โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
โรคเลือดออกง่ายมีส่วนทำให้ราชวงศ์ที่เก่าแก่ราชวงศ์หนึ่งของโลกล่มมาแล้วเมื่อ 100 ปีก่อน
เมื่อพูดถึงเลือดออกง่ายหลายท่านคิดถึงเลือดออกตามไรฟันชวนให้คิดถึง “วิตามินซี” ที่เคยเรียนมา
ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งครับ แต่บางครั้งเราอาจไม่ได้เลือดออกง่าย เพราะขาดวิตามินเปรี้ยวตัวนี้เพียงอย่างเดียว
เพราะอาการเลือดออกง่าย และเป็นรอยช้ำตามตัวผิดปกติ เป็นเครื่องหมายของเรื่องภาวะสุขภาพหลายเรื่องที่ซ่อนอยู่ในตัว
อาทิ เกล็ดเลือดต่ำ, ติดเชื้อไวรัสบางชนิด, หรือมีปัญหาร่างกายไม่อาจสร้างสารหยุดเลือดได้
ต้องมาค่อยๆ ดูกันเป็นจุดไปแล้วจะหยุดปัญหาได้
ซึ่งในกลไกที่ทำให้เลือดหยุดได้นั้นมีตัวช่วยเด่นๆ อยู่ 3 ส่วน
- ไขกระดูก
- เกล็ดเลือด
- ทีมสารช่วยเลือดแข็งตัว
การที่เราเห็นแผลถลอกเล็กๆ มีเลือดจับแข็งแล้วหยุดไหลได้นั้น ในร่างกายถือเป็นงานใหญ่ครับโดยต้องระดม “ทีม(Coagulation cascade)” ที่ว่ามานี้นับไม่ถ้วนเพื่อชวนกันหยุดแผลเลือดออกไม่ให้เกิดอันตราย
ไม่อย่างนั้นเพียงทำฟันขูดหินปูนก็อาจเลือดไหลไม่หยุดได้
หรือบางกรณีของโรคเลือดหยุดยากแค่หกล้มก็ตกเลือดจนถึงแก่ชีวิตได้ครับ
ในสมัยของรัสปูตินเดียรถีย์แห่งจักรวรรดิรัสเซียเมื่อ 1 ศตวรรษก่อนนั้นได้อาศัย “โรคเลือดไหลไม่หยุด” เป็นจุดพาตัวเองแทรกเข้าในราชวงศ์โรมานอฟจนที่สุดราชวงศ์ที่เก่าแก่กว่า 400 ปีก็ถึงแก่กาลอวสานด้วยจุดจบที่แสนสะเทือนใจ
จะเห็นว่าเรื่องเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายเรานี้มีผลตั้งแต่เล็กไปจนเรื่องใหญ่โต ซึ่งบางคนอาจเริ่มจากเรื่องเล็กๆ ที่ชวนมองข้ามก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เช่น มีประจำเดือนมากผิดปกติจากเลือดไม่แข็งตัว, มีเลือดออกทางช่องคลอดจากมะเร็งปากมดลูกหรือเด็กๆ มีเลือดกำเดาไหลไม่หยุดนานนับ 10 นาที
ดังนั้นการที่จะรู้ว่าเลือดออกง่ายเกิดจากปัญหาอะไร ขอให้ดูความเป็นไปได้ที่จะขอเล่าถึงต่อไปนี้ จะช่วยทุ่นเวลาแล้วหาทางแก้ได้เร็วดีครับ
8 ตัวการทำช้ำบ่อย-เลือดออกง่าย
1) เกล็ดเลือดต่ำ ในเลือดคนเรามี “เกล็ดเลือด” ว่ายวนอยู่เป็นส่วนเล็กๆ ที่มีความสำคัญยิ่งยวด เพราะเวลาเส้นเลือดฉีกเกิดแผลขึ้นมาประชากรเกล็ดเลือดทั้งหลายจะชวนกันว่ายเข้ามา “อุด” ให้หยุดเลือดและมีสารช่วยหยุดเลือดอีกมาก
หากขาดเขาไปแล้วเราจะรู้สึกตอนเลือดออกว่ามันทำท่าหยุดยากเสียเหลือเกิน ซึ่งเรื่องนี้ถ้าสงสัยท่านอาจตรวจเองได้โดยง่าย และไม่แพงครับ แค่ขอเจาะตรวจความสมบูรณ์เม็ดเลือดที่เรียกว่า “ซีบีซี(CBC)” เท่านั้น
2) ไขกระดูกมีปัญหา แกนในของกระดูกเป็นเนื้อหยุ่นนิ่มที่เราเรียกกระดูกดำหรือไขกระดูก เป็นเสมือนโรงงานผลิตเม็ดเลือดและสารช่วยเลือดแข็งตัวนานาสายพันธุ์ที่มากันเป็นทีม นอกจากนั้นในไขกระดูกยังมีเม็ดเลือดเด็กๆ ระดับทารกอยู่มากมายเป็นเนิร์สเซอรี่กลายๆ ถ้ามีปัญหาที่ไขกระดูกจึงกระทบอย่างจังกับเลือดในกระแสที่ไหลเวียนอยู่ ถ้ารุนแรงอย่างไขกระดูกแห้งก็อาจทำให้เลือดจางลงพร้อมกับเลือดออกง่ายได้ครับ
3) ร่างกายสร้างสารหยุดเลือดไม่ได้ ปัญหาที่สร้างทีมหยุดเลือดไม่สำเร็จทำให้เกิดผลลัพธ์คือภาวะผิดปกติเลือดไหลไม่หยุดในหลายแบบ ชนิดหนึ่งคือแบบที่ราชวงศ์ยุโรปเป็นทำให้เลือดออกง่าย มาบวมคั่งตามข้อต่อเช่นข้อเข่าทำให้ปวดแสนทรมานเรียก “ฮีโมฟิเลีย” ซึ่งในบ้านเราก็มีกรณีที่คล้ายกันเช่นนี้เกิดจากขาดสารเลือดแข็งตัวชนิดอื่นๆ (Coagulation factors)
4) ติดเชื้อรุนแรง เช่น ติดเชื้อเข้ากระแสเลือด(Septicemia) โลหิตเป็นพิษจนช็อก อย่างนี้มีสิทธิ์เลือดออกง่ายถึงขั้นอาสัญได้ กลไกคือ เมื่อติดเชื้อรุนแรงเข้าทำให้มีการใช้สารหยุดเลือดอย่างสิ้นเปลืองจำนวนมหาศาลจนหมดงบประมาณในการหยุดเลือด(DIC) เช่นในภาวะการติดเชื้อลุกลามในร่างกายทำให้เกิดภาวะตกเลือดง่ายจนช็อก(Sepsis)
5) มะเร็งเม็ดเลือด ภาวะมะเร็งเป็นที่ไหนก็ไปวุ่นวายกับอวัยวะนั้นๆ ในกรณีของมะเร็งเม็ดเลือดมีส่วนทำให้ไขกระดูกทำงานผิดปกติ มีผลทำให้ซีด ภูมิคุ้มกันตกต่ำ และทำให้เลือดออกได้ง่าย มีรอยชอกช้ำตามร่างกายได้อย่างอย่างไม่น่าเป็น เช่น กระแทกประตูเบาๆ ก็อาจเป็นรอยช้ำเหมือน “พรายย้ำ” ที่คนแต่ก่อนเรียกครับ
6) ขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดอย่าง “วิตามินเค” และวิตามินที่ขาดแล้วเส้นเลือดฝอยเปราะอย่าง “วิตามินซี” เป็นต้น ซึ่งมักไม่ค่อยพบมากในผู้ใหญ่ครับ อย่างขาดวิตามินเคมักพบในเด็กเล็กหรือวิตามินซีก็อาจพบได้ในเด็กที่ไม่ชอบกินผักไม่รักพืชเป็นต้น
7) กินยาบางชนิด เช่น แอสไพริน, ยาป้องกันเลือดแข็งตัว (วาฟาริน), ยาสเตียรอยด์, ยาแก้ปวด (เอ็นเสด) ซึ่งการใช้ยาเหล่านี้นานไปแม้จะมีประโยชน์แต่ก็มีความเสี่ยงควรรู้คือ “เสี่ยงเลือดออก” ได้ ถ้าเมื่อไรมีอาการเลือดออกไรฟัน, ถ่ายดำ, ช้ำง่ายตามตัว ก็ขอให้รีบบอกคุณหมอที่รักษาประจำอยู่จะได้ปรับยาให้ครับ
8) โรคเลือดและภาวะอื่นๆ เช่นอายุมากทำหลอดเลือดเสื่อมลงบอบบางเหมือนท่อยางที่แข็งเปราะเพราะใช้มานานจึงทำให้เลือดออกง่าย หรือโรคอย่าง “อะมัยลอยโดสิส(Amyloidosis)” ที่มีสารเหนียวไปเกาะในตัวทั่วไปโดยเฉพาะหลอดเลือดและทำให้ขาดสารแข็งตัวของเลือด นอกจากนั้นยังมีโรคตับแข็งและโรคไตที่อาจทำให้เลือดออกง่ายได้
สุดท้ายนี้สรุปง่ายๆ ว่าถ้าวันหนึ่งท่านมี “เลือดออกง่าย” , “ออกแล้วหยุดยาก” , “มีอาการซีด” หรือ “มีรอยช้ำผิดปกติ” อยู่บ่อยๆ ก็ขออย่าเพิ่งตกใจไป
ขอให้สังเกตอาการแวดล้อมก่อนแล้วหากสงสัยว่าเป็นจากตัวเลือดเองก็ให้ไปเจาะเลือดตรวจที่เจ็บเพียงจิ๊ดเดียวเช่นเดียวกับเจาะเลือดทั่วไป หรือถ้าสงสัยว่ามาจากภาวะอื่นนอกเหนือจากนั้น ก็ให้เจาะจงลงไปแก้ที่จุดนั้น เช่น สงสัยปัญหาตับก็ต้องดูการทำงานตับ, หากติดเชื้อก็ปราบมันให้หายก่อน หรือการขาดวิตามินก็ต้องรับประทานผักเขียวจัดให้มากไว้
หลายอย่างท่านเองก็ทำได้ครับ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
โรคเลือดออกง่ายมีส่วนทำให้ราชวงศ์ที่เก่าแก่ราชวงศ์หนึ่งของโลกล่มมาแล้วเมื่อ 100 ปีก่อน
เมื่อพูดถึงเลือดออกง่ายหลายท่านคิดถึงเลือดออกตามไรฟันชวนให้คิดถึง “วิตามินซี” ที่เคยเรียนมา
ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งครับ แต่บางครั้งเราอาจไม่ได้เลือดออกง่าย เพราะขาดวิตามินเปรี้ยวตัวนี้เพียงอย่างเดียว
เพราะอาการเลือดออกง่าย และเป็นรอยช้ำตามตัวผิดปกติ เป็นเครื่องหมายของเรื่องภาวะสุขภาพหลายเรื่องที่ซ่อนอยู่ในตัว
อาทิ เกล็ดเลือดต่ำ, ติดเชื้อไวรัสบางชนิด, หรือมีปัญหาร่างกายไม่อาจสร้างสารหยุดเลือดได้
ต้องมาค่อยๆ ดูกันเป็นจุดไปแล้วจะหยุดปัญหาได้
ซึ่งในกลไกที่ทำให้เลือดหยุดได้นั้นมีตัวช่วยเด่นๆ อยู่ 3 ส่วน
- ไขกระดูก
- เกล็ดเลือด
- ทีมสารช่วยเลือดแข็งตัว
การที่เราเห็นแผลถลอกเล็กๆ มีเลือดจับแข็งแล้วหยุดไหลได้นั้น ในร่างกายถือเป็นงานใหญ่ครับโดยต้องระดม “ทีม(Coagulation cascade)” ที่ว่ามานี้นับไม่ถ้วนเพื่อชวนกันหยุดแผลเลือดออกไม่ให้เกิดอันตราย
ไม่อย่างนั้นเพียงทำฟันขูดหินปูนก็อาจเลือดไหลไม่หยุดได้
หรือบางกรณีของโรคเลือดหยุดยากแค่หกล้มก็ตกเลือดจนถึงแก่ชีวิตได้ครับ
ในสมัยของรัสปูตินเดียรถีย์แห่งจักรวรรดิรัสเซียเมื่อ 1 ศตวรรษก่อนนั้นได้อาศัย “โรคเลือดไหลไม่หยุด” เป็นจุดพาตัวเองแทรกเข้าในราชวงศ์โรมานอฟจนที่สุดราชวงศ์ที่เก่าแก่กว่า 400 ปีก็ถึงแก่กาลอวสานด้วยจุดจบที่แสนสะเทือนใจ
จะเห็นว่าเรื่องเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายเรานี้มีผลตั้งแต่เล็กไปจนเรื่องใหญ่โต ซึ่งบางคนอาจเริ่มจากเรื่องเล็กๆ ที่ชวนมองข้ามก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เช่น มีประจำเดือนมากผิดปกติจากเลือดไม่แข็งตัว, มีเลือดออกทางช่องคลอดจากมะเร็งปากมดลูกหรือเด็กๆ มีเลือดกำเดาไหลไม่หยุดนานนับ 10 นาที
ดังนั้นการที่จะรู้ว่าเลือดออกง่ายเกิดจากปัญหาอะไร ขอให้ดูความเป็นไปได้ที่จะขอเล่าถึงต่อไปนี้ จะช่วยทุ่นเวลาแล้วหาทางแก้ได้เร็วดีครับ
8 ตัวการทำช้ำบ่อย-เลือดออกง่าย
1) เกล็ดเลือดต่ำ ในเลือดคนเรามี “เกล็ดเลือด” ว่ายวนอยู่เป็นส่วนเล็กๆ ที่มีความสำคัญยิ่งยวด เพราะเวลาเส้นเลือดฉีกเกิดแผลขึ้นมาประชากรเกล็ดเลือดทั้งหลายจะชวนกันว่ายเข้ามา “อุด” ให้หยุดเลือดและมีสารช่วยหยุดเลือดอีกมาก
หากขาดเขาไปแล้วเราจะรู้สึกตอนเลือดออกว่ามันทำท่าหยุดยากเสียเหลือเกิน ซึ่งเรื่องนี้ถ้าสงสัยท่านอาจตรวจเองได้โดยง่าย และไม่แพงครับ แค่ขอเจาะตรวจความสมบูรณ์เม็ดเลือดที่เรียกว่า “ซีบีซี(CBC)” เท่านั้น
2) ไขกระดูกมีปัญหา แกนในของกระดูกเป็นเนื้อหยุ่นนิ่มที่เราเรียกกระดูกดำหรือไขกระดูก เป็นเสมือนโรงงานผลิตเม็ดเลือดและสารช่วยเลือดแข็งตัวนานาสายพันธุ์ที่มากันเป็นทีม นอกจากนั้นในไขกระดูกยังมีเม็ดเลือดเด็กๆ ระดับทารกอยู่มากมายเป็นเนิร์สเซอรี่กลายๆ ถ้ามีปัญหาที่ไขกระดูกจึงกระทบอย่างจังกับเลือดในกระแสที่ไหลเวียนอยู่ ถ้ารุนแรงอย่างไขกระดูกแห้งก็อาจทำให้เลือดจางลงพร้อมกับเลือดออกง่ายได้ครับ
3) ร่างกายสร้างสารหยุดเลือดไม่ได้ ปัญหาที่สร้างทีมหยุดเลือดไม่สำเร็จทำให้เกิดผลลัพธ์คือภาวะผิดปกติเลือดไหลไม่หยุดในหลายแบบ ชนิดหนึ่งคือแบบที่ราชวงศ์ยุโรปเป็นทำให้เลือดออกง่าย มาบวมคั่งตามข้อต่อเช่นข้อเข่าทำให้ปวดแสนทรมานเรียก “ฮีโมฟิเลีย” ซึ่งในบ้านเราก็มีกรณีที่คล้ายกันเช่นนี้เกิดจากขาดสารเลือดแข็งตัวชนิดอื่นๆ (Coagulation factors)
4) ติดเชื้อรุนแรง เช่น ติดเชื้อเข้ากระแสเลือด(Septicemia) โลหิตเป็นพิษจนช็อก อย่างนี้มีสิทธิ์เลือดออกง่ายถึงขั้นอาสัญได้ กลไกคือ เมื่อติดเชื้อรุนแรงเข้าทำให้มีการใช้สารหยุดเลือดอย่างสิ้นเปลืองจำนวนมหาศาลจนหมดงบประมาณในการหยุดเลือด(DIC) เช่นในภาวะการติดเชื้อลุกลามในร่างกายทำให้เกิดภาวะตกเลือดง่ายจนช็อก(Sepsis)
5) มะเร็งเม็ดเลือด ภาวะมะเร็งเป็นที่ไหนก็ไปวุ่นวายกับอวัยวะนั้นๆ ในกรณีของมะเร็งเม็ดเลือดมีส่วนทำให้ไขกระดูกทำงานผิดปกติ มีผลทำให้ซีด ภูมิคุ้มกันตกต่ำ และทำให้เลือดออกได้ง่าย มีรอยชอกช้ำตามร่างกายได้อย่างอย่างไม่น่าเป็น เช่น กระแทกประตูเบาๆ ก็อาจเป็นรอยช้ำเหมือน “พรายย้ำ” ที่คนแต่ก่อนเรียกครับ
6) ขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดอย่าง “วิตามินเค” และวิตามินที่ขาดแล้วเส้นเลือดฝอยเปราะอย่าง “วิตามินซี” เป็นต้น ซึ่งมักไม่ค่อยพบมากในผู้ใหญ่ครับ อย่างขาดวิตามินเคมักพบในเด็กเล็กหรือวิตามินซีก็อาจพบได้ในเด็กที่ไม่ชอบกินผักไม่รักพืชเป็นต้น
7) กินยาบางชนิด เช่น แอสไพริน, ยาป้องกันเลือดแข็งตัว (วาฟาริน), ยาสเตียรอยด์, ยาแก้ปวด (เอ็นเสด) ซึ่งการใช้ยาเหล่านี้นานไปแม้จะมีประโยชน์แต่ก็มีความเสี่ยงควรรู้คือ “เสี่ยงเลือดออก” ได้ ถ้าเมื่อไรมีอาการเลือดออกไรฟัน, ถ่ายดำ, ช้ำง่ายตามตัว ก็ขอให้รีบบอกคุณหมอที่รักษาประจำอยู่จะได้ปรับยาให้ครับ
8) โรคเลือดและภาวะอื่นๆ เช่นอายุมากทำหลอดเลือดเสื่อมลงบอบบางเหมือนท่อยางที่แข็งเปราะเพราะใช้มานานจึงทำให้เลือดออกง่าย หรือโรคอย่าง “อะมัยลอยโดสิส(Amyloidosis)” ที่มีสารเหนียวไปเกาะในตัวทั่วไปโดยเฉพาะหลอดเลือดและทำให้ขาดสารแข็งตัวของเลือด นอกจากนั้นยังมีโรคตับแข็งและโรคไตที่อาจทำให้เลือดออกง่ายได้
สุดท้ายนี้สรุปง่ายๆ ว่าถ้าวันหนึ่งท่านมี “เลือดออกง่าย” , “ออกแล้วหยุดยาก” , “มีอาการซีด” หรือ “มีรอยช้ำผิดปกติ” อยู่บ่อยๆ ก็ขออย่าเพิ่งตกใจไป
ขอให้สังเกตอาการแวดล้อมก่อนแล้วหากสงสัยว่าเป็นจากตัวเลือดเองก็ให้ไปเจาะเลือดตรวจที่เจ็บเพียงจิ๊ดเดียวเช่นเดียวกับเจาะเลือดทั่วไป หรือถ้าสงสัยว่ามาจากภาวะอื่นนอกเหนือจากนั้น ก็ให้เจาะจงลงไปแก้ที่จุดนั้น เช่น สงสัยปัญหาตับก็ต้องดูการทำงานตับ, หากติดเชื้อก็ปราบมันให้หายก่อน หรือการขาดวิตามินก็ต้องรับประทานผักเขียวจัดให้มากไว้
หลายอย่างท่านเองก็ทำได้ครับ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net