“พิภู” ผู้ประกาศโมเดิร์นไนน์พาแม่แจ้ง ตร.ถูกโจรพยายามชิงทรัพย์

“พิภู” ผู้ประกาศข่าวโมเดิร์นไนน์ และดีเจคลื่นซี้ด พามารดาโร่แจ้งตำรวจโชคชัย หลังถูกคนร้ายบุกบ้านย่านวังทองหลาง พยายามชิงทรัพย์กลางวันแสกๆ



วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.โชคชัย นายพิภู พุ่มแก้ว หรือดีเจต๊ะ อายุ 31 ปี ผู้ประกาศ และดีเจคลื่นดัง พร้อมนางกุลนาถ พุ่มแก้ว อายุ 62 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ชาตรี ขาวสะอาด พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย กรณีถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย และพยายามชิงทรัพย์ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 1127 ซอยโชคชัย 4 ซอย 6 (ซอยสังคมสงเคราะห์ 31) หมู่บ้านวังทอง ถ.สังคมสงเคราะห์ แขวงและเขตวังทองหลาง

นางกุลนาถ กล่าวว่า ช่วงเช้าขณะที่ตนกำลังตากผ้าอยู่บริเวณหลังบ้าน ก็มีผู้ชายมาทุบตีตน ซึ่งครั้งแรกคิดว่าคนมาแกล้ง ตนจึงหันไปเพื่อต่อว่า แต่กลับถูกทุบตีอย่างรุนแรงบริเวณศีรษะ ใบหน้า และลำคอข้างซ้าย ตนจึงร้องขอความช่วยเหลือ กระทั่งลูกสาวคนเล็กได้ยิน จึงร้องให้คนช่วย คนร้ายจึงตกใจ และกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงจากคอตน แต่ตนกำไว้แน่น สร้อยจึงตกลงพื้น คนร้ายจึงอาศัยจังหวะนั้นรีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป

นายพิภู กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเปิดประตูบ้านเพื่อนำรถยนต์ออกจากบ้านนั้นได้เห็นชายรูปร่างผอมสูงประมาณ 165 ซม. ตาโต ใส่เสื้อสีเขียว เจาะหู อายุ 20 ต้นๆ เดินสวนไป พร้อมกับมองหน้าตน แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไรจึงขับรถออกจากบ้านเพื่อไปทำงานตามปกติ กระทั่งเวลา 09.00 น. น้องสาวโทรศัพท์มาบอกว่า มีโจรขึ้นบ้าน ตนจึงรีบกลับมาที่บ้านทันที พบแม่กับน้องสาวกำลังร้องไห้ ตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงรีบพาแม่ไปตรวจร่างกายที่รพ.ลาดพร้าว ทั้งนี้ จากการสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00-08.00 น. เห็นชายคนที่มีลักษณะตรงกับที่ตนพบเมื่อเช้า กับเพื่อนอีกหนึ่งคนเดินผ่านเข้าออกซอยตน และซอยที่อยู่ใกล้เคียงกันหลายรอบ ตนจึงคิดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุมาดูลาดเลาตั้งแต่ช่วงเช้า

นายพิภู กล่าวต่อว่า ผมอยู่บ้านหลังนี้มาเกือบ 30 ปี เคยมีเหตุโจรงัดบ้านครั้งหนึ่งเมื่อ 15 ปีก่อน แต่พอครั้งนี้ผมรู้สึกตกใจเพราะว่าตำรวจสายตรวจมาตรวจบ้านละแวกนี้บ่อยมาก ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าก่อเหตุ แล้วปกติกลางวันแม่ก็อยู่บ้านคนเดียว ผมคิดว่าคนร้ายคงมาดูลาดเลาไว้แล้ว คิดว่าแม่อยู่บ้านคนเดียวจึงตั้งใจจะทุบตีให้สลบ ก่อนเข้าไปขโมยของในบ้าน แต่พอรู้ว่ามีน้องสาวอยู่ด้วยจึงตกใจคว้าสร้อยคอทองคำแทนแต่ก็หลุดมือ จึงรีบหลบหนีไป สำหรับอาการของแม่นั้น หมอเอกซเรย์แล้วบอกว่าตอนนี้ปลอดภัย ไม่เป็นอะไรมาก แต่ให้รอดูอาการอีก 1 วันว่าจะมีอาการแทรกซ้อนหรือไม่

ร.ต.ท.ชาตรี กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ พร้อมประสานเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย พร้อมตั้งข้อหาต่อคนร้ายว่าพยายามชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกายไว้ก่อนในเบื้องต้น

ขณะที่ พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อตรวจสอบรอยนิ้วมือคนร้าย และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อไล่กล้องวงจรปิดตั้งแต่หน้าปากซอย ซอยใกล้เคียง กระทั่งถึงบ้านหลังดังกล่าว พร้อมรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ นอกจากนี้ กำชับให้สายตรวจ และฝ่ายปราบปรามเพิ่มมาตรการตรวจตราในพื้นที่อย่างเข้มงวด

ต่อมา เมื่อ 12.00 น. ร.ต.ท.ชาตรี ขาวสะอาด พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว ชั้นเดียว ขนาด 50 ตารางวา เลขที่ 1127 ซอยโชคชัย 4 ซอย6 (ซอยสังคมสงเคราะห์ 31) หมู่บ้านวังทอง ถ.สังคมสงเคราะห์ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เพื่อตรวจหารอยนิ้วมือ รวมถึงเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการหลบหนี

ด้าน น.ส.ภูริตา พุ่มแก้ว อายุ 27 ปี น้องสาว นายพิภู กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนยังไม่ออกไปทำงาน และกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน ต่อมา ก็ได้ยินเสียงดัง ซึ่งคิดว่าเป็นเสียงแมวที่ตนเลี้ยงไว้ จึงเปิดม่านดู พบว่ามีคนร้ายเป็นชายกำลังใช้มือทุบเข้าที่บริเวณใบหน้า และศีรษะของแม่ ตนจึงกรีดร้องด้วยความตกใจ พร้อมกับคว้าโทรศัพท์มือถือเพื่อวิ่งออกมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยตนพยายามจะถ่ายรูปคนร้ายแต่ด้วยความตกใจจึงไม่สามารถถ่านไว้ได้ เมื่อคนร้ายเห็นตนจึงวิ่งและปีนกำแพงบ้านหลบหนีไป ตนจึงวิ่งเข้าไปดูอาการของแม่ พบว่า บริเวณศีรษะ และใบหน้าของแม่มีร่องรอยจากการถูกทำร้าย ทั้งนี้ บริเวณพื้นยังพบสร้อยคอทองคำเส้นเล็ก พร้อมกับพระหลวงปู่ทวดของแม่ขาดตกอยู่ ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และโทรศัพท์บอกพี่ชาย อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกว่าเหตุการณดังกล่าวเป็นเหตุที่อุกอาจมาก เนื่องจากเกิดในช่วงเวลาสายๆ อีกทั้งยังเป็นกลางวันแสกๆ ซึ่งอยากจะวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว