xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตหลังแต่งงาน และทายาทในท้อง 3 เดือน ของ “หญิงแอร์- ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล” และ “พันโทวรรธ อุบลเดชประชารักษ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>Celeb Online ขอส่งท้ายเดือนแห่งความรัก ด้วยการพาคุณผู้อ่านไปเยือนบ้านคู่รักที่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อไม่นานมานี้ จนกลายเป็น “ทอล์ฟ ออฟ เดอะ ทาวน์” เพราะหญิงสาวเป็นถึงราชนิกูลส่วนฝ่ายชายเป็นลูกนายพลทหาร ซึ่งจะเป็นใครเป็นไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เธอ “หม่อมราชวงศ์จันทรลัดดา ยุคล” และเขา “พันโทวรรธ อุบลเดชประชารักษ์” ที่เกิดจากการมีพ่อสื่อแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน จนวันนี้มีทายาทในท้องแล้ว 3 เดือน ส่วนเรื่องราวของทั้งคู่จะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน คงต้องไปติดตามกัน!

หญิงสาวจากตระกูลยุคล

ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นสาวเทรนดี้ครบเครื่องทั้งรูปสมบัติและชาติตระกูล แถมสไตล์การแต่งตัวยังอินเทรนด์โฉบเฉี่ยวสะกดสายตาทุกคู่ให้เราคุ้นตากับสาวสังคมอย่าง “หม่อมราชวงศ์จันทรลัดดา ยุคล” หรือ “หญิงแอร์” ลูกสาวของ “หม่อมเจ้าจุลเจิม” กับ “หม่อมศิริพร ยุคล ณ อยุธยา” หลานสาวคนสวยของเสด็จลุง “ท่านมุ้ย-หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล”

หญิงแอร์เรียนชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนราชินีบน แล้วไปเรียนต่อปริญญาตรีที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต หากเจาะลึกถึงความชอบส่วนตัวแล้ว เธอมีความชื่นชอบในเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้า และได้ผ่านการทำงานในสายงานด้านนี้จากแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Nautica Cerruti ก่อนจะออกมาทำแบรนด์ฟลามิงโก้เป็นของตัวเอง ควบคู่ไปกับการทำงานด้านอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านประชาสัมพันธ์ การเป็นที่ปรึกษาด้านสไตล์การแต่งตัวให้กับแบรนด์ TopShop และเธอเองยังเคยเป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์ของท่านมุ้ยอีกด้วย

“แอร์ทำทุกอย่างที่คนอื่นหยิบยื่นให้ และไม่ปฏิเสธโอกาส เคยเล่นหนังของท่านมุ้ยด้วย เรื่อง “ความรักครั้งสุดท้าย” รู้สึกว่ายากและไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบ ท่านลุงมาชวน เราก็เลยตอบตกลงรับเล่น พอเล่นเสร็จแล้วรู้สึกว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เพียงแต่เรามีโอกาสก็ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่อะไรที่เหนือบากว่าแรงก็จะไม่ฝืนมัน!

ที่จริงชอบงานดีไซน์มากกว่า แต่งานพีอาร์มันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากมาย ทำให้เราเติบโตขึ้น แอร์ได้คลุกคลีอยู่ในสังคม ไปเป็นแขกร่วมงานในอีเวนต์ต่างๆ ได้รู้จักผู้คนมากหน้าหลายตา ทำให้ช่วยเหลือเรื่องการทำธุรกิจได้ ซึ่งลองทำมาหลายอย่างแต่สิ่งที่รักที่สุดและชอบที่สุด นั่นก็คือ แฟชั่น!

เมื่อก่อนหญิงแอร์ทำงานประจำด้านพีอาร์อยู่ที่สยามพารากอนด้วย แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว เพราะว่ากำลังมีท้องได้ 3 เดือน ก็เลยออกมาดูแลครรภ์ และเตรียมจะทำแบรนด์ฟลามิงโก้อย่างจริงจังมากขึ้น”

ฟลามิงโก้ บาย หญิงแอร์

สำหรับแบรนด์ “ฟลามิงโก้” ที่ผู้ซึ่งหลงใหลในแบรนด์ของไทยดีไซน์เนอร์คุ้นกันดี วันนี้โลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นเมืองไทยมาเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว จากการก่อตั้งของหุ้นส่วน 5 คน จากตระกูลยุคล แต่ในวันนี้ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานที่ตัวเองถนัด อย่างไรก็ดี หญิงแอร์ผู้เป็นแกนหลักของร้านฟลามิงโก้ตั้งแต่ต้น เธอเป็นทั้งคนที่ริเริ่มความคิดในการตั้งร้าน เป็นเจ้าของไอเดียชื่อฟลามิงโก้ และสไตล์สินค้าของร้านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสินค้าทุกชิ้น เป็นทั้งดีไซเนอร์ และเป็นทั้งผู้ควบคุมการผลิต ซึ่งเธอยังคงเดินหน้าสนุกกับแบรนด์ของเธอต่อไป ทำให้วันนี้กลายเป็น “ฟลามิงโก้ บาย หญิงแอร์” แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนมาทางดีไซน์ แต่หญิงแอร์ก็ใช้ความชอบและการศึกษาเสื้อผ้าวินเทจด้วยตัวเองมาสร้างแรงบันดาลใจ

เสื้อผ้าในแบบของ “ฟลามิงโก้” นั้น หญิงแอร์ดีไซเนอร์หลักของร้านบอกว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นสไตล์วินเทจ เพราะตัวหญิงแอร์เองชอบเสื้อผ้าวินเทจมานาน เนื่องจากมีรายละเอียดในตัวของมันเอง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการตัดเย็บ การจับเดรป ที่ทำให้เสื้อผ้าดูมีเสน่ห์ แล้วเธอก็นำมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อการมิกซ์แอนด์แมตช์ที่ง่ายขึ้น

“ด้วยความที่ชอบเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ จึงทำให้มีเสื้อผ้าวินเทจที่เราเคยซื้อสะสมไว้เยอะ บางตัวเราก็นำมาเป็นแบบบ้าง โดยหยิบหัวใจหลักมาแล้วใส่ความสมัยใหม่เข้าไปหน่อย ทำให้เสื้อผ้าใส่ง่ายขึ้น ในช่วงแรกๆ อยากทำแบบดั้งเดิม แต่รู้สึกว่าบางครั้งอาจจะใส่ยากเกินไป จึงมีการปรับปรุงไปเรื่อยๆ

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกระโปรงยาวทรงสอบ Pencil Skirt กางเกงเอวสูง สไตล์เรียบๆ และไม่มีโป๊เด็ดขาด เพื่อนๆ ยังพูดเลยว่าเสื้อผ้าที่เราทำเรียบร้อยมากๆ แต่นั่นก็คือสไตล์ของเรา เพราะส่วนตัวชอบคนแต่งตัวเนี้ยบ โก้ หรือถ้าจะเซ็กซี่ก็ต้องแอบเซ็กซี่ ไม่เซ็กซี่อย่างเปิดเผย เน้นลูกเล่นให้กับเสื้อผ้ามากขึ้น
ตอนนี้เราดูแลเองทั้งหมดเต็มตัว เพราะว่าหุ้นส่วนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว แต่นี่คืองานที่แอร์รัก เราสร้างมากับมือ ยังไงก็จะทำต่อไป เหนื่อยหน่อย แต่ตอนนี้พี่ช้าง (สามี) เข้ามาช่วยวางระบบให้เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

เราไม่ได้คิดว่าแบรนด์เราจะต้องใหญ่โต แค่อยากให้แบรนด์อยู่ได้ เราไม่ได้ทำเพื่อการแข่งขัน แต่ทำเพราะรักที่จะทำเสื้อผ้าสไตล์นี้ และอยากให้คนได้ลองใส่เสื้อในสไตล์ที่เป็นแนวของฟลามิงโก้ อยากให้มีแฟน มีคนรักฟลามิงโก้มากขึ้น”

สาวแนว New Vigtage เรียบโก้ ไม่ตกยุค

สำหรับสไตล์การแต่งตัว ด้วยหน้าที่การงานบวกกับความชอบส่วนตัวในเรื่องเสื้อผ้า ทำให้หญิงแอร์ใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัวให้ทันสมัย และดูดีอยู่ตลอดเวลา อย่างการเลือกซื้อเสื้อผ้า เธอก็จะเลือกที่ตัวเองชอบเป็นหลัก ใส่แล้วต้องดูดีและเหมาะกับตัวเอง โดยหลักสำคัญในเลือกซื้อเสื้อผ้าเธอได้แนะนำว่า ควรดูที่สไตล์ สีสัน รูปแบบ และการตัดเย็บ และที่สำคัญคือ ต้องลองเสื้อผ้าทุกครั้งก่อนซื้อ เพราะเรามองด้วยตาเปล่าจะไม่รู้เลยว่าสวยหรือไม่สวย

“แอร์กับสไตล์การแต่งกาย ส่วนมากก็จะเป็นการมิกซ์แอนด์แมตซ์เสื้อผ้าให้เข้ากับยุค บุคลิก และโอกาสที่สวมใส่ แต่จะชอบใส่กางเกงมากกว่ากระโปรง แต่อย่างกางเกงเอวสูงหรือจัมป์สูทเป็นสิ่งที่หญิงชอบมากใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ

ที่จริงเสื้อผ้าบางตัวที่เราคิดว่าซื้อทิ้งไว้นาน แล้วดูตกยุคไม่อินเทรนด์ ก็จะลองนำมาประยุกต์ดีไซน์ใหม่ โดยอาจจะเลือกกางเกงหรือกระโปรงที่มีสีสันตัดกับเสื้อ แล้วตกแต่งด้วยเครื่องประดับจำพวก สร้อย กำไล ต่างหู เข็มขัด ที่ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา ประกอบกับการเลือกใส่รองเท้าที่ดูแล้วไม่กลืนกันกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่ก็ดูไม่โดดจากเสื้อผ้าด้วย ก็สามารถเป็นสาวมั่นสไตล์มิกซ์แอนด์แมตซ์ได้”

ชายชาติทหารเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้!

ได้เวลามาทำความรู้จักกับชายหนุ่มผู้ที่หญิงแอร์มั่นใจจะฝากชีวิตไว้กับเขาตลอดไปกันบ้าง เขาอาจไม่ใช่ชายหนุ่มผู้โก้หรูออกงานสังคม แต่เขาเป็นผู้ชายที่พร้อมจะดูแลหญิงแอร์ตลอดชีวิต เขาคือ “พันโทวรรธ อุบลเดชประชารักษ์” หรือ ผู้พันช้าง ชายชาติทหาร ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 19 จังหวัดกาญจนบุรี

ผู้พันช้างจบจากโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์ตช์ ประเทศอังกฤษ ด้วยความที่ทั้งครอบครัวตั้งแต่คุณปู่ คุณพ่อ คุณอา คุณน้า ก็เป็นทหารกันหมด เขาจึงค่อนข้างผูกพันกับอาชีพนี้ เมื่อเรียนจบจึงกลับมารับราชการทหารอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

“สมัยเด็กๆ เราไม่ใช่คนเรียบร้อยเท่าไหร่ ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ เรียกว่าซ่าเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เรามีสำนึกและถูกปลูกฝังมาจากครอบครัว ครอบครัวคุณพ่อเป็นทหาร คุณแม่ก็เป็นคนมีวินัยในการใช้ชีวิต จำได้ว่าตอนเด็กๆ คุณพ่อไปรับราชการต่างจังหวัด พอปิดเทอมก็ไปอยู่กับคุณพ่อวิ่งเล่นอยู่ในค่ายทหาร หัดขับรถก็หัดในค่ายทหาร ทำให้เราซึมซับทุกอย่างมา

พอเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ที่โรงเรียนเตรียมอุดมเราก็เลยสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์ตช์ ประเทศอังกฤษ การสอบเข้าเป็นลักษณะของการสัมภาษณ์โดยทูตทหารอังกฤษ ประจำประเทศไทย เขาเห็นความมุ่งมั่น ก็เลยให้โอกาสเรา

ผมเป็นคนที่ทำอะไรต้องทำให้ดี เมื่อมีโอกาสไปเรียนก็เรียนเต็มที่ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าโรงเรียนนายร้อยทั่วๆ ไปมี 2 แบบ คือ แบบแนวตั้งกับแบบแนวนอน ของประเทศไทยจะเหมือนกับของสหรัฐอเมริกาที่เป็นแบบแนวนอน คือเรียนทั้งเรื่องของวิชาทหารและวิชาการ ส่วนแบบแนวตั้งจะเป็นของอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อันนั้นจะเรียนวิชาทหารอย่างเดียวและมีการฝึกหนักมาก

พอเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์ตช์ก็กลับมารับราชการอยู่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า แล้วก็เรียนหลักสูตรรบ หลักสูตรจู่โจม กระโดดร่ม เพิ่มเติ่ม จากนั้นได้ไปเป็นครูฝึกทหาร ก่อนจะเข้าเรียนที่โรงเรียนเสนาธิการฯ จบแล้วก็ไปรับราชการที่หน่วยบังคับการกองพันจังหวัดกาญจนบุรี มีความรับผิดชอบค่อนข้างมาก เรามีผู้ใต้บังคับบัญชาประมาณ 1,000 คน ที่เราต้องดูแล

ผมประจำที่นั่นได้ปีกว่า สนิทกับลูกน้อง ผู้พันเป็นตำแหน่งที่เราเห็นคนที่ทำงานกับเราอย่างใกล้ชิด เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ถ้าเรารักเขาเขาก็รักเรา อาชีพนี้คือยอมที่จะสละชีวิตได้ นี่คือสังคมของทหาร ซึ่งผมเองก็รักในอาชีพทหาร”

สไตล์ผู้ชายยังไงก็ไม่เคยเรียบ!

อีกภาคหนึ่งของชายชาติทหารอย่างพันโทวรรธ แม้จะใช้ชีวิตอยู่ในวินัยและกฎเกณฑ์ แต่เขาก็ยังมีชีวิตแบบชายหนุ่มทั่วไปที่ยังต้องการสีสันให้กับชีวิต ซึ่งสีสันชีวิตของเขาฟังแล้วก็สนุกแบบสุดเหวี่ยงเอาการเหมือนกัน

“เมื่อก่อนผมก็เที่ยวมาเยอะ แต่เดี๋ยวนี้เบื่อแล้ว เราผ่านมาหมด จนเดี๋ยวนี้ไม่ได้ค่อยเที่ยวเหมือนแต่ก่อน มีช่วงหนึ่งเคยออกงานกลางคืน แล้วก็ไปเที่ยวกลางคืนทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เป็นเวลา 8 เดือน พอดีตอนนั้นผมเป็นผู้หมวดแล้วผู้พันที่ผมติดตามเขาชอบออกงานกลางคืน เราก็ต้องไปดูแล ที่เคยหนักที่สุดคือไปแล้วกลับมาที่กองพันตี 5.50 น. ได้นอน 5 นาที ตื่นมาอาบน้ำ แล้วรถออก 6 โมงเช้า ที่สำคัญคือต้องเข้าป่า 10 วัน เป็นประสบการณ์ที่เหนื่อยมาก แต่อาชีพนี้สอนให้เราเป็นคนมีความรับผิดชอบเที่ยวกลับมาเหนื่อยยังไง เราต้องตื่นมาเข้าแถว วิ่งกับลูกน้องให้ได้ เราจะสั่งอะไรเขาเราต้องทำให้ได้ เขาถึงจะเชื่อถือเรา

ผมเป็นคนมีวินัย เราปกครองแบบให้เกียรติกัน พยายามสอนลูกน้องตลอด ว่า “อย่าโกหก” ซึ่งถ้าเขาโกหกเราก็จับได้ตลอด เพราะทหารจะมีความเกรงใจผู้บังคับบัญชา ถ้าเขาโกหกมาเราเน้นถามไปอีกทีเขาก็ยอมบอกความจริงแล้ว

อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ถ้ามองประวัติศาสตร์ไทย ทหารมีส่วนร่วมตั้งแต่ก่อร่างสร้างชาติ อย่ามองว่าเป็นอาชีพที่ลำบาก ขอฝากว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีวินัย รักพวกรักพ้อง สังคมทหารช่วยเหลือกัน สามัคคี มีวินัย ถ้าเข้ามาทำอาชีพนี้ด้วยใจแล้วจะสนุก”

รักตรงประเด็น ชัดเจน!

เป็นอีกคู่ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องความรักจากการมีพ่อสื่อแม่ชัก โดยสองคนที่เป็นกามเทพในครั้งนี้ก็คือคู่สวีทที่แต่งงานกันไปก่อนหน้านี้อย่าง “เสธดอลล่าร์-พ.อ.พัชร รัตตกุล” กับ “หญิงแมงมุม-ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล” ซึ่งทั้งคู่มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว และเมื่อสบโอกาสเหมาะจึงจับคู่ให้ผู้พันช้างกับหญิงแอร์มาเจอกัน เพื่อศึกษานิสัยใจคอว่าจะไปกันได้หรือไม่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการจับคู่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามทีเดียว จนวันนี้ทั้งคู่ต่างก็ตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน

ช่วยเล่าบรรยาศตอนที่เจอกันครั้งแรกให้ฟังหน่อย?
ผู้พันช้าง :: “เราเจอกันผ่านๆ มานานแล้ว บางครั้งเจอกันยกมือสวัสดี บางครั้งก็เดินสวนกันไปสวนกันมา 3-4 ปีแล้ว แต่ที่เจอกันอย่างจริงจัง คือตอนที่พี่ดอลล่าร์จัดการเซ็ตอัพดินเนอร์ให้มาเจอกันที่บ้านของ แพท พรประภา ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกว่าหญิงแอร์น่ารักดี”

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “ปิ๊งหนูล่ะสิ (หัวเราะ) การพบกันวันนั้นแอร์รู้กำหนดการล่วงหน้า เพราะแมงมุมบอกว่าอยากให้รู้จักพี่ช้าง ซึ่งเราเองก็เคยได้ยินชื่อพี่เขามานาน แต่ก่อนหน้านี้ต่างคนต่างมีแฟนก็ไม่ได้คิดอะไรกัน พอนัดมาเจอกันก็คุยกันถูกคอ แล้ววันถัดมาพี่ช้างก็นัดทานข้าวกลางวันอีก จึงพัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ

ผู้พันช้าง :: “เรามาเจอกันในช่วงที่โสดต่างคนต่างโส ก่อนหน้านี้ผมโสดมาเป็นปีนะ แล้วพี่ดอลล่าร์ก็มาแนะนำให้เรารู้จักกัน”

ประทับใจอะไรในตัวกันและกัน?
ผู้พันช้าง :: “ผมรู้สึกว่าเขาจริงใจ สนุกสนาน อยู่ด้วยแล้วอารมณ์ดี วันแรกที่พาไปกินข้าวกลางวันก็กินอะไรกันง่ายๆ ไม่ได้เริศหรูเสมือนว่าเขาเป็นราชนิกูลแต่อย่างใด หรืออย่างวันแรกที่ไปรับเขาที่บ้านยังไปกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นง่ายๆ เลย

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “พี่เขามีความพยายาม อย่างช่วงที่เดทกันพี่ช้างก็มาหาบ่อย พาไปทานข้าวบ้าง ตอนนั้นแอร์ทำงานอยู่ TopShop ที่เซ็นทรัลเวิล์ด พอช่วงวันเสาร์-อาทิตย์พี่ช้างกลับจากกาญจนบุรี เขาก็จะรีบมาเจอแอร์ที่กรุงเทพฯ ทันที”

เรามีวิธีการดูแลความรักของเราอย่างไรในช่วงที่ไม่ค่อยได้เจอกัน?
ผู้พันช้าง :: “ผมไม่ค่อยอยู่กรุงเทพฯ เพราะประจำอยู่ที่กาญจนบุรี แต่จะกลับมาบ้านก็ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมใช้วิธีเปิดอกคุยกันเลยว่าชอบ-ไม่ชอบอะไร ผมบอกเลยว่าผมนิสัยอย่างนี้นะ เราทำงานเป็นทหาร งานรูปแบบนี้ เราจริงจังกับงานและจริงจังกับครอบครัว คุยกันให้เคลียร์ เพราะถ้าไม่เคลียร์ก็จะเกิดการเข้าใจผิดแล้วมีปัญหาตามมา มีเรื่องอะไรเราเล่าให้เขาฟัง เขามีอะไรก็เล่าให้เราฟัง คุยกันแล้วรับได้ก็โอเค. ตอนแรกเขาอาจจะงงๆ กับวิถีชีวิตของผม ผมก็พาเขาไปดูการทำงานจริงๆ ของผมเลย อย่างบางทีนั่งกันอยู่จะไปกินข้าวกัน แต่ไปไม่ได้แล้ว เพราะมีงานด่วนเข้ามา ซึ่งเขาก็เข้าใจ จะงอนไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะนี่คืองานของเรา (หันไปมองหน้าหญิงแอร์แบบยิ้มๆ)

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “ไม่ได้งอน แค่คิดถึง (พร้อมแสดงอาการเขินอายเล็กน้อย) เราคุยกันตรงๆ บอกกันมาเลย พี่ช้างบอกมาแอร์ก็รับได้ ซึ่งเราก็รับได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าแกล้งรับได้ เราก็ไม่ได้เป็นคนขี้น้อยใจ”

ผู้พันช้าง :: “เราไม่ได้ไปทำอะไรที่เหลวไหล อายุเยอะแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ก็เลยคุยกันเข้าใจ โชคดีที่ผมกับหญิงแอร์ไม่ชอบที่จะมาใช้เวลาศึกษากันนานๆ เราคุยกันตรงๆ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา”
บรรยากาศงานแต่งงาน และ รถยนต์ Nissan Figaro ของขวัญวันแต่งงานที่พี่ช้างมอบให้หญิงแอร์
แล้วอย่างนี้ใครโทรหาใครก่อน?
ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “พี่ช้างไม่ค่อยชอบคุยโทรศัพท์ ตั้งแต่สมัยจีบกันแล้ว เขาจะคุยสั้นๆ ได้ใจความ

ผู้พันช้าง :: ไม่รู้จะคุยอะไร เขาก็เคยถามว่าเคยคุยนานๆ มั๊ย ผมว่าถ้าเราเข้าใจกัน คุยกันรู้เรื่องไม่ต้องคุยกันนานหรอก”

อะไรที่ทำให้รู้สึกว่าอยากแต่งงานกัน?
ผู้พันช้าง :: “ก่อนหน้านี้เราก็ควงคนโน้นคนนี้ปกติ ไม่ได้คิดว่าจะจริงจังกับใคร พอถึงเวลาปุ๊ป เจอหญิงแอร์ คบหากัน ไปไหนมาไหนกันสองคน ดูเรื่องอายุก็สมควรที่จะแต่งงานแล้ว เราอยากสร้างครอบครัว อยากมีลูก ตกลงปลงใจกันและเราก็เปิดไพ่หมดแล้ว ว่าข้อไม่ดีของเราคืออะไร”

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “เราแชร์กันนะ เรื่องที่เป็นข้อไม่ดีของแต่ละคนส่วนใหญ่มันจะเป็นเรื่องตลก เมื่อเราสองคนรับได้ก็โอเค. พี่ช้างชอบให้เชื่อฟัง ไม่โกหก ให้เกียรติกัน

ผู้พันช้าง :: “คนเราถ้าอยู่ด้วยกัน โกหกครั้งแรก มันก็จะมีครั้งที่สอง สาม ตามมา แล้วมันก็จะกลายเป็นโกหกกันไปเรื่อยๆ สู้ว่าบอกกันตรงๆ ก็จบ ผมเคยโกหกคุณแม่ตอนเด็กๆ แล้วผมรู้สึกว่าพอผมโกหก แล้วจะมีเรื่องจะตายทุกครั้ง ครั้งแรกเคยโกหกแล้วรถคว่ำ ครั้งที่ 2 ก็โดนสกีกระแทกหน้าจนตาเกือบบอด ผมเลยรู้สึกว่าการโกหกมันทำให้เกิดสิ่งไม่ดีกับตัวผม จากนั้นผมไม่เคยโกหกเลย เพราะผมพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว บอกความจริงดีกว่า ต่างคนต่างไม่ชอบคนโกหก”
ภาพประทับใจในงานสมรสพระราชทานจากพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ
แล้วตอนขอแต่งงานมีเหตุการณ์ซึ้งๆ บ้างมั๊ย?
ผู้พันช้าง :: “จำได้ว่าตอนนั้นอยู่บนรถก็คุยกัน ผมถามเขาว่า “ถ้าเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจะรังเกียจมั๊ย” เขาได้ยินอย่างนั้นเขาก็ร้องไห้ จากนั้นก็เรียนให้คุณพ่อคุณแม่ทราบ แล้วก็แต่งงานกันเลย”

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “ซึ้งส์ ที่จริงไม่ได้มีวิธีขออะไรที่ยุ่งยากเลย ด้วยอายุ และที่บ้านก็อยากมีลูกมีหลาน คุยกันแล้วถ้าพร้อมก็แต่งงานกันไป”

แล้วกับครอบครัวของทั้งคู่ล่ะ ดีใจ ยินดีกันขนาดไหน?
ผู้พันช้าง :: “ครอบครัวหญิงแอร์ก็รักผม ท่านมุ้ยก็รักผม ครอบครัวผมก็รักหญิงแอร์ ยินดีต้อนรับมาเป็นสมาชิกครอบครัวกัน”

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “คุณแม่พี่ช้างเป็นเหมือนคุณแม่หญิงเลย ท่านเอ็นดูแอร์มาก น้องสาว 2 คนของพี่ช้างก็น่ารัก อยู่แล้วอบอุ่นเหมือนครอบครัวตัวเอง จนบางครั้งคุณแม่พี่ช้างเข้าใจแอร์มากกว่าพี่ช้างอีก (หัวเราะ)

ผู้พันช้าง :: “หญิงแอร์ชอบคิดว่าตัวเองไม่มีแม่ เพราะคุณแม่เขาเสียตั้งแต่เด็กๆ แต่คุณแม่ผมเติมเต็มชีวิตเขา ดูแลทุกอย่าง”
ภาพรวมสองครอบครัว “ยุคล” และ “อุบลเดชประชารักษ์”
แล้วชีวิตคู่ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เห็นว่ากำลังมีน้องแล้วด้วย?
ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “ตอนนี้ก็โฟกัสที่การสร้างชีวิตครอบครัว สร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น หญิงแอร์ออกจากกงานประจำแล้วมาดูร้านฟลามิงโก้อย่างเดียว ซึ่งตรงนี้พี่ช้างก็ช่วยดูแลด้วย เพราะแอร์ตั้งท้องได้ 3 เดือนแล้ว จึงอยากทำอะไรที่ไม่ต้องเครียดมาก”

ผู้พันช้าง :: “น้องหญิงเป็นคนใจดีมาก เขาจะชิลชิล ชอบทำงานออกแบบอย่างเดียว ดังนั้น ผมจึงต้องช่วยวางระบบให้เขา ให้คำปรึกษา จนตอนนี้มีการทำเป็นระบบมากขึ้น มีการทำสต็อก บางครั้งคุณแม่ผมก็ช่วยดูแลร้านฟลามิงโก้ด้วย บางทีคุณแม่ก็ไปสำเพ็งไปซื้อผ้าด้วย”

และก่อนที่ทั้งคู่จะไปดำเนินภารกิจของตัวเองต่อในวันนี้ ทั้งสองยังทิ้งท้ายฝากความห่วงใยให้กันแล้วกันอย่างตรงไปตรงมา

ผู้พันช้าง :: “ผมก็ห่วงเรื่องการใช้ชีวิตของเขาเพราะเขาเป็นคนกระชับกระเฉงทำอะไรเร็ว แต่พอมีลูกอยากให้ใช้ชีวิตช้าลงหน่อย การที่เราจะมีลูกแล้วเราก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดีใจที่ครอบครัวใกล้จะสมบูรณ์มากขึ้น”

ม.ร.ว.จันทรลัดดา :: “แอร์ห่วงพี่ช้างเรื่องสุขภาพ ไม่อยากให้เครียดเพราะเขาจริงจังกับงานมาก บางทีพักผ่อนน้อย อีกอย่างเขาแพ้อากาศด้วยเดี๋ยวจะป่วยง่าย”

มาถึงตรงนี้บอกตามตรงเลยว่าเราไม่อิจฉาความรัก ความผูกพันของทั้งคู่หากแต่ยินดีที่คนสองคนที่มีความรัก ความเข้าใจกัน กำลังร่วมกันสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ ให้เรารู้สึกดีๆ รับเดือนแห่งความรักนี้ตามไปด้วย :: Text by FLASH

กำลังโหลดความคิดเห็น