By Lady Manager
Question กำลังรักษาสิวอยู่ค่ะ มีทั้งยาทาก่อนล้างหน้า ยาแต้มสิว ยาทาก่อนนอน ควรใช้มากน้อยอย่างไร และดูแลผิวควบคู่ด้วยอย่างไรคะ
Answer โดย นพ.ดนัย ธรรมภิบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย จากโบ้เต้ เอควิลิเบร่ เมดิคอลสปา แอนด์ บีอีคิว คลินิก
“ระหว่างรักษาสิว หรือรักษาสิวแล้วหายแล้ว ก็ต้องดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้สิวอุดตันได้ง่ายๆ อีก ผมจะแนะนำสูตรกว้างๆ ให้นะครับ
ในชุดยารักษาสิว จะมียาทาก่อนล้างหน้า ในตอนเช้าก็ทายาตัวนี้ก่อนล้างหน้า ทาทั่วหน้าทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วล้างออก ยาทาก่อนล้างหน้าเป็นยาเปิดหัวสิว มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสิวได้ภายในตัว แต่ต้องระวัง เพราะยาจะฆ่าเชื้อโดยการให้อนุมูลอิสระที่เป็นออกซิเจนให้กับเชื้อโรคสิว เนื่องจากเชื้อโรคสิวตัวนี้ไม่ชอบออกซิเจนเลย
แต่การใช้พวกสารอนุมูลอิสระบ่อยๆ หน้าจะเหี่ยว ดังนั้นเราต้องดูแลให้มีสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย คือ ต้องทานผักผลไม้หลากหลายสีเยอะๆ ด้วยครับ
จากนั้นใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ BHA หรือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) จะเป็นกรดที่จะช่วยละลายเปิดหัวสิวอีกตัวหนึ่ง จะช่วยเสริมจากยาทาก่อนล้างหน้า หรืออย่างบางยี่ห้อ บางผลิตภัณฑ์ เขาจะเรียกว่ามีกรด AHA ผสมด้วย ตัวนี้จะออกฤทธิ์เสริมซึ่งกันและกัน หากใช้ BHA กับ AHA คู่กันจะดี มันออกฤทธิ์ส่งเสริมกันด้วยตัวมันเอง แต่ตัวที่ใช้สำหรับรักษาสิวจริงๆ คือ BHA
หลังจากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย หากมีสิวอักเสบ เม็ดไหนแดง เราทายาฆ่าเชื้อเพิ่ม แต้มเป็นจุดๆ ไป
พอตกกลางคืนก่อนนอน ล้างหน้าตามปกติ หากยังมีสิวอักเสบทายาฆ่าเชื้ออีกรอบ
และยาตัวที่สำหรับทากลางคืนคือ กรดวิตามินเอ ช่วยให้พวกเซลล์ผิวผลัดได้ดีขึ้น ลดการอุดตันของซากเซลล์ ของผิวหนังชั้นนอก ผลพลอยได้ที่มากกว่าเรื่องของสิว คือ ทำให้หน้าใส ริ้วรอยลดลง กระตุ้นคอลลาเจน เพราะกรดวิตามินเอ เป็นตัวที่เขารับรองแล้ว ว่ามีฤทธิ์ในการช่วยชะลอวัยใบหน้า ลดริ้วรอยได้
ทีนี้อาจมีส่วนทำให้หน้าแห้งได้ แต่อยู่ที่เราใช้ความเข้มข้นเท่าไหร่ เหมาะกับใบหน้าเราหรือไม่ บางคนอาจจะใช้แล้วยาแรงไป บางคนอาจจะหน้าลอกเป็นขุย รู้สึกแสบได้
ดังนั้นหากเริ่มต้นใช้ ควรจะเริ่มจากความเข้มข้นต่ำสุดก่อน เช่นทากรดวิตามินเอในความเข้มข้น 0.025% อาจจะใช้ 3 วันครั้ง ดูว่าใช้เป็นอย่างไร หากไม่มีปัญหาอะไร ลองวันเว้นวันดู พอวันเว้นวันไม่มีปัญหา จากนั้นก็ใช้ทุกวันพอใช้ทุกวันแล้วหน้ายังสบายดี ไม่ได้เป็นขุย แสบแดง ก็ลองใช้เป็นความเข้มข้นสูงขึ้น”
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Question กำลังรักษาสิวอยู่ค่ะ มีทั้งยาทาก่อนล้างหน้า ยาแต้มสิว ยาทาก่อนนอน ควรใช้มากน้อยอย่างไร และดูแลผิวควบคู่ด้วยอย่างไรคะ
Answer โดย นพ.ดนัย ธรรมภิบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย จากโบ้เต้ เอควิลิเบร่ เมดิคอลสปา แอนด์ บีอีคิว คลินิก
“ระหว่างรักษาสิว หรือรักษาสิวแล้วหายแล้ว ก็ต้องดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้สิวอุดตันได้ง่ายๆ อีก ผมจะแนะนำสูตรกว้างๆ ให้นะครับ
ในชุดยารักษาสิว จะมียาทาก่อนล้างหน้า ในตอนเช้าก็ทายาตัวนี้ก่อนล้างหน้า ทาทั่วหน้าทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วล้างออก ยาทาก่อนล้างหน้าเป็นยาเปิดหัวสิว มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสิวได้ภายในตัว แต่ต้องระวัง เพราะยาจะฆ่าเชื้อโดยการให้อนุมูลอิสระที่เป็นออกซิเจนให้กับเชื้อโรคสิว เนื่องจากเชื้อโรคสิวตัวนี้ไม่ชอบออกซิเจนเลย
แต่การใช้พวกสารอนุมูลอิสระบ่อยๆ หน้าจะเหี่ยว ดังนั้นเราต้องดูแลให้มีสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย คือ ต้องทานผักผลไม้หลากหลายสีเยอะๆ ด้วยครับ
จากนั้นใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ BHA หรือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) จะเป็นกรดที่จะช่วยละลายเปิดหัวสิวอีกตัวหนึ่ง จะช่วยเสริมจากยาทาก่อนล้างหน้า หรืออย่างบางยี่ห้อ บางผลิตภัณฑ์ เขาจะเรียกว่ามีกรด AHA ผสมด้วย ตัวนี้จะออกฤทธิ์เสริมซึ่งกันและกัน หากใช้ BHA กับ AHA คู่กันจะดี มันออกฤทธิ์ส่งเสริมกันด้วยตัวมันเอง แต่ตัวที่ใช้สำหรับรักษาสิวจริงๆ คือ BHA
หลังจากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย หากมีสิวอักเสบ เม็ดไหนแดง เราทายาฆ่าเชื้อเพิ่ม แต้มเป็นจุดๆ ไป
พอตกกลางคืนก่อนนอน ล้างหน้าตามปกติ หากยังมีสิวอักเสบทายาฆ่าเชื้ออีกรอบ
และยาตัวที่สำหรับทากลางคืนคือ กรดวิตามินเอ ช่วยให้พวกเซลล์ผิวผลัดได้ดีขึ้น ลดการอุดตันของซากเซลล์ ของผิวหนังชั้นนอก ผลพลอยได้ที่มากกว่าเรื่องของสิว คือ ทำให้หน้าใส ริ้วรอยลดลง กระตุ้นคอลลาเจน เพราะกรดวิตามินเอ เป็นตัวที่เขารับรองแล้ว ว่ามีฤทธิ์ในการช่วยชะลอวัยใบหน้า ลดริ้วรอยได้
ทีนี้อาจมีส่วนทำให้หน้าแห้งได้ แต่อยู่ที่เราใช้ความเข้มข้นเท่าไหร่ เหมาะกับใบหน้าเราหรือไม่ บางคนอาจจะใช้แล้วยาแรงไป บางคนอาจจะหน้าลอกเป็นขุย รู้สึกแสบได้
ดังนั้นหากเริ่มต้นใช้ ควรจะเริ่มจากความเข้มข้นต่ำสุดก่อน เช่นทากรดวิตามินเอในความเข้มข้น 0.025% อาจจะใช้ 3 วันครั้ง ดูว่าใช้เป็นอย่างไร หากไม่มีปัญหาอะไร ลองวันเว้นวันดู พอวันเว้นวันไม่มีปัญหา จากนั้นก็ใช้ทุกวันพอใช้ทุกวันแล้วหน้ายังสบายดี ไม่ได้เป็นขุย แสบแดง ก็ลองใช้เป็นความเข้มข้นสูงขึ้น”
# ท่านผู้อ่านสามารถฝากคำถามสารพันปัญหาคาใจหญิงเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความงาม และแน่นอน เรื่องเซ็กซ์กับความสัมพันธ์ มาได้ที่ lady@astvmanager.com เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเคลียร์ให้หายคลางแคลงใจเลยค่ะ *_*
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net