>>“ยุคนี้ใครๆ ก็คงอยากที่จะดูเด็กกว่าอายุจริงใช่มั้ยคะ” หนึ่งในความภูมิใจของผู้หญิงอายุย่างเข้าเลข 4 คือการถูกเดาอายุผิด หรือโดนทักว่าหน้าเด็กกว่าอายุจริง ดูจะเป็นคำกล่าวที่ให้แรงบันดาลใจกับผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะวัยไหน ต่างก็อยากมีผิวที่แลดูยกกระชับ อ่อนเยาว์ แต่สำหรับผู้หญิงที่กำลังย่างเข้าสู่วัยเลข 4 ศัตรูตัวฉกาจของพวกเธอไม่ใช่แค่ริ้วรอย แต่เป็นผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยและไม่กระชับเหมือนเดิม จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้หญิงวัยนี้ที่ต้องดูแลเอาใจใส่ผิวเป็นพิเศษ
คุณธนภัทร บารมีแสงเพชร ผู้จัดการแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จํากัด กล่าวว่า ข้อมูลนี้ได้รับการศึกษาค้นคว้า และรวบรวมจากรายงานผลวิจัย บนหัวข้อ “การศึกษาเรื่องการรับรู้ความร่วงโรยแห่งวัย” ที่ได้ใช้เทคนิค “bubbles” ด้วยการให้ผู้หญิงคาดคะเนอายุ จากภาพที่แสดงความร่วงโรยของส่วนต่างๆ บนใบหน้า
จากการค้นคว้าศึกษาทางคลินิกกว่า 3 ปี ในกลุ่มผู้ทดสอบกว่า 300 คน ผลลัพธ์นั้นเป็นที่ประหลาดใจเมื่อเหล่าผู้หญิงต่างลงความเห็นว่า ตัวที่บ่งบอกชัดถึงความร่วงโรยแห่งวัยนั้นไม่ใช่ริ้วรอย แต่เป็นผิวที่ไม่เต่งตึง หย่อนคล้อย ตามแนวโครงหน้าส่วนล่างและลำคอนี้ต่างหาก เรียกส่วนนี้ว่า Y-Contour
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงมักจะกังวลแต่เรื่องริ้วรอยบนใบหน้า จนลืมใส่ใจและมองข้ามโครงหน้าส่วนล่างและลำคอ ดังนั้น Y-Contour จึงเป็นเทรนด์ใหม่ที่สถาบันวิจัยพอนด์สคิดค้นมาเพื่อพลิกวงการแอนตี้เอจจิ้ง จากการศึกษาเห็นชัดว่า การที่จะมีผิวที่แลดูอ่อนเยาว์นั้น ต้องได้รับการดูแลครอบคลุมบริเวณใบหน้าลงมาถึง Y-Contour โครงหน้าและลำคอ โดยแนะนำให้เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยตั้งแต่วัย 30 ปีขึ้นไป และใช้ผลิตภัณฑ์กระชับผิวเพิ่มเมื่อย่างเข้าเลข 4 เพราะโครงสร้างชั้นผิวจะเริ่มหลวมตัว ส่งผลให้ผิวหน้านั้นหย่อยคล้อย ไม่เป็นทรง เพราะฉะนั้นการดูแลและป้องกันแต่เนิ่นๆ จะช่วยชะลอสัญญานแห่งวัย ให้ผิวยังคงแลดูกระชับอ่อนเยาว์ในรูปแบบ Y-Contour
ฉะนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลาย ได้รับการยืนยันเช่นนี้แล้ว ก็ควรทิ้งทัศนคติเดิมๆ ในการดูแลผิวที่มักให้ความสำคัญแค่ผิวบริเวณใบหน้า มาให้ความใส่ใจเพิ่มบริเวณ “Y-Contour” โครงหน้าส่วนล่างและลำคอ ซึ่งในที่นี้สรุปเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการยกกระชับผิวมาเป็นเคล็ดลับความงามให้คุณผู้หญิงสามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง
เทคนิคการดูแลเพื่อผิวยกกระชับอย่างง่ายๆ
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว : การเลือกอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนต์สูง จะช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ช่วยลดผิวหย่อนคล้อยและการเกิดริ้วรอย โดยตัวเลือกที่ง่ายที่สุดคือ น้ำผึ้ง นอกจากเป็นอาหารผิวที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งแล้ว ยังเสมือนเป็นยาอายุวัฒนะด้วย ตัวเลือกอื่นๆ ก็เช่น ส้ม มะนาว ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าให้วิตามินซีสูง รวมไปถึงลูกแพร์ องุ่น อโวคาโด มะกอก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี และที่คาดไม่ถึงคือพวกเฮเซลนัต อัลมอนด์ ที่มีแร่ธาตุและวิตามินช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ ถั่ว ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนที่เหมาะเป็นของทานเล่นให้คุณสาวๆ เป็นอย่างดี
2.ดื่มน้ำประมาณ 7-8 แก้วต่อวัน : ผิวหนังมีน้ำเป็นองค์ประกอบราว 60-70% การดื่มน้ำนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้วยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้น เปล่งปลั่งอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ดื่มปริมาณไม่มาก แต่ให้ดื่มระหว่างวันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกชั่วโมง จะให้ประโยชน์ในการรักษาสมดุลได้ดีที่สุด โดยควรดื่มน้ำอุ่นที่ไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายหรือประมาณ 36-37 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร่างกายลดการสูญเสียพลังงานและคืนสมดุลจากการดื่มน้ำเย็น
3.การใช้ผลิตภัณฑ์ยกกระชับผิว : เป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยที่ทุกวันนี้กลายเป็นของคู่กายสำหรับคุณผู้หญิงแล้ว และเพื่อผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นแนะนำว่าให้ใช้คู่กับครีมกันแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ควบคู่กับอุปกรณ์พิเศษ จะทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4.นวดเพื่อยกกระชับผิวหน้า : ผิวหน้าก็เหมือนอวัยวะอื่นๆ ของร่ายกายที่ต้องการการนวดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียน โดยนวดไปพร้อมกับทาครีมบำรุงผิวเช้า-เย็น ได้แก่
- คาง : นวดยกกระชับขึ้นบน 2 ข้างแก้ม ปีกจมูก, นวดออก บริเวณปีกจมูกไล่จนถึงหางตา, ลูบจากตรงกลางหน้าผาก ลูบออกด้านข้าง
- นวดบริเวณดวงตา : เริ่มลูบจากจมูกวนขึ้นเหนือหัวคิ้ว
- ยกกระชับกล้ามเนื้อแก้ม : เริ่มจากมุมปากนวดในลักษณะยกผิวขึ้นเป็นมุมกว้าง
- ยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณมุมปาก : เริ่มนวดจากคาง นวดยกขึ้นไปจนถึงมุมปาก
5.การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป : เนื่องจากรังสียูวีเอจากแสงแดดสามารถทำร้ายผิวได้ลึกถึงชั้นผิวภายใน ส่งผลให้ผิวดูร่วงโรยและเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ และรังสียูวีบีจากแสงแดดเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำในทันที ฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงเสมือนเป็นปราการปกป้องผิวจากแสงแดดที่ส่งผลให้ผิวไหม้หรือผิวคล้ำลงได้ รวมถึงหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังและจุดด่างดำได้
6.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนให้เพียงพอในตอนกลางคืนจะสร้างกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม่ได้ผลดีที่สุด โดยคุณภาพของการนอนจะช่วยสร้างการผ่อนคลายและเสริมสร้างสารอาหารให้แก่เซลล์ผิวได้ดี
7.ออกกำลังอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที : การออกกำลังกายให้เหงื่อออกเป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีทางหนึ่ง ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือด ปอด หัวใจทำงานดีขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังช่วยให้หลับสบายผ่อนคลายความเครียดได้อีกด้วย :: Text by FLASH