ใบหน้าหวานๆ ของ พิมพ์-พิมพ์ขวัญ อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาในทีวีรายการ Money Channel และบนเวทีประกวดนางงามมาบ้าง แต่เบื้องหลังเธอคือลูกสาวของหมอประจักษ์ เจ้าของโรงพยาบาลนวมินทร์ ที่ถูกวางตัวให้มารับช่วงบริหารในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
“พิมพ์หลงใหลในความท้าทาย ชอบเจอ ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ผ่านมาในชีวิตทุกวัน งานโรงพยาบาลก็เป็นงานที่ต้องรับผิดชอบ ถือเป็นความท้าทายใหญ่ ที่เข้ามาทำแล้วต้องขยายและทำให้ดีขึ้น ให้เป็นโรงพยาบาลที่ทุกคนนึกถึง” นั่นคือธงที่ พิมพ์-พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล ทายาทคนสำคัญของ นพ.ประจักษ์ บุญจิตต์พิมล ตั้งไว้และต้องทำให้ได้ หากเข้ามาบริหารโรงพยาบาลนวมินทร์เต็มตัว
พิมพ์ขวัญ เป็นลูกสาวคนโตของ นพ.ประจักษ์-วราภรณ์ บุญจิตต์ พิมล เจ้าของโรงพยาบาลนวมินทร์และคลินิกในเครือ กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาสาธารณสุขศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยก่อนหน้านี้เธอสำเร็จปริญญาตรีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และปริญญาโท สาขากฎหมายยุโรป ที่คณะนิติศาสตร์ จากจุฬาฯ ก่อนจะลัดฟ้าไปเรียนต่อโทอีกใบที่ มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ประเทศอังกฤษ ในสาขา International Health Management
“คุณพ่อไม่เคยบังคับให้ต้องเรียนหมอ เพราะรู้ว่าหมอเป็นอาชีพที่เหนื่อย น้องชายก็ไม่ได้เรียนหมอ เขาเลือกเรียนวิศวะ พิมพ์กับน้องถูกเลี้ยงแบบให้คิดและตัดสินใจเอง เพียงแต่ท่านจะสอนว่า ถ้าอยากทำอะไรก็ทำให้สุดไปเลย อย่าทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ พิมพ์ยึดคำสอนของท่านเป็นแนวทางตั้งเรียนหนังสือ ถึงตอนนี้ทำงาน ก็ยึดคำสอนนี้มาตลอด”
และเมื่อชีวิตการเป็นนักเรียนที่ใกล้จะจบหลักสูตรสูงสุดของระบบการศึกษาแล้ว ก็ถึงเวลาที่พิมพ์ขวัญ จะต้องมารับงานดูแลโรงพยาบาลต่อจากพ่อ นับเป็นความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิต พิมพ์ขวัญจัดเป็นหญิงสาวยุคใหม่ผู้ชาญฉลาด เปี่ยมด้วยไหวพริบ และความสุข ที่พร้อมมอบแก่ทุกคนที่เธอพบ
สาวใบหน้าสวยดวงตาระยิบระยับวับวาว ยอมรับว่า แม้ได้สัมผัสและเติบโตมาพร้อมๆ กับโรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ นพ.ประจักษ์ ผู้เป็นพ่อก็ให้เรียนรู้งานเกือบทุกแผนก ตั้งแต่จัดซื้อยา การตลาดและบัญชี ล่าสุด รั้งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ เพื่อเรียนรู้ถึงการขยายายงานในประเทศเพื่อนบ้าน และคู่ค้าที่สำคัญอย่าง ลิเบีย
ถึงมีพ่อวางรากฐานงานทุกอย่างจนดูราบเรียบและลงตัวแล้ว แต่การที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่างพ่อของเธอนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะด้วยวัยวุฒิที่ยังน้อย ทำให้เธอต้องสนใจศึกษาและอยากรู้ในทุกเรื่อง
“งานบริหารโรงพยาบาลเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ทุกแผนกมีความสำคัญเท่ากันหมด ต้องมีทักษะความรู้รอบด้าน ต้องทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ทั้งคุณหมอ พยาบาล พนักงานและคนไข้ ตรงนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่นจากทุกคนให้ได้ ทุกวันนี้เวลามีเอกสารอะไรมาต้องดูให้ละเอียด ยิ่งการสั่งซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ หรือยา เป็นสิ่งที่พิมพ์ไม่รู้เรื่องเพราะไม่ได้เรียนมา พิมพ์ก็ต้องศึกษาเพิ่มเติม ตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามคุณพ่อ ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาอะไรที่ทำให้ต้องหนักใจเลย พิมพ์รู้สึกสนุกกับสิ่งใหม่ที่มีให้เรียนรู้ทุกวันค่ะ”
พิมพ์ขวัญ ในวัยเพียง 25 ปียังบอกถึงแนวคิดการบริหารโรงพยาบาลต่อจากบิดาว่า เธอคงไม่มีหน้าที่เพียงแค่เซ็นต์เอกสาร หรือบริหารงานไม่ให้ขาดทุนเท่านั้น สิ่งที่เธอต้องทำให้ได้คือ การทำให้โรงพยาบาลนวมินทร์เข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วไป ให้คนกล่าวถึงว่าเป็นโรงพยาบาลที่ดีและทันสมัยในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะ เรื่องความสวยงามและโภชนาการ
“พิมพ์เป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ก็เลยคิดว่าจะทำให้นวมินทร์เป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในเรื่องนี้ ตอนนี้พยายามศึกษาเรื่องเทคโนโลยี และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย อีกเรื่องที่สนใจคือ ให้มีแผนกโภชนการจัดอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะพิมพ์เองก็ชอบทำอาหาร ชอบคิดเมนูอาหารเพื่อสุขภาพอยู่แล้วค่ะ”
สาวน้อยหน้าใสคนนี้ ยังบอกถึงเทคนิคที่ทำให้เธอเป็นนักบริหารสาวหัวสมัยใหม่ที่อารมณ์ดีว่า ยึดพ่อเป็นแบบอย่าง ชอบที่พ่อมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และทำงานหนักมาตลอด แต่พ่อก็อารมณ์ดีและเป็นที่รักของคนทั่วไป โดยในสมัยที่ นพ.ประจักษ์ เป็นนักศึกษาแพทย์ปี 5 ได้เปิดคลินิกให้หมอรุ่นพี่ มาเป็นหมอประจำรักษาคนไข้จนเป็นที่ยอมรับของคนไข้ ความขยันรับผิดชอบต่อยอดพัฒนาชีวิตตรงนี้ “พิมพ์ขวัญ” จึงเรียนรู้ทุกอย่างที่ขวางหน้า
“แอบชอบงานวงการบันเทิง อยากลองทำงานทีวีแต่ไม่ได้อยากเป็นดารา ช่วงปี 2548 ตอนเรียนที่จุฬาฯ เคยลองมาประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ ได้รองอันดับ 2 พอปี 2556 ประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งนางงามผิวสวย จากนั้นทางโมเดิร์นไนน์ทีวีก็ให้เป็นผู้ประกาศข่าว ต่อมาก็ได้เป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์รายการ Money Channel เป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ งานตรงนั้นทำให้พิมพ์กล้าพูด ไม่อายกล้อง ได้รู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ”
ปัจจุบัน แม้จะค่อยๆ ถอยห่างออกจากวงการแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เธอบอกว่าอยากทำหากมีโอกาสคือ การแสดง แต่ด้วยความที่พ่อและแม่ไม่ปลื้ม ก็เลยไม่คิดอยากจะทำ “เรื่องละครก็เป็นแค่ความคิด งานอื่นในอนาคตพิมพ์ก็อยากทำงานโปรเจกต์ของตนเองสักชิ้นหนึ่ง ที่ไม่เกี่ยวกับพ่อแม่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร” หญิงสาวกล่าวทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มที่สดใส
เรื่อง : วรกัญญา
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร
