เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ถูกวิจารณ์หนักหลังทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 630,000 ดอลลาร์ (ราว 19.6 ล้านบาท) เพื่อหวังเพิ่มยอด “กดไลก์” บนหน้าเพจเฟซบุ๊กของทางกระทรวง ชี้เป็นหนึ่งในการใช้จ่ายงบประมาณที่ “สิ้นคิด” ที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การก่อตั้งกระทรวงแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ. 1789 หรือเมื่อกว่า 223 ปีก่อน
รายงานข่าวซึ่งอ้างหน่วยงานด้านการตรวจสอบภายในของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ระหว่างปี 2011 จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ ทางสำนักงานโครงการข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศที่เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการต่างประเทศเมืองลุงแซม ได้ใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินคิดเป็นวงเงินราว 630,000 ดอลลาร์ (ราว 19.6 ล้านบาท) เพื่อการดึงดูดยอดผู้ที่เข้ามา “กดไลก์” ในหน้าแฟนเพจของกระทรวงฯ บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง “เฟซบุ๊ก” รวมถึงเพิ่มจำนวนการกดไลก์ต่อโพสต์ต่างๆ บนแฟนเพจ
ข้อมูลระบุว่า ทางกระทรวงฯ มีแผนเพิ่มจำนวนผู้ที่ถูกใจแฟนเพจของตนจากระดับปัจจุบันที่ 280,420 คนเป็นมากกว่า 2 ล้านคนให้ได้โดยเร็วสำหรับหน้าแฟนเพจเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และอีก 450,000 คนบนหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กเวอร์ชันที่เป็นภาษาต่างประเทศอื่นๆ แม้บรรดาผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงจะทราบดีว่าเป้าหมายดังกล่าวยากจะประสบความสำเร็จก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น ผลการสำรวจที่มีการจัดทำเมื่อต้นปียังพบว่า มีแฟนเพจเพียงแค่ประมาณ “2 เปอร์เซ็นต์” ที่มีการเข้ามากดไลก์ แสดงความคิดเห็นต่อการโพสต์ หรือกดแชร์เรื่องราวต่างๆจากเฟซบุ๊กของกระทรวงอยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่ทางกระทรวงทุ่มเทเงินงบประมาณเป็นตัวเลขถึง 6 หลักเพื่อหวังกระตุ้นยอดกดไลก์ และยังประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาในเวทีโลก
ก่อนหน้านี้ในปี 2011 กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว หลังจากที่ตัดสินใจลดบทบาทและความสำคัญของเว็บไซต์ประจำกระทรวงลง และหันไปทุ่มเททรัพยากรเพื่อโปรโมตผลงานของกระทรวง ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์แทน
แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบภายในระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ปราศจากยุทธศาสตร์ในการใช้สื่อประเภท “โซเชียลมีเดีย” อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสมดุลระหว่างกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เป็นคนหนุ่มสาว กับบรรดากลุ่มชนชั้นนำ และพวกสมาชิกของกลุ่มความคิดเห็นระดับนำต่างๆ ในสังคมอเมริกัน