ART EYE VIEW---คงมีโอกาสไม่มากนักที่เด็กๆจะได้เรียนรู้การทำงานศิลปะจากปูชนียบุคคลของวงการศิลปะ
จึงถือเป็นโอกาสดีที่ล่าสุด บริษัท นานมี จำกัด ได้จัดกิจกรรมเวิร์คชอป “นวัตกรรมการลากและระบาย” โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ อารี สุทธิพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) มาเป็นวิทยากรพิเศษในถ่ายทอดเทคนิคการลากและระบายให้แก่เยาวชนไทยอย่างใกล้ชิด
กิจกรรมนี้ นอกจากจะมีเด็กๆมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากแล้ว ยังได้รับความสนใจจากพ่อแม่ผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรมด้วยอย่างล้นหลาม บรรยากาศของกิจกรรม ซึ่งมีขึ้น ณ นานมี อาร์ตแกลเลอรี่ ถ.สาทร จึงเต็มไปด้วยความอบอุ่น
นางปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมี จำกัด กล่าววว่าช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม เป็นช่วงที่เด็กๆปิดเทอมและมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน สมาชิกในบ้านได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สมาชิกในบ้านจะหากิจกรรมสนุกๆที่ใช้เวลาไม่นานทำร่วมกันไม่ยาก
ศิลปะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะเชื่อมโยงหัวใจของทุกคนในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน นานมีจึงได้จัดกิจกรรมให้สมาชิกในบ้านได้มาทำงานศิลปะร่วมกัน ผ่านการลากเส้นและระบายโดยไม่ใช้พู่กัน ในสไตล์ ศาสตราจารย์พิเศษ อารี ซึ่ง มีความเป็นอิสระ ไม่มีแบบแผน ไม่มีกรอบกติกา ก่อให้เกิดความสุขสำหรับผู้ลงมือทำทุกเพศทุกวัย และทำให้สมาชิกในครอบครัวมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน
ศาสตราจารย์พิเศษ อารี กล่าวว่า การทำงานศิลปะให้ได้ดีนั้น ต้องไม่รู้ว่าศิลปะคืออะไร เพราะถ้ารู้ว่าศิลปะคืออะไร เป็นอะไร เป็นการกำหนดกรอบความคิด ยึดติดกับแนวคิดเดิมของตนเอง เพราะแท้จริงแล้วศิลปะเป็นเรื่องสนุก อิสระ และพบเห็นได้ในสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน
ผมสังเกตได้ว่า กิจกรรมครั้งนี้เด็กๆมีความสุขและสนุกกันมาก เพราะผู้สอนจัดประสบการณ์ขึ้นมาให้เด็กๆได้เรียนรู้ ได้ปลดปล่อยจินตนาการ ได้สร้างสรรค์ความคิดและมุมมองใหม่ๆที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสจากการเรียนศิลปะมาก่อน
โดยวันนี้เป็นการลองทำศิลปะในรูปแบบของการรับรู้ทางสายตา (Visual Perception) แล้วนำมาพัฒนาสู่นวัตกรรมศิลปะใหม่ๆผ่านความรู้สึก(Visual sensation) พูดง่ายๆคือเมื่อเด็กๆมองเห็น ก็จะเกิดเป็นความคิดและภาพในใจร่วมด้วย เมื่อเด็กๆลากหรือระบายตามสิ่งที่รับรู้ที่มองเห็นนั้น จึงเกิดการคิด ปรับ สร้างสรรค์ สอดคล้องกับนิยามที่ว่า “ศิลปะที่เห็น คือประสบการณ์” นั่นเอง ผลงานศิลปะที่ออกมานั้นจึงไม่มีผิดถูก ไม่มีว่าภาพต้องเหมือนกับภาพต้นแบบหรือสิ่งที่เป็นต้นแบบในการมองเห็น ไม่มีการคาดหวังผลที่จะได้รับ จึงทำให้ปล่อยใจไปกับการทำงานศิลปะอย่างเต็มที่
น้องต้องหนึ่ง - ด.ช.สุดเลิศ เลิศสุดวิชัย อายุ 7 ขวบ ได้เป็นตัวแทนของสมาชิก ครอบครัวเลิศสุดวิชัย ที่ยังประกอบด้วย คุณพ่อวีรยุทธ เลิศสุดวิชัย และ น้องต้องสู้ - ด.ช.พงศ์ไพโจน์ เลิศสุดวิชัย อายุ 11 ปี เล่าว่า
“ปกติผมเรียนศิลปะมาตลอดเพราะชอบที่จะวาดและระบายจนได้รางวัลมาหลายรางวัลแล้ว แต่วันนี้แปลกมาก อาจารย์สอนให้ลองทำงานศิลปะแบบใหม่ ที่ไม่ได้เน้นวาดภาพให้เหมือน ไม่ได้มองเห็นสิ่งรอบด้านในลักษณะของแสงและเงาตามที่เคยเรียนกันมา แต่ให้มองในรูปแบบของรูปร่างและพื้น ให้ลองทำอะไรใหม่ๆเช่นใช้ขวดบรรจุสีระบายเป็นรูปร่างแทนการใช้ดินสอ เราต้องบีบขวดไปตามความคิดและรูปในใจ โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะเหมือนของจริงหรือไม่ เป็นการลากเส้นแบบลื่นไหลเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องเกร็งมือเหมือนเวลาเราใช้ดินสอหรือปากกาครับ ผมและน้องชายและคุณพ่อสนุกมากช่วยกันลองผิดลองถูก ได้เป็นผลงานที่พวกเราภูมิใจครับ”
ด้าน น้องใจใส - ด.ญ.พิมพ์พิศา เพชรสิงโต อายุ 6 ขวบ ซึ่งมากับคุณพ่อ นภาเศรษฐ เพชรสิงโต บอกเล่าว่า
“หนูสนุกมากค่ะ ตอนแรกก็รู้สึกว่ายาก แต่ก็ทำได้เพราะคุณพ่อกับพี่ๆคอยช่วย หนูชอบสีสันสดใส วันนี้วันหยุดคุณพ่อมาระบายสีกับหนู สนุกและมีความสุขมาก เพราะปกติคุณพ่อยุ่งมากเพราะต้องไปทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ แต่หลังจากนี้หนูจะชวนคุณพ่อลองทำแบบนี้เองที่บ้านบ้าง สำหรับผลงานที่ทำวันนี้ หนูจะเอาไปติดไว้ข้างเตียงนอนค่ะ”
ขณะที่คุณพ่อนภาเศรษฐกล่าวว่า “การทำกิจกรรมครั้งนี้ฝึกให้น้องใจใสได้เจอคนแปลกหน้าหลากหลายวัย รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง พูดจาอย่างไร เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น ฝึกฝนความอดทน การรู้จักรอคอยในการต่อคิว การฝึกด้านกายภาพเกี่ยวกับกล้ามเนื้อมือ ที่สำคัญเป็นการเปิดโลกกว้างด้านศิลปะให้ลูกได้มาเรียนรู้ครับ”
ปิดท้ายที่ครอบครัวของ น้องแพรว - ด.ญ.นิชานันท์ ชูวิทย์ อายุ 12 ปี ที่มาพร้อม คุณพ่อไพบูลย์ และคุณแม่เพ็ญรุ่ง ชูวิทย์ บอกว่า
“ช่วงนี้ปิดเทอมมีเวลาว่างเยอะก็รู้สึกเบื่อ ลองมาเรียนศิลปะพร้อมพ่อกับแม่รู้สึกว่าเรียนหลายๆคนแล้วสนุกดีค่ะ ได้ทำอะไรที่หนูไม่เคยทำ ไม่ใช่แค่วาดภาพแล้วเอาพู่กันจุ่มสีระบาย แต่วันนี้ได้ลองเทคนิคศิลปะแบบใหม่ๆ รู้สึกลุ้นมากเลยว่าเราจะทำออกมาเป็นยังไง อย่างตอนปาดสีเป็นเหมือนการระบาย แต่สีจะออกมาเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของมือเรา ต้องมีสมาธิด้วย ยิ่งพ่อกับแม่มาร่วมเรียนด้วย ในระหว่างที่ทำ ได้พูดคุย ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับท่าน รู้สึกมีความสุขค่ะ”
ในช่วงวันหยุดนี้ น้องๆอย่าลืมชวนคุณพ่อคุณแม่มาลองทำกิจกรรมสนุกๆ ซึ่งใช้เวลาไม่มาก ราคาไม่แพง เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นและอบอุ่น
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ www.facebook.com/arteyeviewnews