xs
xsm
sm
md
lg

ชัดเจน..แต่ก็สับสน : องุ่น เกณิกา สุขเกษม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ : เรื่องเล่าในเงาดิน โดย : องุ่น เกณิกา สุขเกษม

ภาพนี้ที่เห็นยิ้มๆ อย่างนี้
ความเป็นจริงวันนั้นฉันไปโรงพยาบาล
กำลังนั่งรอที่จะเข้าห้องผ่าตัดตรวจเพื่อตรวจโดยตัดชิ้นเนื้อไปหาความผิดปกติ
ที่ข้างในเซลล์ซึ่งหมอตรวจพบในตอนแรก....และโชคดีที่หลังจากวันนั้น
ฉันได้รับผลการแจ้งมาในภายหลังว่าฉันไม่เป็นอะไร

จากรอยยิ้มในภาพนั้นถ้าดูดีๆ จะเห็นว่ามันดูเศร้ามาก
ยิ่งดวงตายิ่งดูเจือเศร้า
และฉันรักภาพนี้มากๆ เลย
เพราะมันเป็นภาพในขณะที่ฉันกำลังเผชิญกับอะไรบางอย่าง
ซึี่่งมันมีทั้งความกลัวและการพยายามพร้อมยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดอย่างเงียบๆ
ฉันกำลังทำใจยอมรับในความเป็นธรรมชาติของการมีชีวิต
แต่วันนั้น ธรรมชาติก็ยังปราณีบอกกับฉันว่า "วันนี้เธอโชคดี"
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร


แต่ถึงอย่างไรคนเราก็ต้องเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ตายด้วยโรคอะไรก็ต้องเป็นโรคอะไรซักอย่างอยู่วันยังค่ำ
เพียงแต่วันนั้นของแต่ละคนมันจะมาถึงช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง

ชีวิต..ไม่ได้เลื่อนลอยเกินไปหรอก ฉันบอกกับตัวเองในค่ำคืนหนึ่ง
ฉันรู้สึกแจ่มชัดในยามมืดค่ำเมื่อเดินเข้าไปในห้องนอน..."ได้เวลานอนอีกวันแล้วมันเร็วจังเหมือนกับเมื่อวานนี้เลย..."
ฉันรู้สึกแจ่มชัดเมื่อทอดร่างลงนอนและค่อยๆ ลืมการรับรู้ไปชั่วขณะมันคือการหลับ
และฉันยังรู้สึกแจ่มชัดแม้ในยามฝัน
ฉันรู้สึกแจ่มชัดเมื่อเวลาหัวใจเต้นแรงแล้วค่อยๆ อ่อนโรยลงเมื่อประสบกับภาวะอะไรบางอย่างเป็นต้นว่า ความโกรธ
ฉันรู้สึกแจ่มชัดว่ากำลังทำอะไรอยู่..
"เว้นว่างเพื่อเดินต่อ" เป็นคำพูดที่บอกกับตัวเองอยู่เสมอๆ
ใช่!! ฉันรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ได้อย่างแจ่มชัด


ที่จริงนั้นนึกว่ามีอะไรจะเขียนต่อ
ให้ตายเถอะ!! มันผุดขึ้นมาแล้วก็หายไปเสียดื้อๆ และความรู้ที่ผุดขึ้นมานั้นมันต่างจากความทรงจำ จะนึกมันไม่ออกแต่จะพบมันได้เมื่อมันผุดขึ้นมาใหม่
ปล่อยๆ มันบ้างเถอะ!! ไม่จำเป็นที่ทุกอย่างต้องมีบทสรุปหรอกนะ..ฉันบอกกับตัวเอง
แบบภาพเขียนแอบแสตร็กบ้างก็ได้...

บ่อยครั้งในการที่ฉันจะต้องตัดสินใจอะไรๆ....ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับคนอื่นๆ เช่นในการรับนัดที่จะไปไหนมาไหน แต่สำหรับฉันมันกลับไม่ง่ายอย่างนั้นและมันกลับหาความแน่นอนไม่ได้เลยสำหรับฉัน ในการที่จะต้องคิดหรือตัดสินใจอะไรไว้ก่อนสำหรับเหตุการณ์ที่จะยังไม่เกิด จนกว่าจะถึงวันที่ชีวิตดำเนินไปในวันที่ต้องประสบเหตุการณ์นั้นจริงๆ
แล้วเท่านั้นแหละ ฉันจึงจะตัดสินใจและเลือกได้ว่าตัวเองจะไปทางไหน และจะไปหรือไม่ไป

แม้ฉันจะมีความรู้สึกอันชัดเจนกับสิ่งต่างๆ มากมายที่กล่าวอ้างไป แต่ในเรื่องหลังที่ว่ามานี้ฉันรู้สึกว่ามันจะเป็นปัญหาต่อตัวฉันเองเสมอมา

ชัดเจน..แต่ก็สับสน
บางทีก็ไปทางซ้าย แล้วก็หวนกลับมาทางขวา
และบางทีฉันรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเหมือนกับเรือที่แล่นไปเรื่อยๆ ตามน้ำ
เพียงแต่เป็นเรือที่เลือกแล้วว่าจะแล่นไปในแม่น้ำสายใดแล้วเท่านั้นเอง


ตอนเช้าฉันอาจไปวัด แต่ตกบ่ายฉันอาจขลุกอยู่กับการปั้นผู้หญิงโป๊
แต่การปั้นผู้หญิงโป๊ของฉันนั้นมันเป็นผุ้หญิงในจินตนาการของตัวเอง
ในเวลาที่ฉันดูภาพโป๊จริงๆ แล้วนั้นแปลกแสนแปลกที่ฉันรู้สึกเกือบจะเรียกได้ว่าเกิดความขยะแขยงไปเลยกับงานที่ฉันคิดว่าจะทำ
จนฉันต้องปล่อยเวลาให้ตัวเองสลัดภาพเหล่านั้นออกไปสักระยะเวลาหนึ่งแล้วกลับเข้ามาเป็นตัวของตัวเองในยามปกติ นั้น ฉันจึงจะเริ่มทำงานได้

เส้นแบ่งระหว่างความรู้สึกตรงนี้มีความสำคัญต่อตัวฉัน
มันคือสิ่งที่ฉันเป็นอยู่และพยายามทำความเข้าใจตัวเองเพื่อหาคำอธิบาย
และที่ผ่านมามีหลายต่อหลายคนเคยถามฉันว่า ทำไมฉันชอบปั้นผู้หญิงโป๊
ซึ่งฉันเองก็ยังตอบไม่ได้ รู้แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดของฉันนั่นเอง

"มันเป็นเพียงแค่รูปปั้นผู้หญิง แต่มันช่างบรรจุเรื่องราวมากมายเอาไว้ข้างในนั้นจริงๆ หนอ..."

ระหว่างฉันกับเธอ (รูปปั้นหญิงสาว) เราทั้งสองเกิดมาเพื่อกันและกัน
ฉันพบเธอในวัยวันที่ฉันอายุยี่สิบเก้า จนบัดนี้เราต่างอยู่เป็นหนึ่งเดียวกันมาตลอด
แต่ฉันยังค้นหาอะไรในเธอไม่หมดเลย ไม่ใช่รูปลักษณ์ไม่ใช่เทคนิคกรรมวิธีที่สร้างสรรค์พวกเธอ
แต่มันคือ "ข้างใน" ของเธอต่างหาก "ข้างใน" ที่เธอไม่เคยให้คำตอบกับฉันอย่างตายตัวได้เลย
แม้เราจะเป็นหนึ่งเดียวกันแค่ไหนก็ตาม

ถ่ายภาพโดย : ชาญชัย แซ่ฉั่ว

ภาพวาดโดย : ศิริกุล ปัตตะโชติ




รู้จัก... องุ่น เกณิกา สุขเกษม

จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยสยาม เคยทำงานเป็นสาวแบงค์ นาน 7 ปี

ปี 2540 เป็นต้นมา หันมาจับเศษดินปั้นเป็นหญิงสาวมากจริต จนได้รับการยอมรับ และรู้จักในฐานะประติมากรหญิงผู้ไม่เคยผ่านการเรียนศิลปะจากรั้วสถาบันใด

ขณะนี้องุ่นใช้ชีวิตและทำงานประติมากรรม อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นของบ้านริมแม่น้ำน้อย จ.สิงห์บุรี

เป็นชีวิตที่สมถะ เรียบง่าย สบายๆ แม้ไม่ได้สบายด้วยวัตถุ ดังที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ ART EYE VIEW เมื่อหลายปีก่อนว่า

“สบายด้วยอากาศ ด้วยต้นไม้ และมีอิสระ ทุกวันนี้ทำงานปั้นดิน และเผาเองทุกชิ้น ส่วนชิ้นไหนที่เห็นเหมาะเห็นชอบ ก็จะนำไปหล่อที่โรงหล่อ

รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากเลย เวลาที่ทำงาน เพราะอะไรที่มันเป็นชีวิตเรา เป็นความรู้สึกนึกคิดของเรา พอได้ทำเป็นงานออกมาแล้วมีความสุข

ถ้าช่วงไหนไม่ได้ทำงานปั้น มันเหมือนชีวิตเราหมดคุณค่า และอัดอั้น เพราะเรามีความรู้สึกที่ต้องระบายออกมา”

ติดตาม คอลัมน์ : เรื่องเล่าในเงาดิน โดย : องุ่น เกณิกา สุขเกษม ได้ทุกอาทิตย์ ทาง ART EYE VIEW

ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.astvmanager.com และ ART EYE VIEW เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com

และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews


กำลังโหลดความคิดเห็น