xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตที่มีเหตุผลของ ตาล-ไตรตรา ลิมปพัทธ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
แม้จะภาคภูมิใจในตัวคุณพ่อ ที่เป็นพิธีกรดังของประเทศมากเพียงใด ก็ไม่ทำให้ไตรตรา ลูกสาวคนสวยของ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ คิดเข้าวงการบันเทิงตามผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะภาพความสง่างามของ คุณป้าดิษยา ยศพล อดีตผู้จัดการโรงแรมโรส การ์เด้นท์ รวมถึงภาพสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ของโรงแรม ที่เธอได้วิ่งเล่นตั้งแต่เด็ก ถูกประทับเป็นความฝัน ทำให้เธอเลือกที่จะทำงานด้านการโรงแรมเหมือนผู้เป็นป้า

 
อาคารสูง 31 ชั้นรูปทรงสมัยใหม่ผสมผสานกับตึกแบบสถาปัตยกรรมยุโรปอันโอ่อ่า ของโรงแรมดับเบิลยู กรุงเทพฯ เป็นที่ที่ทำให้เราได้พบ ตาล- ไตรตรา ทายาทคนบันเทิง ที่ถอดแบบความตั้งใจในการทำงานมาจากคุณพ่อไตรภพ และความเป็นกุลสตรีที่เรียบร้อยแบบ คุณแม่พิจิตรา มาอย่างครบถ้วน

“โรงแรมเป็นสิ่งสวยงามมาก สำหรับ ตาล มีคุณป้าเป็นไอดอล เวลาคุณป้าทำงานทุกสิ่งอย่างมันสวยไปหมด ก็ฝังใจมาตลอด พอโตขึ้นก็บอกพ่อเลยว่า อยากเรียนการโรงแรม พ่อก็ไม่ได้บังคับว่าต้องเป็นแบบเขา เพราะพ่อก็เคยบอกอย่าทำทีวีเลยมันเหนื่อย ซึ่งตาลเองก็เห็นว่าเหนื่อยจริงๆ กว่าจะผ่านแต่ละเทปใช้เวลานานมาก พ่อต้องกินข้าวในกองถ่าย มันไม่สนุกไม่สบายอย่างที่คนอื่นคิดเลย แต่ตาลว่าตอนที่คุณพ่อบอกงานทีวีเหนื่อย พ่อก็คงลืมพูดด้วยว่า โรงแรมมันเหนื่อยเหมือนกันนะ (หัวเราะ)” ไตรตราบอกกับเราด้วยน้ำเสียงสดใสเป็นกันเอง

 
หลังรู้ตัวว่าชอบและอยากทำด้านการโรงแรม เธอจึงได้ปักหมุดเรียนด้านบริหารจัดการโรงแรมตั้งแต่ต้น โดยเริ่มเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก จนจบปริญญาตรี ที่มหิดลอินเตอร์ และปริญญาโทการโรงแรมจาก Glion Institute of Higher Education สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นทำงานที่ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ ในตำแหน่งประชาสัมพันธ์ และย้ายมาเป็น Marketing Communications ให้กับ โรงแรมดับเบิลยู กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

 
ถึงพ่อจะมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ เธอก็ไม่เคยคิดจะใช้เครดิตชื่อเสียงของพ่อ ไต่เต้าในอาชีพสายบันเทิง “ตาลคิดว่า พ่อน่าจะปลื้มมากกว่า ถ้าตาลสร้างชื่อเสียงด้วยตัวเอง ครอบครัวของเราเป็นแบบนี้ เราภูมิใจที่เราเป็นเรา ตาลอยากให้คนจำตาลได้ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง ไปทำงานทุกวันนี้บางคนยังไม่รู้เลยว่า ตาลเป็นลูกสาวคุณไตรภพ”

การทำงานทุกวันนี้มีความสุขดี บางวันสนุก บางวันก็เหนื่อยรวมๆ กันไป โดยงานหลักที่เธอต้องทำคือ ดูแลมีเดีย “ถ้ามีเดียจะมาทำชูตติ้งที่โรงแรมหกโมงเช้า ตาลก็ต้องมาตั้งแต่หกโมงเช้า บางทีกว่าจะเสร็จงานห้าทุ่มก็ต้องรอ บางอาทิตย์ทำงานดึกๆ ติดกันหลายวัน แล้วอีกวันก็ยังต้องมาทำงานตอนเช้าๆ อยู่ มันจะเหนื่อยมากกว่า แต่เดี๋ยวก็หาย ตาลก็จะพยายามคิดว่า โอย ! จะวันศุกร์แล้ว อีกแป๊ปนึง เวลาตาลเหนื่อย พ่อก็บอกให้สู้ บ้านเราจะคอยให้กำลังใจกันและกันค่ะ”

 
ส่วนเรื่องจะเบนเข็มไปสู่งานพิธีกรหรือไม่นั้น เธอบอกว่า ก็เริ่มๆ คิดเหมือนกัน แต่ทุกอย่างไม่อะไรแน่นอน วันพรุ่งนี้อาจมีงานใหม่ที่ท้าทายและอยากทำ เธอก็จะไม่ทิ้งโอกาส และจะเลือกทำสิ่งใหม่ที่เข้ามาในทันที “เรื่องทำทีวีตาลไม่มีความรู้เลย ตาลเคยไปดูคุณพ่อทำงานตั้งแต่ตอนเด็กๆ เหมือนกัน จำได้ว่าเคยขอช่วยยกป้ายบอกคิว บอกว่าหนึ่งนาทีจะหมดเวลาแล้ว แต่เรื่องอื่นไม่รู้จริงๆ หากจะทำก็ต้องไปเรียนและไปฝึกงาน ตาลต้องมั่นใจว่ามีความรู้พอที่จะมาทำตรงนี้ให้พ่อ ไม่ใช่อยากทำแล้วเข้าไปเลย อันนั้นคุณพ่อก็คงไม่ยอมแน่ๆ เชื่อมั๊ยว่าของทุกชิ้นตาลไม่เคยได้มาง่ายๆ เพราะต้องแลกด้วยเหตุผลทุกครั้ง”

 
สำหรับครอบครัว ตัว ต. ของไตรตรา ที่แม้จะมีภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ครอบครัวของเธอก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น หลังเลิกงาน ทุกคนจะกลับบ้านเพื่อมารับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน หากใครคนใดคนหนึ่งติดงานหรือมีธุระ ต้องกลับดึก ก็จะมีแม่แตงคอยเฝ้ารอ เพื่อไถ่ถามถึงความเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อถึงตอนเช้า ทุกคนก็จะได้ทานอาหารเช้าร่วมกัน ก่อนออกจากบ้าน ถือเป็นวิถีชีวิตที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องนานนับ 10 ปี

“บ้านเราเรียกได้ว่าอบอุ่นมากจนร้อนอ่ะค่ะ (หัวเราะ) เราจะสนิทกันมากคุยกันทุกเรื่องทั้งเรื่องเพื่อน เรื่องงาน เรื่องแฟน ถ้ามีปัญหา “พ่อ” คือคนแรกที่นึกถึง พ่อไม่เคยเข้าข้างลูกก่อน ทุกครั้งที่มีเรื่อง พ่อจะย้อนถามว่าแล้วเธอไปทำอะไรเขาล่ะ เพื่อให้ตาลได้ทบทวน พอย้อนคิดไปปัญหาก็เริ่มจากตัวตาลที่เป็นเหมือนหนูขี้สงสัย เวลาหัวหน้าสั่งงาน บางทีไม่เข้าใจ ย้อนถามว่า ทำไมต้องแบบนี้ ? คุณพ่อสอนเลยว่า การที่เขาสั่งให้ทำก็ต้องมีเหตุผล เธอมีหน้าที่ทำก็ทำไป และถ้าวันไหนเธอได้เป็นหัวหน้าคน แล้วมีคนมาย้อนถามบ้าง เธอจะเข้าใจเองว่า ทำไมเขาถึงพูดกับเธอแบบนี้ ซึ่งประสบการณ์ตรงนี้ มันสอนให้ตาลรู้เลยว่า งานทุกชิ้นมีความหมาย”

 
ก่อนจากกัน เราอดถามถึงเรื่องผู้ชายที่เข้ามาในชีวิต เธอบอกว่าเคยมีประสบการณ์ที่ทำให้เสียใจ ครั้งนั้นทำให้รู้ว่า พ่อกับแม่รักเราแค่ไหน “ตาลพูดได้ว่า หยุดก่อน ในอนาคตถ้าผู้ชายคนไหนจะเข้ามาในชีวิตของตาลอีก ตาลต้องคิดให้มากกว่าเดิม ไม่เช่นนั้น ตาลก็จะเป็นคนที่ทำร้ายพ่อแม่และคนในครอบครัว”

กำลังโหลดความคิดเห็น