>>เพิ่งผ่านกระแส “คุณชายฟีเวอร์” ที่เป็นเรื่องราวชีวิตในรั้วในวัง เชื้อเจ้าราชนิกุล ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในกฎ กรอบ ประเพณีที่วางไว้มาไม่ทันไร เราขออินกระแสต่อด้วยการเล่าเรื่องการเลี้ยงลูกในแบบราชนิกุลในอีกแง่มุม โดยวันนี้เราได้รับเกียรติจาก “หม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา” ที่จะมาเปิดตำราการเลี้ยงหม่อมราชวงศ์อีก 2 คนในแบบฉบับของคุณแม่ยุค 2013 และการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของ “หญิงไหม-ม.ร.ว.จันทรนิภา ยุคล” และ “หญิงแม้น-ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล” ราชนิกุลสุดไฮเปอร์
ทั้งสองเป็นธิดาของ “พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล” กับ “หม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา” โดยเฉพาะสาวที่เราคุ้นกับเธอดี นั่นคือ “หญิงแม้น-ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล” สาวเปรี้ยวผู้คล่องแคล่วปราดเปรียว กับอีกหนึ่งสาวที่เก็บตัวไม่ค่อยออกสื่อสักเท่าไหร่ นั่นคือ “หญิงไหม-ม.ร.ว.จันทรนิภา ยุคล” กับเรื่องราวน่ารักๆ ตามประสาแม่ลูก และพี่น้องสองสาวที่บางครั้งคุณแม่ยังเวียนหัว...
ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว
แม้ว่าทั้งสองสาวจะเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน คลานตามกันมา ถูกเลี้ยงดูมาในแบบที่เหมือนๆ กัน แต่เมื่อเติบโตขึ้นท่ามกลางสังคมและสิ่งแวดล้อมกลับทำให้เธอทั้งสองคนมีความแตกต่างกันอย่างคนละขั้ว
หญิงไหม :: “เราสองคนไม่เหมือนกันเลยพี่แม้นจะเป็นสาวสังคม ชอบเที่ยว ชอบออกไปโน่นนี่ เพื่อนเยอะ แต่ไหมจะชอบอยู่บ้าน ไม่ค่อยไปไหน เพื่อนชวนก็เบี้ยวเพื่อนอยู่บ่อยๆ”
หญิงแม้น :: “ที่จริงคุณแม่ก็เลี้ยงมาเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะช่วงมัธยมแม้นไปเรียนที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 14 ปี ก็เลยห่างบ้านไปหน่อย แต่ที่จริงแม้นเป็นคนรักครอบครัวนะ คุยกับคุณพ่อคุณแม่ตลอด เพียงแต่เราอาจจะต้องฝึกช่วยเหลือตัวเอง ดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก ภายนอกจึงดูคล่องแคล่ว ชอบออกไปเที่ยวลัลลามากกว่าหญิงไหม”
คุณแม่ :: “ตอนเด็กพยายามเลี้ยงเขาเหมือนกัน แต่งตัวเหมือนกัน ให้ดูเหมือนคู่แฝด แต่สุดท้ายพอเขาโตขึ้นมาก็ต่างกัน”
หญิงแม้น :: “แม้นชอบตากแดด ชอบออกกำลังกาย ชอบอยู่กลางแจ้ง ครีมกันแดดก็ไม่ทา เป็นคนไม่ค่อยดูแลตัวเอง เรื่องความสวยความงามไม่ต้องพูดถึงเลย ออกแนวลุยๆ มากกว่า”
หญิงไหม :: “เวลาไปเที่ยวทะเลพี่แม้นจะเป็นคนวิ่งออกไปเล่นน้ำทะเล แต่ไหมจะอยู่ในบ้าน อ่านหนังสืออยู่กับคุณแม่ เราอายุใกล้กัน เห็นต่างกันแบบนี้แต่เราสนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง”
หญิงแม้น :: “เรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็น เมื่อก่อนจะจับเขาใส่กระโปรงเขาก็ไม่ยอม ก็ไม่เป็นไร ยอมรับในสิ่งที่เขาชอบ เวลาพี่เลี้ยงที่บ้านซักผ้าเขาจะรู้เลยว่าชุดไหนของหญิงไหม ชุดไหนของหญิงแม้น เพราะคนละสไตล์กันเลย แม้นจะเป็นแนวผู้หญิง เซ็กซี่นิดๆ มีกระโปรง มีเดรส”
หญิงไหม :: “ไหมไม่ชอบใส่กระโปรง ชอบเสื้อตัวใหญ่ๆ กางเกงขาเดฟ
.....(ไหมเป็นฮิปสเตอร์) เสียงแซวจากหญิงแม้น......
“คงเพราะตอนเด็กๆ ไหมผอมมากก็เลยจะใส่อะไรที่ปกปิดหรือให้ดูตัวใหญ่ๆ ก็เลยชินใส่มาจนตอนโตเป็นคาแรกเตอร์ไปเลย แต่ก็ยังแชร์เสื้อผ้ากับพี่แม้นได้ เอามามิกซ์แอนด์แมตช์กันแล้วแต่สไตล์ ความสนิทสนมของพี่น้องเราไม่จำเป็นต้องมองแต่ภายนอก ขอแค่เราคุยกันรู้เรื่อง คนชอบมองพี่แม้นว่าแต่งตัวโป๊ แต่การแต่งตัวโป๊ก็ไม่ได้ทำให้เรานิสัยแย่ลงสักหน่อย ก็แค่การแต่งตัว”
กับเรื่องธรรมชาติของครอบครัว พี่น้อง แน่นอนว่าเราต้องอยากรู้ว่าตอนเด็กๆ พี่น้อง 2 ขั้วนี้ทะเลาะกันบ้างมั้ย??
“โอ้โห...ตลอด” (ตอบเป็นเสียงเดียวกัน)
หญิงแม้น :: “แต่พอเราโตขึ้น คุยกันรู้เรื่องก็เลิกทะเลาะกัน แม้นว่าเป็นทุกบ้านนะ แต่เรื่องตลกอย่างนึงคือแม้นเชื่อฟังน้องนะ เช่นเวลาซื้อของถ้าน้องบอกไม่ผ่านแม้นก็ไม่ซื้อ ล่าสุดเพิ่งไปมิลานจะชอปปิ้งอะไรก็จะต้องถ่ายรูปให้น้องดูตลอด ว่าโอเคมั้ย? น้องหญิงไหมจะเป็นคนบอกว่าซื้อได้หรือซื้อไม่ได้ น้องเด็กกว่าแต่มีอำนาจเหนือแม้นนะ (หัวเราะ)
สองคาแรกเตอร์ในสายตาแม่
จากที่คุณแม่ยืนยันแล้วว่าเลี้ยงทั้งสองคนมาในแบบเดียวกัน แต่ทั้งสองแตกต่างกันเอง อาจจะเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมและปัจจัยอื่นๆ ที่ทั้งสองได้พบเจอ ฉะนั้น การทำหน้าที่ของคุณแม่ในการดูแลลูกสาวสองคนที่มีความต่างจึงสามารถยืดหยุ่นได้ในกรอบที่ไม่มากจนเกินไปนัก และเมื่อถามว่าคุณแม่ดุมั้ย? หญิงทั้งสองก็ตอบเราเป็นเสียงเดียวกันอีกเช่นกันว่า “ไม่ดุ!”
หญิงไหม :: “คุณแม่จะมีขอบเขตให้ ดูอยู่ห่างๆ แล้วก็เตือนให้ระวัง”
หญิงแม้น :: “คุณแม่ไม่ดุ ไม่ด่า แต่จะใช้วิธีการเงียบ เมื่อไหร่ที่คุณแม่เงียบนี่แสดงว่าไม่ค่อยพอใจแล้ว!”
คุณแม่ :: “เราจะดูอยู่ห่างๆ คอยเช็กอยู่เงียบๆ อย่างบางทีหญิงแม้นแต่งตัวเซ็กซี่เกินไปหน่อย แม่ก็จะแค่ถามเขาว่า “โป๊ไปมั้ยลูก?” เราไปกำหนดชีวิตใครไม่ได้ จึงเลี้ยงแบบง่ายๆ ดูว่าลูกชอบอะไร เราก็สนับสนุนด้านนั้น อย่างหญิงแม้น เขาลองค้นหาตัวเองมาทุกด้านแล้ว ทั้งด้านโรงแรม ด้านภาษา สุดท้ายก็มาจบที่เรื่องแฟชั่นที่เขาชอบที่สุด ช่วงที่เขาอยากลองเปลี่ยน ก็เรื่องของเขา ไม่ว่าอยากจะทำอะไรทำ อยากเรียนอะไรเรียน เอาเลยลูกทำไปเลย!”
หญิงแม้น :: “คุณแม่เชื่อในการตัดสินใจของลูก สำหรับตัวเองคิดว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามแพตเทิร์น อยากมีประสบการณ์ทั้งภายนอกโรงเรียนและในโรงเรียนมากกว่า ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเรียนตามกฎเกณฑ์เป๊ะๆ ลองไปจนเจอสิ่งที่เราชอบ ซึ่งตอนนี้ชีวิตก็กลับมาลงล็อกแล้ว อยู่ในกรอบทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน ซึ่งก็ดีใจที่คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจ
คุณแม่ :: “เรื่องทั่วไปแม่จะดูแลใกล้ชิดกับลูกๆ แต่ถ้าเรื่องที่ใหญ่โตคุณพ่อจะเป็นคนตัดสินใจ อย่างช่วงที่หญิงแม้นมีข่าวกับดาราบ้าง กับผู้ชายคนโน้นคนนี้บ้าง คุณพ่อก็เข้าใจ เพราะคุณพ่อก็โตมาในแวดวงสังคม เข้าใจข่าว เขาก็จะเข้าใจคำว่า “มายา” เยอะ ก็จะไม่ได้ดุหรือโกรธอะไรลูกมาก”
หญิงแม้น :: “ข่าวก็เป็นแค่ข่าว กลับบ้านมาก็เป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ บางทีท่านพ่อเห็นในข่าวท่านก็รู้ว่าเราเป็นอย่างไร”
ส่วนเรื่องของความสนิทสนมของสองสาวพี่น้องนั้น นับว่าเป็นความแตกต่างที่สมดุลเพราะความแตกต่างนั่นแหละกลับเป็นสิ่งเติมเต็มซึ่งกันและกัน และสามารถเป็นเพื่อน พี่ น้อง คู่คิดที่ปรึกษาหารือกันได้
คุณแม่ :: “ส่วนใหญ่เขาคุยกันสองคน มีเรื่องอะไร จะทำอะไรแม้นจะคุยกับน้องไหมก่อน น้องต้องอนุมัติทุกเรื่อง (หัวเราะ)”
หญิงไหม :: “ไหมกับพี่แม้นเราคุยกันทุกเรื่องจริงๆ ไหมจะเป็นคนที่ชอบฟัง พี่แม้นจะมีเรื่องเล่าเยอะ เพราะมีเพื่อนเยอะ ไปโน่นมานี่เจออะไรเขาก็เล่าให้เราฟัง”
คุณแม่ :: “ทั้งคู่มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ แต่คนละแนว ซึ่งเขาจะสนับสนุนกันและกันได้ คนหนึ่งให้แง่คิดอย่างนึง อีกคนหนึ่งให้แง่คิดอีกอย่างหนึ่ง เขาสามารถแชร์กันได้ทั้งเรื่องสังคมและวิชาการ เลี้ยงให้เขาใกล้ชิดกันตั้งแต่เด็ก จนทุกวันนี้เขาก็ยังสนิทกัน คาแรกเตอร์ของลูกแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันหญิงแม้นเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน เขาใจดี ทำเก่ง แต่กลับบ้านน้ำตาไหล เอาเข้าจริงๆ หญิงไหมแข็งกว่า
หญิงไหม :: “พี่แม้นเหมือนเป็นคนกล้า ภายนอกดูมีองค์ แต่จริงๆ เขาใจดีมาก เป็นคนที่ชอบดูแลคนอื่น”
หญิงแม้น :: “น้องไหมเห็นนิ่งๆ แต่เขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่มาก ขนาดแม้นยังต้องฟังเลย”
ตำราเลี้ยงลูกแบบฉบับยุคล 2013
อย่าเพิ่งคิดว่าการมียศศักดิ์นำหน้าจะทำให้สองสาวหยิ่งทะนงถือตัว หากแต่ราชนิกุลทั้งสองกลับมีแต่ความเรียบง่าย ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ใช้ชีวิตที่หรูหรา เพียบพร้อมในวังเหมือนหนังไทยสมัยก่อน
หญิงไหม :: “ชีวิตพวกเราไม่เหมือนในละคร เราใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปไม่แหมือนสมัยก่อนที่ต้องมานั่งพับเพียบ ร้อยมาลัย เหมือนภาพที่คนอื่นเข้าใจกัน นี่ปี 2013 แล้ว เราก็เป็นคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตทั่วไป มีความอยากเหมือนคนทั่วไป”
หญิงแม้น :: “เพื่อนหลายๆ คนอาจลืมไปแล้วว่าเป็น หม่อมราชวงศ์ (หัวเราะ) โชคดีที่มีเพื่อนดี ครอบครัวดี น้องคบเพื่อนกันมาตั้งแต่จิตรลดา”
หญิงไหม :: “ช่วงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็มีเพื่อนแซวบ้าง แต่เราก็ทำตัวธรรมดา เวลาอยู่ในคณะก็ทำตัวสบายๆ ไม่ได้มีคนรับใช้เดินตาม เพื่อนๆ ก็เลยเข้าใจว่า อ๋อ...เป็นแบบนี้นี่เอง”
เมื่อไม่ได้ใช้ชีวิตราวกับเจ้าหญิงในละคร ดังนั้น ราชนิกุลทั้งสองก็ต้องผ่านการฝึกให้ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาจากคุณแม่อัญชลี จนกลายเป็นที่มาของวีรกรรมเด็ดของลูกๆ ที่คุณแม่ไม่เคยลืม!
คุณแม่ :: “ถ้าพูดถึงเรื่องความซน ก็ซนทั้งคู่ หญิงแม้นจะบู้ ลุย เลยมีแผลเป็นเยอะ ส่วนหญิงไหมก็ซน แต่ซนแบบฉลาด (หน้าตาเรียบร้อยแต่ซ่าไม่ใช่เล่น) เวลามีเรื่องอะไรเขาจะโทษพี่ก่อนเลย คนโดนดุก็จะเป็นคนพี่ เช่น สองคนนั่งเล่นกันอยู่หลังรถมีเสียงตุ๊บตั๊บ น้องก็จะบอกว่าพี่แม้นตีไหม แต่จริงๆ แล้วน้องไหมตีพี่แม้น (หัวเราะ)”
หญิงแม้น :: “แม้นบู้จริงๆ ตอนเด็กๆ คุณแม่ชอบพาไปต่างจังหวัด ไปล่องแพ เราก็วิ่งเล่นบนภูเขา ลื่นล้ม เหล็กเสียบเข่า แม่ก็จะเย็บแผลกลางป่านั่นเลย อึ้ย!!”
คุณแม่ :: “จะพาลูกออกไปทรมานปีละครั้ง ค่ำไหนนอนนั่น ตอนนั้นไปล่องแพที่แม่แจ่ม แล้วหญิงแม้นหกล้มเป็นแผลยาว หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นก็เลยคิดว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่านั้นจะทำอย่างไร? จะพาลูกไปหาหมอที่ไหน? พักหลังก็เลยหยุดไปแบบโหดๆ บ้าง”
หญิงแม้น :: “คุณแม่เป็นผู้หญิงที่แกร่งมาก ตอนนั้นทำแผลเองเลย ถึงขั้นจะเย็บแผลให้แม้นเองเลยด้วยซ้ำ แล้วคุณแม่ก็เป็นเหมือนคุณหมอประจำตัวลูกด้วย เคยปวดท้อง ไปหาหมอ หมอบอกเป็นไส้ติ่งจะจับผ่าท่าเดียว แต่คุณแม่ไม่เชื่อ”
คุณแม่ :: “ดูผลเลือดแล้วไม่น่าใช่ไส้ติ่งนะ หมอก็ยังจะให้ผ่า แต่แม่ไม่เชื่อก็เอากลับบ้าน แล้วก็ไม่ใช่จริงๆ หญิงแม้นแค่มีแก๊สในกระเพาะเยอะ”
หญิงไหม :: “คุณแม่รู้ทุกเรื่องจริงๆ ถามอะไรแม่ตอบได้หมด มีสัญชาตญาณของความเป็นแม่สูงมาก เวลาป่วยจะต้องถามแม่ก่อนค่อยไปหาหมอ จนหมอที่รักษาประจำยังแซวว่า “คุณแม่วิเคราะห์อาการว่าไง?” นอกจากนั้นเรื่องการวางตัว มารยาท การเข้าสังคม คุณแม่จะอบรมให้หมดเลย”
คุณแม่ :: “เราเลี้ยงลูกแบบผสมทั้งแบบไทยๆ และแบบทันเทคโนโลยี ไม่ว่าจะ Facebook , Instagram , Line แม่เล่นเป็นหมด เอาไว้สื่อสารกับลูก อีกนัยหนึ่งก็คือเอาไว้เช็กพฤติกรรมลูกด้วย (หัวเราะ) ต้องขอบคุณเทคโนโลยี ที่ทำให้เราใกล้กัน แม้แต่ท่านพ่อก็เล่นไลน์ด้วย”
เซอร์ไพรส์รักทุกวัน
และในเดือนสิงหาคม เดือนที่อบอุ่นไปด้วยความรักตามประสาแม่ลูก สำหรับกิจกรรมพิเศษของครอบครัวยุคลนั้นสองสาวขออุบเป็นเซอร์ไพรส์ในวันแม่ไว้ก่อน แต่อย่างไรก็ดีพวกเธอมักจะมีเซอร์ไพรส์ให้กับคุณแม่เสมอๆ
หญิงไหม :: “พี่แม้นจะเป็นคนเซอร์ไพรส์แม่ตลอด ที่แน่ๆ คือทุกวันเกิดจะมีการ์ดพิเศษ อย่างช่วงนี้พี่แม้นไม่อยู่เมืองไทยเขาก็จะส่งของกลับมา อย่างวันเกิดคุณแม่ปีนี้ซื้อรองเท้าให้แล้วก็มีเขียนการ์ดส่งมาให้”
คุณแม่ :: “ลูกๆ มีเซอร์ไพรส์ให้บ่อยๆ ก็ประทับใจนะ ตลอดเวลาเขาจะหาของสวยๆ งามๆ ให้เราตลอด แล้วเวลาเขาซื้อของให้ก็จะซื้อเผื่อให้ด้วยเช่น ครีมก็ซื้อให้ 2 กระปุกเลย”
หญิงแม้น :: “คุณแม่จะไม่ค่อยซื้อของหรือทำอะไรให้ตัวเอง เพราะเขาจะให้เราหมด ฉะนั้น ถ้าเราอยากสองคนอยากให้แม่ได้อะไรเราจะเป็นคนทำให้เพราะแม่จะไม่ซื้ออะไรให้ตัวเอง
แม้ว่า “วันแม่” จะเป็นวันวันหนึ่งที่แม่ไม่ได้เรียกร้องอะไร อย่างไรก็ดีการให้ความสำคัญกับแม่แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยก็บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญกับผู้ที่ให้กำเนิดเรามา เหมือนที่สองสาวบอกกับเราว่า “ทุกวันเป็นวันแม่และวันลูกอยู่แล้ว เพราะเราให้ความสำคัญกับแม่ทุกวัน!”....
ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล
หญิงแม้นสาวไฮเปอร์ เธอเป็นราชนิกุลที่มีข่าวมากที่สุดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องความรักกุ๊กกิ๊กกับดาราหนุ่ม หรือกระทั่งเคยโชว์ภาพความเซ็กซี่บนหน้าปกนิตยสารมาแล้ว หลังจบการศึกษาชั้น ม.2 ที่โรงเรียนจิตรลดา หม่อมอัญชลี ได้ส่งให้ไปศึกษาต่อโรงเรียนสตรีที่ Saint Mary's School ประเทศอังกฤษ หลังเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงได้กลับมาศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศไทย เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว
เธอเลือกศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตรนานาชาติ คณะศิลปศาสตร์การท่องเที่ยว ก่อนที่จะย้ายมาศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งก็ยังไม่ตรงกับความชอบสักเท่าไหร่ จนกระทั่งมาลงเอยที่การเรียนด้าน Fashion Merchandising (การจัดการบริหารแฟชั่น) ที่ Santa Monica College L.A ประเทศสหรัฐอเมริกา และตอนนี้เธอก็ยังทำธุรกิจเล็กๆ ด้วยการขายของออนไลน์ทาง Instagram อีกด้วย
“ลองเรียนมาหลายอย่าง แต่สรุปว่าเราชอบด้านแฟชั่นมากกว่า ยิ่งตอนนี้มาทำร้านเสื้อผ้า ก็เหมือนกับว่าเรียนไปด้วย มีประสบการณ์การทำงานจริงไปด้วย เทอมหน้าคิดว่าจะลงเรียนวาดแพตเทิร์น ถ้ามีเรียนเย็บจักรก็จะเรียน นอกจากนี้ ยังอยากเรียนเพิ่มเติมด้านแฟชั่นไปอีกเรื่อยๆ คิดว่าตอนนี้มาถูกทาง ไม่เปลี่ยนใจแล้วค่ะ”
ม.ร.ว.จันทรนิภา ยุคล
หญิงไหมลูกสาวคนเล็กของบ้านยุคล แม้ว่าลักษณะภายนอกที่ดูเงียบๆ แต่พี่สาวของเธอ (หญิงแม้น) ว่าคารมต่อยหนักไม่ใช่เล่น!! หลังจากหญิงไหมจบการศึกษาจากโรงเรียนจิตรลดา เธอได้เอนทรานซ์เข้าเรียนในคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้ว
“ตอนเอนทรานซ์เลือกคณะนี้เพราะรู้สึกว่าอยากเรียน ซึ่งจากการหาข้อมูลในตอนแรกคณะนี้เป็นคณะที่มีคนสงสัยอันดับ 1 เลยว่าจบไปแล้วจะทำอะไร? ซึ่งเมื่อเรียนไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกว่าคณะนี้ให้อะไรกับเราหลายอย่างมาก เน้นเรียนทฤษฏีก็จริง แต่เป็นทฤษฎีที่สามารถอธิบายปรากฎการณ์ทางสังคม หรือว่าทำความเข้าใจกับสังคมได้วิชาการเยอะมาก ต้องอ่าน ต้องทำความเข้าใจเยอะ แต่พออ่านไปแล้วก็สนุกดี เพราะนักทฤษฎีจะวิจารณ์สังคม อธิบายสังคมได้อย่างชัดเจน ทำให้เรามองสังคมได้หลายอย่าง”และนอกจากเรื่องการเรียนเธอยังเป็นหุ้นส่วนของพี่สาว (หญิงแม้น) ร่วมด้วยช่วยกันทำร้านเสื้อผ้าออนไลน์ ถือเป็นการทดลองงานในอีกมุมหนึ่งของเธอ
“เข้ามาช่วยพี่แม้นเพราะพี่แม้นอยู่เมืองนอกแต่ทุกอย่างเราทำที่เมืองไทย จึงต้องเป็นคนดูแลประสานงาน โดยมีคนคุมงานคือ คุณแม่ เราก็จะช่วยคุณแม่อีกที
ถ้าถามโดยส่วนตัวการทำงานด้านแฟชั่นก็สนุกดี แต่เราไม่ได้สนใจเรื่องแฟชั่นเท่าไหร่ อยากแค่เป็นคนช่วยมากกว่า จะว่าไปแล้วการทำแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะเราสามารถขายของผ่านโลกออนไลน์โดยที่ไม่ต้องเปิดร้าน แต่เบื้องหลังการทำงานเยอะมากทั้งกระบวนการผลิต การทำแพทเทิร์น การตรวจสอบคุณภาพ ทำให้เราเห็นกว่าจะเป็นผลงานชิ้นหนึ่งมีกระบวนการเยอะมาก นอกจากนั้นก็ได้ฝึกเรื่องการพูดคุยกับลูกค้า ดูความต้องการของแต่ละคน”โดยหญิงไหมวางแผนไว้ว่าหลังจากเรียนจบแล้วอยากจะขอพักสัก 1 ปี ก่อนเรียนต่อ แต่ในระหว่างนั้นก็จะช่วยดูแลธุรกิจเล็กๆ ที่เธอและพี่สาวช่วยกันทำ
เจ้าแม่ธุรกิจออนไลน์
โลกออนไลน์ เปิดโอกาสให้หญิงแม้นมีช่องทางในการสร้างธุรกิจของตัวเอง โดยหญิงแม้นได้ร่วมหุ้นกับน้องสาว (หญิงไหม) และเพื่อนสาวคนสนิท “นุช-นีรนาท โคทส์” เปิดร้านเล็กๆ ใน Instagram ใช้ชื่อว่า “Shop_twinklestars” ซึ่งร้านนี้เปิดให้บริการมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว โดยจะมีเสื้อผ้าแฟชั่นสวยๆ ที่ออกแบบโดยเจ้าของร้าน ถ่ายรูปโดยเจ้าของร้านและจัดส่งโดยเจ้าของร้าน เป็นทีมงานเล็กๆ ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ!
“เริ่มจากแม้นกับนุช (นีรนาท โคทส์) เป็นเพื่อนกันมานาน สนิทกันมากเรารู้สึกว่าอยากมีธุรกิจเล็กๆ ที่ทำด้วยกัน แต่แม้นเรียนอยู่ แอลเอ. นุชอยู่กรุงเทพฯ อาจจะลำบากหน่อยก็เลยเริ่มต้นทำธุรกิจจากการรับพรีออเดอร์ ซึ่งนุชอยู่เมืองไทยก็จะคอยดูแลบัญชี รับออเดอร์ แม้นก็เป็นคนซื้อของแล้วส่งกลับมา แต่ทำไปทำมาแล้วก็เจ๊ง! (หัวเราะ) เพราะว่ามีความผิดพลาดอย่างเช่นซื้อของไปโดยที่ไม่มีใครสั่ง บางทีเราเรียนก็ไม่มีเวลาไปซื้อของ หรือซื้อของไม่ครบ บางทีก็เข้าเนื้อเราด้วย ก็เลยเลิกทำดีกว่า
แต่คุณแม่เห็นว่าถ้าเราทำดีๆ ก็น่าจะไปได้ คุณแม่ก็เลยเข้ามาช่วยบริหาร ตอนแรกก็ยังรับพรีออเดอร์อยู่ จนสักพักเริ่มดีขึ้นก็เลยคิดว่าเราทำเสื้อผ้าของตัวเองด้วย เพราะเวลาเราใส่เสื้อผ้าอะไรคนก็ชอบมาถามว่าซื้อที่ไหน ซึ่งเราเองก็มีไอเดียอยากทำเสื้อผ้าอยู่แล้ว ก็เลยทำของตัวเองขายด้วย ดีไซน์กันเอง แล้วก็ไปจ้างโรงงานตัดเย็บ ชื่อแบรนด์ว่า “La Licorne” แปลว่า ยูนิคอร์น ซึ่งเป็นตัวที่แม้นกับนุชชอบเหมือนกัน
สไตล์ที่ออกแบบก็จะเป็นสไตล์ที่แม้นกับนุชใส่กันปกติ เซ็กซี่นิดๆ เน้นโชว์หลัง โชว์ด้านข้าง หลักๆ คือบรา กับกระโปรง “La Licorne” เป็นเซเลบริตี้แบรนด์ที่ราคาไม่สูง เพราะอยากให้เข้าถึงทุกคน ราคาบราของเราขายอยู่ 650 บาท แต่ก็โดนก็อบปี้ ซึ่งไปเจอมาราคาของก็อป 450 แล้ว จ่ายเพิ่ม 200 ซื้อของจริงของเราดีกว่า ใส่สบายกว่ากันแน่ๆ
เราทำกันเองเล็กๆ ทีมงานก็คือครอบครัวเรานั่นแหละ แม้นกับนุชดูเรื่องโปรดักต์ดีไซน์ ว่าจะทำอย่างไร เลือกผ้า น้องไหมจะช่วยออกความเห็นเรื่องดีไซน์ให้เข้ากับคนไทย เพราะบางทีอาจจะเซ็กซี่ไป สั้นไป ส่วนแม่ดูภาพรวม นุชดูเรื่องบัญชี แล้วทุกคนก็จะช่วยกันตอบไลน์ ตอบอีเมล์ ช่วยกันแพ็คกล่อง ส่งของ พี่เลี้ยง คนขับรถ ก็มาช่วยส่งของ นี่คือร้านเล็กๆ ของเรา อาจโดนลูกค้าบ่นว่าช้าบ้าง ซึ่งต้องขอโทษด้วยเพราะว่าเราทำกันเองจริงๆ อาจผิดพลาดบ้าง”
ด้วยอายุเพียงแค่นี้แต่กลับมีธุรกิจเล็กๆ ที่มีคนติดตามร้านเธอกว่า 35,000 คน นั่นเป็นเพราะความตั้งใจและใจรักในงานด้านแฟชั่นล้วนๆ โดยมีหนึ่งกำลังสำคัญก็คือคุณแม่ ผู้สนับสนุนลูกในทุกๆ ด้าน“แม้นว่าการทำธุรกิจไม่ได้อยู่ที่อายุหรอก ถ้าเราพร้อมและใจรักเราก็ทำได้เลย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถทำได้ แม้นโชคดีที่มีคุณแม่สนับสนุนด้วย เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไรคุณแม่ก็ช่วยเหลือทุกอย่าง ดีใจที่เราสามารถคุย ปรึกษากับคุณแม่ได้ทุกเรื่อง ถ้าไม่มีคุณแม่ร้านคงจะปิดไปนานแล้ว คุณแม่ทำงานให้ลูกเพราะใจรัก” :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/