นิตยสาร Sunday Times Rich List ทำการสำรวจตัวเลขล่าสุดของเหล่าอัครมหาเศรษฐี ที่มีทรัพย์สินตั้งแต่ระดับพันล้านขึ้นไปจนถึงหมื่นล้านปอนด์ แห่กันมาอาศัยในอังกฤษ มีจำนวนถึง 104 คน
นั่นหมายความว่า ถ้ารวมทรัพย์สินของเหล่าอัครมหาเศรษฐี ที่มีกว่าสามแสนปอนด์แล้ว จะทำให้อังกฤษ กลายเป็นประเทศที่มีประชากรอัครมหาเศรษฐีมากกว่าที่ใดๆในโลก และเฉพาะตัวเลขของอัครมหาเศรษฐี ที่อาศัยอยู่ในมหานครลอนดอน มีจำนวนถึง 72 คน หรือคิดเป็น 10% ของโลก มากกว่าเมืองที่มีอันดับสองคือ มอสโก 48 คน และมหานครนิวยอร์ก ตามมาเป็นอันดับสามจำนวน 43 คน จากนั้นก็ไล่เรียงลงไปที่ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส และฮ่องกง
เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวอังกฤษโดยกำเนิด กลับมีสัดส่วนเพียงหนึ่งในสามของอัครมหาเศรษฐีเหล่านี้เท่านั้น และผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษ ก็ไม่ใช่ชาวอังกฤษ แต่กลับเป็นพี่น้องสายเลือดอินเดียทั้งคู่คือ ศรีจันทร์และโกพิจันทร์ ฮินดูชา ที่ทรัพย์สินของทั้งคู่ผนวกกันแล้ว มีจำนวนถึง 11.9 พันล้านปอนด์ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 1.3 ล้านปอนด์ จากธุรกิจในเครือทั้งหมดของพี่น้องคู่นี้
อันดับสองคือ อาลิเชอร์ อุสมานอฟ เจ้าของรายได้ 10.65 พันล้านปอนด์ โดยรายได้ปีที่ผ่านมาหล่นลงถึง 2.65 ล้านปอนด์ จึงเสียแชมป์ไป หนุ่มใหญ่ชาวรัสเซียรายนี้ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของสโมสรฟุตบอลอาร์เซอนอล และเป็นเจ้ามือโต๊ะบอลของสโมสรควีนส์ปาร์ค แรงเยอร์ส
และอันดับสามคือ อดีตอัครมหาเศรษฐีผู้เคยเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อไม่กี่ปีก่อน ลักษมี มิตตาล และครอบครัวที่มีรายได้ 10.25 พันล้านปอนด์ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมาเพียง 250 ล้านปอนด์
ส่วนหนึ่งเดียวของผู้ที่มีสายเลือดอังกฤษแท้ๆ ที่ติดอันดับต้นๆ คือ ดยุคแห่งเวสมินสเตอร์ หรือ เอิร์ล กรอสเวอเนอร์ เจ้าของที่ดินเนื้อที่นับไม่ถ้วน ในย่านหรูหราของมหานครลอนดอน ที่ว่ากันว่า ชายผู้นี้ร่ำรวยกว่าประมุขแห่งอังกฤษเสียอีก ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 10 นั้น มีทรัพย์สินอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านปอนด์ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก 700 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา
สาเหตุที่เหล่าอัครมหาเศรษฐีที่ติดอันดับโลกเหล่านี้ โยกย้ายเข้ามาเป็นประชากรชาวอังกฤษ ก็คือ การที่กฎหมายภาษีของอังกฤษ เอื้อต่อการจ่ายภาษีที่ต่างไปจากประเทศอื่น เช่น ฝรั่งเศสเก็บภาษีเพดานที่สูงลิ่วถึง 75% และสหรัฐอเมริกาเก็บภาษีจากผู้ที่มีรายได้ในประเทศ แม้จะไม่ได้เป็นประชากร ขณะที่ อังกฤษเก็บภาษีเฉพาะผู้ที่มีถิ่นฐานและรายได้ในอังกฤษเท่านั้น
จึงทำให้เหล่าอัครมหาเศรษฐีทั้งหลาย เดินทางเข้ามาอยู่กันในลอนดอนจนแน่นขนัดไปหมด แม้กระทั่ง ฟรองซัวส์-อองรี ปิโนต์ เจ้าของสินค้าบิ๊กแบรนด์อย่าง GUCCI ก็ยังอพยพครอบครัวมาอยู่ที่ลอนดอนเช่นกัน