>>เมื่อชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยกำลังจะหมดลง อีกหนึ่งโจทย์ที่คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญหลังจบการศึกษา คือการก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ซึ่งเป็นอีกโลกใบหนึ่งที่ต้องเตรียมรับมือกับประสบการณ์ใหม่ ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการเริ่มต้นวันทำงาน “ลอฟท์” จึงแบ่งปันแนวคิดการทำงานให้ประสบความสำเร็จมาฝากให้กับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นก้าวเข้าสู่การทำงาน พร้อมจัดแคมเปญ “LOFT First Stage” คัดสรรสินค้าไอเดียสุดชิกเพื่อมอบเป็นของขวัญในโอกาสเทศกาลพิเศษ ณ ลอฟท์ สยามดิสคัฟเวอรี่, จามจุรีสแควร์ และพาราไดซ์ พาร์ค
นายชาญชัย เชิดชูวงศ์ธนากร กรรมการผู้จัดการบริษัท สยาม สเปเชียลลิตี้ จำกัด ผู้บริหารร้านลอฟท์ อาณาจักรสินค้าเหนือจินตนาการมากว่า 17 ปี กล่าวว่า
แนวคิดการทำงานให้ประสบความสำเร็จ คือ 4Fs แบ่งเป็น
F ตัวแรก คือ “Facts” หมายถึง การยอมรับความจริงกับสภาวะปัจจุบันที่เกิดขึ้นจริงทั้งภายในและภายนอกองค์กร การเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี คู่แข่ง ต้องมองให้เห็นอะไรที่เป็นจุดแข็ง และเป็นจุดอ่อนเพื่อนำไปหาวิธีเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เพิ่มมากขึ้น และลดจุดด้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
F ตัวที่สอง คือ “Fight” หมายถึง การต่อสู้และเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการทำงาน หากลยุทธ์และวิธีการทำงานแบบใหม่
F ตัวที่สาม คือ “Fun” หมายถึง การทำงานให้มีความสุขตลอดเวลา ด้วยวิธีการที่คิดบวกกับทุกสถานการณ์ พยายามหาวิธีเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ทั้งนี้รวมถึงการพยายามบริหารจัดการเวลาให้เกิดความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัวและครอบครัว
F ตัวที่สี่ คือ “Financial” หมายถึง การตอบสนองเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจว่าจะต้องมียอดขายและผลกำไรที่เติบโตอย่างยั่งยืนในหลายๆ ด้านตามที่องค์กรกำหนด เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมั่นคงและมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีกับพนักงานทั้งในเชิงรายได้และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
นอกจากนี้ผู้บริหารร้านลอฟท์ยังแนะเทคนิคดีๆ ในการเตรียมตัวสมัครงานด้วยว่า นอกเหนือการเตรียมเอกสารในการสมัครงานต่างๆ การเตรียมตัว เครื่องแต่งกาย การสำรวจสิ่งแวดล้อมในการทำงาน และการ “รู้เขา รู้เรา” หรือการรู้จักตนเองเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวเป็นอย่างยิ่ง
“การรู้เรา คือ การรู้จักตนเอง ในการค้นหาทักษะตัวเองว่ามีจุดเด่นในด้านไหนบ้าง หมายรวมถึงด้านบุคลิกภาพ และคุณลักษณะอื่นๆ เช่น การสนใจใฝ่รู้ทางวิชาการ ปรับตัวง่าย เรียนรู้เร็ว ตื่นตัวอยู่เสมอ ระมัดระวัง มีความรับผิดชอบสูง มองการณ์ไกล ละเอียดรอบคอบ เป็นต้น และต้องรู้จักจุดอ่อนตนเองจึงจะนับว่าเป็นคนที่รู้จักตนเองอย่างแท้จริง ส่วนการ “รู้เขา” คือการรู้จักบริษัทว่าดำเนินธุรกิจอะไร มีผลผลิตเกี่ยวกับอะไร รวมถึงที่ตั้งของบริษัท และตำแหน่งงานเพื่อจะได้สำรวจตนเองว่ามีคุณสมบัติเบื้องต้นตรงความต้องการหรือไม่ ถ้าตรงแสดงว่าตนเองผ่านการคัดเลือกแล้วขั้นหนึ่ง และอย่าลืมผลตอบแทนโดยเลือกเงินเดือนและสวัสดิการเป็นหลัก” นายชาญชัยกล่าว :: Text by FLASH