เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ดาราสาวดาวยั่วสวาท อย่าง มาริลิน มอนโร นั้น "ฟาด” ทั้งพี่ชาย อดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ และน้องชาย วุฒิสมาชิก โรเบิร์ต เคนเนดี้ โดยพี่น้องทั้งคู่ เคยมีสัมพันธ์สวาทกับผู้หญิงคนเดียวกัน เพียงแต่ต่างวาระเท่านั้น
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง เจเอฟเค กับ มาริลิน มอนโร นั้น ภรรยาอย่าง แจ็คกี้ รู้อยู่เต็มอก และการแสดงออกต่อสาธารณชนอย่างออกหน้าออกตาของดาราสาว ก็เป็นหนามยอกอกภรรยาที่ถูกกฎหมายเช่นเธอมาโดยตลอด
และเมื่อสามีก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ก็ยิ่งทำให้แจ็คกี้อิหลักอิเหรื่อใจจนสุดที่จะกล่าว เพราะสามีของเธอนั้น คือภาพลักษณ์ของหนุ่มที่มีชื่อเสียงดังก้องโลก แต่เบื้องหลังคือความป็นหนุ่มเจ้าชู้ ที่มีข่าวกับหญิงมากหน้าหลายตา ซึ่งทำให้ภรรยาเธอต้องกล้ำกลืนฝืนทนไม่แสดงออก
บรรดาสาวๆ ทั้งหลาย อาจจะเป็นแค่ “ทางผ่าน” ที่มาแล้วก็ไป หากแต่เพียงหนึ่งเดียวในบรรดาชู้รักของ เจเอฟเค คือ มาริลิน มอนโร เพียงผู้เดียวที่เป็นหนามคาใจเธอมาตลอด และที่แสบกว่านั้นคือ เป็นเพียงนางเดียวที่แสดงตัวอย่างเปิดเผย ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขา โดยเรื่องทั้งหมดนี้ถูกเปิดเผยโดยหนังสือของ คริสโตเฟอร์ แอนเดอร์สัน ผู้เขียนเรื่อง The Final Years of Jack and Jackie
หนังสือเล่มนี้เล่าว่า สิ่งที่แจ็คกี้หวั่นใจที่สุดคือ การกระทำบางอย่างของดาราสาวที่เหมือนกับลูกปืนใหญ่ที่ไร้ทิศทาง ซึ่งอาจระเบิดลงใส่กลางธารกำนัลเมื่อไหร่ก็ได้ และนั่นคือ การทำลายชื่อเสียงของสามีของเธออย่างน่ากลัว นอกจากนั้น ยังเป็นการทำลายครอบครัวและชีวิตคู่ของประธานาธิบดีอย่างสิ้นเชิง และจะกลายเป็นที่เย้ยหยันจากสังคมอเมริกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับอย่างเด็ดขาด
สิ่งที่บ่งบอกถึง "ฤทธิ์เดช” ของสาวผมบลอนด์ก็คือ การประกาศตัวเป็นภรรยา "อีกคน” ของประธานาธิบดีอย่างออกนอกหน้า และมีคำพูดที่แสดงถึงแรงปรารถนาของเธอว่า "ไม่เห็นรึว่าฉันคู่ควรกับการเป็นสตรีหมายเลข 1” อันเป็นคำพูดที่นางมักกล่าวกับเพื่อนสนิทอยู่เสมอๆ
แหล่งข่าวกล่าวว่า มาริลินเคยโทรศัพท์เข้าไปที่ทำเนียบขาว เพื่อเล่าเรื่องระหว่างเธอและประธานาธิบดีให้กับแจ็คกี้ฟังอย่างหมดเปลือก แต่ก็ถูกแจ็คกี้ย้อนมาว่า "อย่างนั้น เธอก็แต่งงานกับเขาเสีย และจะให้วิเศษ ก็ย้ายเข้ามาอยู่ในทำเนียบขาวนี่ให้รู้แล้วรู้รอดไป จะดีกว่า แล้วชั้นก็จะย้ายออกไป เธอจะได้มารับปัญหาทั้งหมดของตำแหน่งนี้แทนชั้นซะ”
ปัญหาเรื่องสามีเจ้าชู้นี้เอง ที่ทำให้แจ็คกี้ต้องพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อปรับทุกข์กับนายแพทย์ แฟรงค์ ฟินเนอร์ทีย์ ผู้ให้คำแนะนำเรื่องชีวิตคู่ให้แก่เธอ และยังมีนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน แม็กซ์ จาค็อบสัน ผู้ให้การบำบัดกับทั้งสองสามีภรรยาหมายเลข1ของอเมริกาเพื่อให้ทั้งคู่ "ดีขึ้น” อีกด้วย จนฝ่ายมาริลินเงียบหายไป หันไปพัวพันกับวุฒิสมาชิกโรเบิร์ต และจบชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในที่สุด
