เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปีการเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรก โอเมก้า จึงจัดงาน “The Moon Watch” เพื่อเปิดตัว The OMEGA Speedmaster Professional 11 45th Anniversary Limited ณ บริเวณพาร์ค พารากอน สยามพารากอน
บุศรา ตันติวรถาวร ผจก.ผลิตภัณฑ์โอเม้กา บจก.เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า “โอเมก้าเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 โดยช่วงเวลานั้นโอเมก้าได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นด้วย เพราะว่า บัซ อัลดริน มีนาฬิกาโอเมก้าสปีดมาสเตอร์โปรเฟชชันนัลคาดอยู่บนชุดนักบินอวกาศของตน ในขณะที่ นีล อาร์มสตรอง ถอดนาฬิกาสปีดมาสเตอร์ของตนวางไว้บนยานที่ใช้สำหรับร่อนลงจอด เพื่อเป็นอุปกรณ์สำรองในกรณีที่ระบบควบคุมเวลาแบบอิเล็กทรอนิกส์บนยานเกิดปัญหา”
ในงาน “The Moon Watch” ภายในโดมยักษ์สุดอลังการ ส่วนแรกนั้นนำเสนอประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของนาฬิกาโอเมก้าสปีดมาสเตอร์ ด้วยการพาทุกคนย้อนอดีตกลับไปสู่วันสำคัญผ่านนิทรรศการ “The Greatest Time at Hall of Legacy” โดยมีคนสำคัญจากหลากหลายวงการ ร่วมชื่นชมเรื่องราวที่สุดของนวัตกรรมแห่งเรือนเวลาที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีหุ่นนักสำรวจอวกาศจำลองไว้ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
และที่ขาดไม่ได้คือ เหล่าคอลเลกเตอร์ที่มาร่วมงานกัน เพื่อขอยลโฉมโอเมก้า รุ่นลิมิตเต็ดนี้ อย่าง ดร.เชษฐา ส่งทวีผล นักเก็บสะสมนาฬิกา แฟนพันธุ์แท้โอเมก้า กล่าวว่า ความที่สะสมนาฬิกาไว้จำนวนมาก ก็ต้องให้ความสำคัญเรื่องการดูแลรักษา เครื่อง watch rider นับเป็นอุปกรณ์ในการช่วยรักษานาฬิกาได้เป็นอย่างดี เพราะจะช่วยให้เครื่องนาฬิกาเดินอยู่ตลอดเวลา และทุก 4-5 ปี ต้องนำนาฬิกาแต่ละเรือนส่งเข้าโชว์รูม เพื่อตรวจเช็คสภาพ โดยปกติ จะทำบันทึกไว้ว่านาฬิกาแต่ละเรือนซื้อมาเมื่อไหร่ ทำให้รู้ว่าเรือนไหนควรจะส่งเข้าเช็คเวลาไหน
ส่วน เดิมพัน อยู่วิทยา นักธุรกิจหนุ่มผู้ต้องมนต์เสน่ห์ของเรือนเวลา กล่าวว่า เริ่มสนใจและเก็บสะสมมาประมาณกว่าสิบปี ความที่เป็นคนสนใจเรื่องกลไกการทำงานต่างๆ และชอบที่นาฬิกามีกลไกการทำงานที่มหัศจรรย์มาก เพราะสามารถทำงานได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะ นาฬิกาที่ยิ่งบอกรายละเอียดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของผู้คิดค้นมากเท่านั้น
อีกหนึ่งนักสะสม อย่าง พรเศก ภาคสุวรรณ กล่าวว่า ชื่นชอบนาฬิกาวินเทจมากเป็นพิเศษ นาฬิกาที่เก็บสะสมส่วนใหญ่จึงเป็นนาฬิกาวินเทจเกือบทั้งหมด เพราะนาฬิการุ่นเก่าอมตะ ดีไซน์คลาสสิก สามารถใส่ได้ทุกยุคทุกสมัย ความที่มันมีคุณค่า ส่วนใหญ่จึงซื้อมาเก็บ มีใส่ประจำอยู่แค่ 4-5 เรือน
ปิดท้ายที่สุภาพสตรี อาภาศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวว่า ชอบนาฬิกาแต่เป็นคนไม่ซื้อ เพราะนาฬิกาของตัวเองทุกเรือน ได้รับตกทอดจากคุณยาย คุณแม่ คุณน้าทั้งสิ้น บางเรือนอาจไม่ได้มีมูลค่ามากมาย แต่ทุกเรือนมีคุณค่าทางใจอย่างมาก ใส่แล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นใจ เพราะแต่ละเรือนล้วนมีเรื่องราว มีความทรงจำที่มีความหมายกับเราและครอบครัว ฉะนั้น จึงต้องดูแลและเก็บรักษาเป็นอย่างดี
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net