>>หน้าร้อนนี้ ยูเซอริน (ประเทศไทย) จับมือ บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) เปิดตัวแคมเปญ “Fight UV for Healthy Skin”ภายใต้โครงการ Boots Healthcare Campaign “Feel Good Together” เพื่อรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพผิวด้วยการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอในแสงแดดอย่างถูกวิธี ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี “ออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์”โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับรังสียูวีเอที่ก่อให้เกิดวงจรทำร้ายเซลล์ใต้ชั้นผิว (Chain Reaction) ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดจุดด่างดำและริ้วรอยและแนะนำการดูแลผิวจากรังสียูวีเอที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะแสงแดดที่เราต้องเผชิญเมื่อก้าวพ้นประตูบ้านทุกวัน มีอันตรายต่อผิวมากกว่าการก่อให้เกิดความดำคล้ำ แบบที่ผู้หญิงทุกคนหวาดกลัว เนื่องจากสิ่งที่มากับแสงแดดไม่ใช่เพียงแต่ความร้อน แต่ยังมีรังสียูวีเอ และรังสียูวีบี ที่สามารถผ่านมาถึงผิวเราได้หากไม่ป้องกันให้ดี หลายคนอาจมั่นใจในผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตนเองเลือกใช้ เพราะเห็นว่ามี SPF ที่สูง และมี PA+++ ซึ่งครีมกันแดดเหล่านี้สามารถช่วยปกป้องผิวได้เพียงระดับนึงเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าแสงยูวีเอตัวร้ายบางส่วนก็ยังสามารถเล็ดลอดและซึมผ่านลงสู่ผิวหนังและเข้าทำร้ายเซลล์ผิวต่อเนื่องได้โดยเราไม่รู้สึกตัว เป็นภัยเงียบทำร้ายผิวต่อเนื่อง แม้ว่าจะหลบแดดแล้วก็ตาม
โดยแพทย์ผิวหนังเตือนถึงภัยเงียบว่ารังสียูวีเอในแสงแดดทำร้ายผิวลึกกว่าที่คิดก่อเกิดวงจรทำร้ายเซลล์รุนแรงต่อเนื่อง 60 วัน พร้อมแนะผู้บริโภคควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี “ออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์” เท่านั้น รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ผิวหนัง กล่าวว่า โดยปกติครีมกันแดดทั่วๆ ไปมักจะเน้นในเรื่องของการป้องกันรังสียูวีเอ และยูวีบี ซึ่งจะสามารถป้องกันแสงยูวีบีได้เกือบ 100% แต่ไม่ว่าเราจะพยายามทาครีมกันแดดหรือป้องกันขนาดไหน แสงยูวีเอก็ยังสามารถเล็ดลอดและซึมผ่านลงสู่ผิวหนังได้ในบางส่วน และไปก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็น chain reactiondamage หรือปฎิกิริยาการทำร้ายเซลล์ผิวอย่างต่อเนื่องจากเซลล์หนึ่งต่อไปยังอีกเซลล์หนึ่งแม้ว่าเราจะกลับเข้าร่มแล้วก็ตาม โดยจะส่งผลเสียต่อการผลิตเม็ดสีเมลานิน และการทำลายคอลลาเจนในผิวยาวนานต่อเนื่องหลังจากโดนแดดถึง 60 วัน จึงเห็นได้ว่า บางคนไปทะเลแล้ว กลับบ้านมา 2-3 วัน ผิวจึงค่อยๆ คล้ำขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการทำร้ายเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระนั่นเอง ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีทั้ง ยูวี ฟิลเตอร์ และออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์ เพื่อหยุดวงจรการทำร้ายผิวจากอนุมูลอิสระ และลดการทำลายเซลล์ผิว
จากการวิจัยล่าสุด เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการปกป้องผิวชั้นลึกของนวัตกรรม ออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์ พบว่าการใช้ครีมกันแดดที่มีสารออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวปกป้องตัวเองได้แม้ในวันที่ลืมทาครีมกันแดด โดยการทาครีมกันแดดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 15 วันขึ้นไป พบว่าการเกิดอนุมูลอิสระจากแดดนั้นลดน้อยลงทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระได้อีกด้วย โดยพบว่าผิวที่คล้ำเสียดูจางลง ความเข้มของเม็ดสีเมลานิน รวมทั้งการทำลายคอลลาเจนลดลงจึงลดโอกาสการเกิดกระ ฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีเซเลบริตี้และว่าที่สถาปนิก แพร-พิมพิศา จิราธิวัฒน์ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันตัวเองจากแสงแดด “แพรชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งค่ะ ที่ผ่านมาเคยคิดว่าการทาครีมกันแดดที่มี SPF และ PA+++ ก็ช่วยปกป้องผิวได้ดีมากแล้ว แต่ก็เริ่มสังเกตเห็นจุดด่างดำ ฝ้าแดด แพรได้ทราบจากผู้เชี่ยวชาญของยูเซอรินว่านวัตกรรม ออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์ ช่วยปกป้องได้เหนือกว่าทั้งยังมีผลการพิสูจน์ที่น่าเชื่อถือ จึงเลือกที่จะใช้ ยูเซอริน ซัน โพรเทกชั่น สำหรับผิวหน้า และผิวกาย ในการปกป้องผิวก่อนออกจากบ้านทุกๆ วัน เพราะผลิตภัณฑ์ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่อผลิตภัณฑ์ก็บางเบาอีกด้วย สำหรับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงแพรอยากให้ทุกๆ คนอย่าลืมดูแลและปกป้องผิวตัวเองอย่างถูกวิธี อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวัน และที่สำคัญ เลือกสูตรที่มี “ออกซิแดนต์ ฟิลเตอร์” เท่านั้นนะคะ”
ทั้งนี้ แคมเปญ“Fight UV for Healthy Skin” ยังให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของรังสียูวีเอและวงจรทำร้ายเซลล์ใต้ชั้นผิวกับเภสัชกรประจำร้านบู๊ทส์ทั้งหมด 360 ท่านจากทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อเป็นกระบอกเสียงที่สำคัญในการรณรงค์ให้คนไทยปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพและมีการแจกเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของรังสียูวีเอจำนวนทั้งหมด 15,000 เล่มที่ร้านบู๊ทส์ พร้อมทั้งเปิดตัวกิจกรรม CSR โดยทุกยอดการซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดยูเซอรินในร้านบู๊ทส์ 1 ชิ้น จะเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดยูเซอรินอีก 1 ชิ้น เพื่อมอบให้แก่สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยในการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และการทำกิจกรรมเพื่อบริการประชาชนต่างๆ อีกด้วย :: Text by FLASH