มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นโดยมีสำนักงานขนาดเล็กในวังสระปทุม แต่ด้วยการเติบโตและขยายขอบเขตของงานในวงกว้างขึ้นของ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ปัจจุบันได้จัดสร้างสำนักงานใหญ่โตโอ่อ่าของตนเอง ริม ถ.พระรามที่ 4 เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ได้รับการออกแบบโครงสร้างและคัดสรรอุปกรณ์ประหยัดพลังงานมาใช้ในสำนักงาน อาคารแห่งนี้ได้รับรางวัล Thailand Energy Award 2013 ประเภทอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลัง งานดีเด่น จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานด้วย
โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จประกอบพิธีเปิดอาคารสำนักงานอย่างเป็นทางการ โดยมี อภิลาศ โอสถานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิ, ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เฝ้ารับเสด็จ ในการนี้ทรงเจิมแผ่นศิลาฤกษ์และทรงลงพระนามาภิไธยบนผืนผ้าไหม เพื่อพระราชทานกำลังใจแก่คณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ว่า “ได้ทำงานช่วยคนอื่นถือว่าเป็นเกียรติทำให้เรามีความสุข”
จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการภาพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ขณะประทับ ณ พระตำหนักดอยตุง และทรงงานในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ แล้วเสด็จขึ้นชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนของสำนักงานและส่วนงานธุรกิจ ทอดพระเนตรภาพและข้อมูลของหน่วยงานหัตถกรรมออกแบบ อาทิ ผ้าทอ เซรามิก กระดาษสา เสื้อผ้า, ธุรกิจอาหาร ทั้งเมล็ดกาแฟและแมคคาเดเมีย ทรงชิมแมคคาเดเมียรสพิซซ่า ซึ่งเป็นรสโปรด และรสวาซาบิ, ธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจด้านเกษตรกรรม
ต่อมาเสด็จขึ้นยังชั้น 3 และ 4 ทอดพระเนตรภาพและข้อมูลศูนย์องค์ความรู้และการเรียนรู้ รวมถึงห้องทำงานฝ่ายพัฒนาและนิทรรศการผลงานศิลปะ การดำเนินงานของโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทอดพระเนตรการดำเนินงานต่างๆ ของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เป็นเวลา 1 ชม. ก่อนเสด็จกลับ ทรงเยี่ยมชมและทอดพระเนตรร้านดอยตุง ไลฟ์สไตล์ ที่ชั้น 1 ของสำนักงานจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าทอมือ กระดาษสาและเซรามิก ฝีมือชาวบ้านในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมากจากพระราชดำริ พร้อมทรงแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ดอยตุงประจำพระองค์หมายเลข 905 และสมัครเป็นสมาชิกร้านดอยตุง ไลฟ์สไตล์ หมายเลข 001
ม.ร.ว.ดิศนัดดา เผยว่า สำนักงานมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีร้านดอยตุง ไลฟ์สไตล์ ซึ่งเปิดทำการเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เป็นสถานที่จำหน่ายงานฝีมือของชาวบ้าน แม้มีราคาสูงไปบ้าง แต่การันตีว่าเป็นงานฝีมือของแท้ เป็นการเปิดโอกาสให้คนได้มีอาชีพ มีรายได้ มีศักดิ์ศรี สามารถเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง ปัจจุบันมีชาวเขาที่ได้รับเงินเดือนจากมูลนิธิฯ 1,561 คน โดยนำศาสตร์ของพระราชาที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกมาปรับใช้ พร้อมมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ อาทิ ฮาร์วาร์ด โคลัมเบีย และเคมบริดจ์ เข้ามาฝึกงาน ได้ร่วมคิดร่วมทำ ซึ่งนับเป็นการก่อให้เกิดประโยชน์แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันระหว่างเด็กต่างชาติและเด็กในมูลนิธิ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net