>>ต่อให้บ้านสวยแค่ไหน มีเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋ แต่ถ้ามีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ก็คงไม่สามารถทำให้คนที่อยู่บ้านนั้นมีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า กลิ่นหมักหมมของอาหาร กลิ่นของห้องน้ำ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ควรต้องรีบหาทางกำจัดทิ้งไป เพราะนอกจากจะทำให้เสียบรรยากาศแล้วอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วย
ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีช่วยให้บ้านคุณกลายเป็นบ้านอันแสนสุข ที่สมาชิกที่คนอยู่ได้อย่างสบายใจด้วยเทคนิคการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ซึ่งทาง แอมบิเพอร์ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่เชี่ยวชาญด้านการขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แนะนำมาดังนี้
1. ห้องครัว ถือเป็นสถานที่สำคัญที่ก่อให้เกิดกลิ่น ทั้งกลิ่นอาหาร ไปจนถึงกลิ่นรบกวนจากขยะ จึงควรเริ่มต้นกำจัดสาเหตุของกลิ่นเหม็นรบกวนด้วยการกำจัดขยะสดเป็นประจำทุกวัน ปิดปากถุงให้มิดชิดและนำไปทิ้งบริเวณนอกบ้านในที่ที่เหมาะสม ที่สำคัญควรทำความสะอาดเศษอาหารที่ตกหล่นในบริเวณห้องครัวอยู่เสมอ เพราะกลิ่นส่วนใหญ่จะเกิดจากการหมักหมมและเน่าสลายของเศษอาหารเหลือทิ้งในขยะ วิธีนี้นอกจากจะช่วยกำจัดต้นตอของการเกิดกลิ่นแล้ว ยังช่วยลดจำนวนเหล่าแมลงและหนูที่หวังจะมาจัดปาร์ตี้ในบ้านคุณอีกด้วย
2. มะนาว รสเปรี้ยวเข็ดฟัน ช่วยขจัดกลิ่นคาวได้ชะงัก เพียงผ่าซีกแล้วนำมาถูตามเครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ ที่มีกลิ่นคาว หรือนำมาถูกับฝ่ามือ ช่วยให้มือเนียนนุ่มไร้กลิ่นกวนใจ ส่วนเปลือกมะนาวหรือแม้กระทั่งเปลือกส้มก็ยังช่วยลดกลิ่นเหม็นจากถังขยะได้อีกด้วย
3. หลายครอบครัวมักประสบปัญหากลิ่นเหม็นอับจากตู้เย็น เนื่องจากคุณแม่บ้านนิยมสะสมอาหารค้างคืนจนเต็มตู้ บางอย่างหมดอายุเป็นแรมปีก็ไม่ยอมทิ้งเพราะเสียดาย ลองจัดระบบการเก็บของในตู้เย็นให้เป็นสัดส่วน เช็ดทำความสะอาดภายในตู้เย็นด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำทุก 6 เดือน แล้วเปิดประตูระบายอากาศทิ้งไว้สักครู่ เพราะเบกกิ้งโซดาจะช่วยดูดกลิ่นเหม็น ดูดความชื้น แถมยังช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย
4. จะชวนเพื่อนมาเที่ยวบ้านใหม่ทั้งที แต่เจ้าของบ้านยังกังวลเรื่องกลิ่นเหม็นจากสี สารระเหย หรือกลิ่นน้ำยาเคลือบวัสดุต่างๆ ลองฝานหัวหอมใหญ่ 2-3 ลูก ตั้งทิ้งไว้ แม้จะมีกลิ่นฉุนแสบตาแต่ช่วยเรื่องการดูดซับกลิ่นได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเปิดบ้านต้อนรับเพื่อนได้อย่างสบายใจ
5. ถ้ากลิ่นอันพึงประสงค์ยังคงวนเวียนอยู่ แม้จะกำจัดต้นเหตุของกลิ่น หรือทำความสะอาดไปแล้ว นั่นเป็นเพราะกลิ่นเหล่านี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กลอยอยู่ในอากาศ และเกาะติดตามพื้นผิว หรือส่วนต่างๆ ที่การทำความสะอาดเข้าไม่ถึง ทำให้กลิ่นเหล่านี้ยังคงตกค้างกลายเป็นกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน ทางออกคือต้องทำให้อากาศถ่ายเทเพื่อขจัดกลิ่นเหล่านี้ไป
แต่ถ้าเกิดเป็นจุดหรือสถานที่ที่ไม่สะดวกที่จะทำดังนั้นได้ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ปรับอากาศมาช่วยแก้ปัญหา โดยต้องดูให้เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน เช่น ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศแบบสเปรย์ เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการปรับอากาศให้หอมสดชื่นอย่างรวดเร็วเมื่อมีแขกที่มาเยี่ยมโดยไม่ทันตั้งตัว รวมถึงกลิ่นอาหารหลังทำครัวเสร็จ ส่วนผลิตภัณฑ์ปรับอากาศแบบตั้งโต๊ะ จะค่อยๆ ปล่อยกลิ่นหอมอย่างช้าๆ และยาวนานกว่า อีกทั้งยังสามารถปรับระดับความเข้มของกลิ่นให้ตรงความต้องการของตนเองได้อีกด้วย :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/