไม่ถึงซึ่งมาจากคอนเซ็ปต์ของบาร์ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ซึ่ง The Glenlivet ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง โดยมี มร.ดาร์เรน โฮซี่ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ The Glenlivet ให้การต้อนรับและพาเหล่าผู้ร่วมงานย้อนกลับไปในตำนานอันเป็นจุดกำเนิดของ The Glenlivet พร้อมร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และวิธีเพลิดเพลินกับซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ขนานแท้อย่างใกล้ชิด
โดยงานนี้ผู้ร่วมงานต่างดื่มด่ำไปกับรสชาติและอโรมาอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์จากซิงเกิล มอลต์ วิสกี้ในรุ่นคลาสสิกของ The Glenlivet ที่เพิ่มความสุนทรีย์ของการดื่มด้วยการนำมาจับคู่กับเมนูอาหารจากร้าน เอล โอซิโต (El Osito) อันได้แก่ The Glenlivet 12 ปี ที่มาพร้อมกับรสชาติอันนุ่มละมุน พร้อมฟรุตตี้ อโรมา และกลิ่นหอมของฤดูร้อน จับคู่กับแซลมอนรมควันและบรีชีส (Queso y salmon) The Glenlivet 15 ปีที่โดดเด่นด้วยคาแรกเตอร์อันเข้มข้น ลุ่มลึก ของกลิ่นครีมมี่ที่เต็มไปด้วยรสชาติแบบฟรุตตี้และนัตตี้ พร้อมความสไปซี่ทิ้งท้ายถูกนำมาจับคู่อย่างเข้ากันได้ดีกับสลัดเป็ดและซาลซิตา (Pato con salsita) ส่วนอีกเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน คือ Albondigas หรือ สแปนิช มีตบอล นำมารับประทานคู่กับ The Glenlivet 18 ปีที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอันเข้มข้นของผลไม้และทอฟฟี่ ให้รสชาติที่หรูหรากลมกล่อมผสมความหอมหวานของส้ม พร้อมให้รสทิ้งท้ายที่ยาวนานอย่างน่าประทับใจ และ The Glenlivet 21 ปีที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นอโรมาของผลไม้แห้งและเหล้าองุ่น พร้อมรสชาติของซินนามอนและขิง และให้รสทิ้งท้ายที่ยาวนานถูกนำมาจับคู่กับขนมปังหน้ามะกอกดำบดแบบโฮมเมด มะเขือเทศ ไข่ต้ม และแองโชวี (Tapenade y tomate) ซึ่งเป็นอาหารที่รสไม่จัดช่วยเพิ่มอรรถรสการดื่มได้เป็นอย่างดี :: Text by FLASH
