By Lady Manager
บูมกันจริงฮิตกันจังกับทัวร์ศัลยกรรมแห่งดินแดนเกาหลี จะโมดิฟายหนังหน้าโขกหน้าใหม่ให้สวยเรียว ทำไมจะต้องบินไปถึงเกาหลีด้วยอ่ะ ไม่กลัวหน้าเหมือนกันทรงเดียวกันเป๊ะแบบเค้าทั้งประเทศรึไง!
“จุดด้อยของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจมูกกับตา บางคนตาชั้นเดียวแต่อยากให้เป็นสองชั้น บางคนจมูกหัก ดั้งหักก็อยากให้มันโด่งขึ้นมา หรือชาวตะวันออกเฉียงเหนือมักจะมีปัญหาเรื่องโหนกแก้มสูงหรือขากรรไกรบาน
แต่ถ้าเป็นพวกเกาหลีส่วนใหญ่เขาจะมีปัญหาเรื่องโหนกแก้มกับขากรรไกรซะเยอะ เพราะเป็นกรรมพันธุ์ โครงสร้างหน้าเขาจะใหญ่มากกว่าคนไทย”
นพ. ภูดิท พึ่งจันทรเดช ศัลยแพทย์ตกแต่ง ผู้ผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งมาอย่างโชกโชนคร่ำหวอดอยู่กับคนไข้อยากสวยหน้าเป๊ะมากว่า 14 ปี บอกเล่าถึงการทำศัลยกรรมที่แตกต่างระหว่างเกาหลีกับบ้านเรา!
ศัลย์กิมจิทั้งเสริมสร้างใหม่ควบสวยงาม
“ในเรื่องการเสริมจมูกของเกาหลีจะเห็นได้ว่า สไตล์ของเกาหลีเวลาเสริมเขาจะไม่เน้นให้ดั้งสูงต่างจากคนไทย เขาไม่เน้นจมูกตรงดั้งเยอะแต่จะเน้นตรงปลายขึ้นมาเยอะ ปลายเชิดแหลมขึ้นมา ยึดกระดูกอ่อนให้สูงขึ้นมา เอากระดูกอ่อนใบหูมาเสริมตรงปลายให้เหมือนกับว่าสูงขึ้นมาเป็นหยดน้ำ เขาจะไม่เสริมเหมือนมาตรฐานบ้านเรา"
"ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่า ทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เวลาเราเทรนนิ่งทางด้านนี้มามันไม่ใช่ในส่วนเรื่อง Aesthetics หรือความสวยความงามอย่างเดียว เราจะดูในเรื่องของ Reconstruction คือ การเสริมสร้าง กับอีกเรื่องคือ Aesthetics แต่อย่างของเกาหลีเวลาเขาทำจมูกจะทำแบบ Open Rhinoplasty คือ เปิดปลายจมูก เขาจึงนำส่วนผสมของ Reconstruction เข้ามาผสมกับ Aesthetics คู่กัน
แต่ในเมืองไทยเรื่องของศัลยกรรมตกแต่ง เรามักจะแยก เหมือนกับคนไข้มีปัญหาเรื่อง Reconstruction เราก็จะทำ Reconstruction ไป เช่น กระดูก ดั้งจมูกหัก นี่หักแบบอุบัติเหตุ ไม่ได้หักแบบธรรมชาติ เบ้าตาแตก โหนกแก้มหัก หรือใบหน้ามีไฝ มีริ้วรอย แผลเป็นจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกหรือการหดของหลังมือเหยียดมือไม่ได้ปกติ หรือมีปัญหาของการผิดรูป เช่น บางคนเป็นโรค Romberg disease เหมือนกับชั้นไขมันของหน้าฝ่อไปครึ่งหนึ่ง ข้างหนึ่งปกติอีกข้างหนึ่งดูฟีบ ผอมไป จึงต้องปลูกถ่ายไขมัน เช่น เป็นการฉีดไขมัน
เรามองในเรื่องของการ Reconstruction มันจะต่างกันตรงนี้ ถ้าเป็น Reconstruction ในการเสริมสร้าง เราจะสร้างในส่วนที่คนไข้ผิดปกติ ให้กลับมาสู่ภาวะปกติให้ได้ก่อน แต่ถ้าเป็นในเรื่องของ Aesthetics หรือ Cosmetic เรื่องความสวยงาม คนไข้ปกติอยู่แต่เราจะทำไงให้สวยกว่าปกติ
และการเสริมสร้างหรือการทำศัลยกรรมความสวยงามมันจะแตกต่างกัน เพราะวัตถุประสงค์มันต่างกัน เช่น โรค Romberg disease ไม่มีไขมันเราก็ปลูกถ่ายไขมันเป็นการเสริมสร้าง แต่ถ้าคนไข้ปกติมีไขมันแต่รู้สึกว่าโหนกแก้มใหญ่ กรอให้มันเล็กลงหน่อย อันนี้เป็นเรื่องของ Aesthetics แล้ว"
"ส่วนจมูกเกาหลีเขาเอามาผสม จมูกคนเราปกติแทนที่จะเสริมด้วยซิลิโคนธรรมดา เขาจะไม่ เขาบอกว่าขอเอาโครงสร้างตรงปลายจมูกที่น้อยไปหน่อยให้สูงขึ้นมาโดยเอาเรื่องของการเสริมสร้างขึ้นมาเช่น ยกปลายจมูกขึ้นมา เอากระดูกอ่อนเข้ามาเสริมขึ้นอีก มันก็เลยเป็นการผสม 2 อย่าง ในเรื่องของ Cosmetic
คนไทยอยากจะทำแบบนี้นะแต่บางทีการเทรนนิ่งของการศัลยกรรมบ้านเราเหมือนกับว่าเราเทรนมาแยก เช่น ถ้าเราจะทำตรงปลายจมูกเราต้องการเสริมจมูกก็เน้นไปในทาง Aesthetics เลย แต่ถ้าเราบอกว่าจมูกเรามีปัญหาผิดรูป เราต้องการ Reconstruction เราก็ Reconstruction ทีนี้การที่เราไปเปิดปลายจมูกมันเหมือนกับว่าเราไปทำให้แทนที่จะทำให้เป็นคอสเมติกสวยๆ งามๆ กลายไปทำให้เกิดแผล คนไข้ก็จะเห็นแผลชัดแทนที่จะซ่อนแผลเขา คือของ Aesthetics เราพยายามที่จะหลบทุกอย่าง หลบแผลทำให้เกิดความสวยงาม ดูว่า เหมือนคนไข้ไม่ได้ไปทำอะไรมาสวยขึ้น หลบเลี่ยงแผลทุกอย่าง”
หมอไทยฝีมือชนะเลิศ แพ้เกาหลีแค่การตลาด!
“การที่มี AEC (Asean Economic Community - ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) เข้ามา หมอว่าศัลยกรรมตกแต่งจะบูมมากขึ้น เพราะคนไข้ที่หมอทำ บางคนเป็นชาวต่างชาตินะ เต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซียมาเสริมเต้านม สิงคโปร์ก็มี พม่า ลาว โดยเฉพาะพม่าทำงานในประเทศไทย ทำจมูกทำตากันเต็มไปหมดเลย แนวโน้มของศัลยกรรมในระดับเอเชียพวกที่ทำ local จะเยอะ เช่น ฉีดยาชาเฉพาะที่ ฉีดเสร็จกลับบ้าน ทำตาทำจมูกจะเยอะขึ้น
ศัลยกรรมจะบูมขึ้นมาได้ถ้าตลาดเปิดขึ้น ของเราราคาถูกนะ ในเรื่องของ Medical เพราะของเราค่าใช้จ่ายถูกมาก หมอในเมืองไทยก็เป็นที่ยอมรับ ขนาดคนไข้สิงคโปร์ยังมาเสริมเต้านมเมืองไทย ในขณะที่สิงคโปร์มีหมอศัลยกรรมเยอะแยะ"
"ค่าใช้จ่ายของเกาหลีจะสูง ถ้าเทียบกับเมืองไทย หมอเมืองไทยไม่ได้ด้อยกว่าหมอเกาหลีเลย เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่ในเรื่องของการโปรโมชั่นจะสู้เกาหลีไม่ได้ เขาประชาสัมพันธ์ตั้งแต่หนัง อาหาร ต่อมาโปรโมทเรื่องศัลยกรรม เขาพยายามขาย Asset ที่เขามีอยู่
Asset ของเกาหลีมีอะไรบ้างล่ะ วัฒนธรรมเกาหลี หนัง อาหาร ศัลยกรรม เขาพยายามโปรโมทมา เกาหลีตัดกราม กรอโหนกแก้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยหมอเรียน เขาบูมมานานแล้ว ตัดขากรรไกรใส่ขวดโหลเป็นพันๆ อัน เขาตัดมานานแล้วทั้งวันทั้งคืนเพียงแต่ว่า เขาทำประชาสัมพันธ์ Asset ที่เขามีอยู่แทนที่จะโปรโมทแค่ในประเทศ เขาก็โปรโมทออกนอกประเทศ เหมือนทำการตลาดให้เป็น International มากกว่า
ทางด้านประเทศไทยทำลำบากเพราะเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยจึงชะงัก เราไม่ได้ประชาสัมพันธ์ส่วนนี้เลย นอกจากการท่องเที่ยว ถ้าเราทำการตลาดให้ได้เหมือนเกาหลี หมอว่าไม่แพ้เขาเลย เพราะหมอศัลยกรรมเมืองไทยเก่งนะ เพียงแต่เราขาดการประชาสัมพันธ์ อาหารไทยทำไมเราไม่โปรโมทเหมือนหมูย่างเกาหลี”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
บูมกันจริงฮิตกันจังกับทัวร์ศัลยกรรมแห่งดินแดนเกาหลี จะโมดิฟายหนังหน้าโขกหน้าใหม่ให้สวยเรียว ทำไมจะต้องบินไปถึงเกาหลีด้วยอ่ะ ไม่กลัวหน้าเหมือนกันทรงเดียวกันเป๊ะแบบเค้าทั้งประเทศรึไง!
“จุดด้อยของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจมูกกับตา บางคนตาชั้นเดียวแต่อยากให้เป็นสองชั้น บางคนจมูกหัก ดั้งหักก็อยากให้มันโด่งขึ้นมา หรือชาวตะวันออกเฉียงเหนือมักจะมีปัญหาเรื่องโหนกแก้มสูงหรือขากรรไกรบาน
แต่ถ้าเป็นพวกเกาหลีส่วนใหญ่เขาจะมีปัญหาเรื่องโหนกแก้มกับขากรรไกรซะเยอะ เพราะเป็นกรรมพันธุ์ โครงสร้างหน้าเขาจะใหญ่มากกว่าคนไทย”
นพ. ภูดิท พึ่งจันทรเดช ศัลยแพทย์ตกแต่ง ผู้ผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งมาอย่างโชกโชนคร่ำหวอดอยู่กับคนไข้อยากสวยหน้าเป๊ะมากว่า 14 ปี บอกเล่าถึงการทำศัลยกรรมที่แตกต่างระหว่างเกาหลีกับบ้านเรา!
ศัลย์กิมจิทั้งเสริมสร้างใหม่ควบสวยงาม
“ในเรื่องการเสริมจมูกของเกาหลีจะเห็นได้ว่า สไตล์ของเกาหลีเวลาเสริมเขาจะไม่เน้นให้ดั้งสูงต่างจากคนไทย เขาไม่เน้นจมูกตรงดั้งเยอะแต่จะเน้นตรงปลายขึ้นมาเยอะ ปลายเชิดแหลมขึ้นมา ยึดกระดูกอ่อนให้สูงขึ้นมา เอากระดูกอ่อนใบหูมาเสริมตรงปลายให้เหมือนกับว่าสูงขึ้นมาเป็นหยดน้ำ เขาจะไม่เสริมเหมือนมาตรฐานบ้านเรา"
"ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่า ทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เวลาเราเทรนนิ่งทางด้านนี้มามันไม่ใช่ในส่วนเรื่อง Aesthetics หรือความสวยความงามอย่างเดียว เราจะดูในเรื่องของ Reconstruction คือ การเสริมสร้าง กับอีกเรื่องคือ Aesthetics แต่อย่างของเกาหลีเวลาเขาทำจมูกจะทำแบบ Open Rhinoplasty คือ เปิดปลายจมูก เขาจึงนำส่วนผสมของ Reconstruction เข้ามาผสมกับ Aesthetics คู่กัน
แต่ในเมืองไทยเรื่องของศัลยกรรมตกแต่ง เรามักจะแยก เหมือนกับคนไข้มีปัญหาเรื่อง Reconstruction เราก็จะทำ Reconstruction ไป เช่น กระดูก ดั้งจมูกหัก นี่หักแบบอุบัติเหตุ ไม่ได้หักแบบธรรมชาติ เบ้าตาแตก โหนกแก้มหัก หรือใบหน้ามีไฝ มีริ้วรอย แผลเป็นจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกหรือการหดของหลังมือเหยียดมือไม่ได้ปกติ หรือมีปัญหาของการผิดรูป เช่น บางคนเป็นโรค Romberg disease เหมือนกับชั้นไขมันของหน้าฝ่อไปครึ่งหนึ่ง ข้างหนึ่งปกติอีกข้างหนึ่งดูฟีบ ผอมไป จึงต้องปลูกถ่ายไขมัน เช่น เป็นการฉีดไขมัน
เรามองในเรื่องของการ Reconstruction มันจะต่างกันตรงนี้ ถ้าเป็น Reconstruction ในการเสริมสร้าง เราจะสร้างในส่วนที่คนไข้ผิดปกติ ให้กลับมาสู่ภาวะปกติให้ได้ก่อน แต่ถ้าเป็นในเรื่องของ Aesthetics หรือ Cosmetic เรื่องความสวยงาม คนไข้ปกติอยู่แต่เราจะทำไงให้สวยกว่าปกติ
และการเสริมสร้างหรือการทำศัลยกรรมความสวยงามมันจะแตกต่างกัน เพราะวัตถุประสงค์มันต่างกัน เช่น โรค Romberg disease ไม่มีไขมันเราก็ปลูกถ่ายไขมันเป็นการเสริมสร้าง แต่ถ้าคนไข้ปกติมีไขมันแต่รู้สึกว่าโหนกแก้มใหญ่ กรอให้มันเล็กลงหน่อย อันนี้เป็นเรื่องของ Aesthetics แล้ว"
"ส่วนจมูกเกาหลีเขาเอามาผสม จมูกคนเราปกติแทนที่จะเสริมด้วยซิลิโคนธรรมดา เขาจะไม่ เขาบอกว่าขอเอาโครงสร้างตรงปลายจมูกที่น้อยไปหน่อยให้สูงขึ้นมาโดยเอาเรื่องของการเสริมสร้างขึ้นมาเช่น ยกปลายจมูกขึ้นมา เอากระดูกอ่อนเข้ามาเสริมขึ้นอีก มันก็เลยเป็นการผสม 2 อย่าง ในเรื่องของ Cosmetic
คนไทยอยากจะทำแบบนี้นะแต่บางทีการเทรนนิ่งของการศัลยกรรมบ้านเราเหมือนกับว่าเราเทรนมาแยก เช่น ถ้าเราจะทำตรงปลายจมูกเราต้องการเสริมจมูกก็เน้นไปในทาง Aesthetics เลย แต่ถ้าเราบอกว่าจมูกเรามีปัญหาผิดรูป เราต้องการ Reconstruction เราก็ Reconstruction ทีนี้การที่เราไปเปิดปลายจมูกมันเหมือนกับว่าเราไปทำให้แทนที่จะทำให้เป็นคอสเมติกสวยๆ งามๆ กลายไปทำให้เกิดแผล คนไข้ก็จะเห็นแผลชัดแทนที่จะซ่อนแผลเขา คือของ Aesthetics เราพยายามที่จะหลบทุกอย่าง หลบแผลทำให้เกิดความสวยงาม ดูว่า เหมือนคนไข้ไม่ได้ไปทำอะไรมาสวยขึ้น หลบเลี่ยงแผลทุกอย่าง”
หมอไทยฝีมือชนะเลิศ แพ้เกาหลีแค่การตลาด!
“การที่มี AEC (Asean Economic Community - ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) เข้ามา หมอว่าศัลยกรรมตกแต่งจะบูมมากขึ้น เพราะคนไข้ที่หมอทำ บางคนเป็นชาวต่างชาตินะ เต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซียมาเสริมเต้านม สิงคโปร์ก็มี พม่า ลาว โดยเฉพาะพม่าทำงานในประเทศไทย ทำจมูกทำตากันเต็มไปหมดเลย แนวโน้มของศัลยกรรมในระดับเอเชียพวกที่ทำ local จะเยอะ เช่น ฉีดยาชาเฉพาะที่ ฉีดเสร็จกลับบ้าน ทำตาทำจมูกจะเยอะขึ้น
ศัลยกรรมจะบูมขึ้นมาได้ถ้าตลาดเปิดขึ้น ของเราราคาถูกนะ ในเรื่องของ Medical เพราะของเราค่าใช้จ่ายถูกมาก หมอในเมืองไทยก็เป็นที่ยอมรับ ขนาดคนไข้สิงคโปร์ยังมาเสริมเต้านมเมืองไทย ในขณะที่สิงคโปร์มีหมอศัลยกรรมเยอะแยะ"
"ค่าใช้จ่ายของเกาหลีจะสูง ถ้าเทียบกับเมืองไทย หมอเมืองไทยไม่ได้ด้อยกว่าหมอเกาหลีเลย เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่ในเรื่องของการโปรโมชั่นจะสู้เกาหลีไม่ได้ เขาประชาสัมพันธ์ตั้งแต่หนัง อาหาร ต่อมาโปรโมทเรื่องศัลยกรรม เขาพยายามขาย Asset ที่เขามีอยู่
Asset ของเกาหลีมีอะไรบ้างล่ะ วัฒนธรรมเกาหลี หนัง อาหาร ศัลยกรรม เขาพยายามโปรโมทมา เกาหลีตัดกราม กรอโหนกแก้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยหมอเรียน เขาบูมมานานแล้ว ตัดขากรรไกรใส่ขวดโหลเป็นพันๆ อัน เขาตัดมานานแล้วทั้งวันทั้งคืนเพียงแต่ว่า เขาทำประชาสัมพันธ์ Asset ที่เขามีอยู่แทนที่จะโปรโมทแค่ในประเทศ เขาก็โปรโมทออกนอกประเทศ เหมือนทำการตลาดให้เป็น International มากกว่า
ทางด้านประเทศไทยทำลำบากเพราะเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยจึงชะงัก เราไม่ได้ประชาสัมพันธ์ส่วนนี้เลย นอกจากการท่องเที่ยว ถ้าเราทำการตลาดให้ได้เหมือนเกาหลี หมอว่าไม่แพ้เขาเลย เพราะหมอศัลยกรรมเมืองไทยเก่งนะ เพียงแต่เราขาดการประชาสัมพันธ์ อาหารไทยทำไมเราไม่โปรโมทเหมือนหมูย่างเกาหลี”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
