ตลอดชีวิตที่ผ่านมามากว่า 30 ปีของ ติ๊ก-อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ไม่เคยสักครั้งเดียวที่เธอจะคิดถึงการเจ็บป่วยสาหัสอื่นใด นอกจากไข้หวัดเล็กๆน้อยๆ ..เธอไม่ได้ประมาท แต่มีความคิดเหมือนคนอื่นทั่วๆไปว่าโรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นเรื่องไกลตัว และมั่นใจว่าสุขภาพร่างกายของตัวเองแข็งแรงจึงไม่คิดมาก
แย่หน่อยตรงที่โรคบางโรคสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอาการเตือนภัยล่วงหน้า ไม่ทันให้ตั้งตัว และไม่รอให้แก่เสียก่อน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แม้จะได้รับการรักษาอย่างดี จนหายป่วย ก็ใช่ว่าชีวิตจะกลับไปเหมือนเดิม...ผลพวงที่ตามมามีมากมาย ติ๊ก-อภิภาวดีก็เช่นกันหลังป่วยหาสาเหตุไม่ได้ต้องทานยาสเตียรอยด์วันละ 12 เม็ดติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน สุขภาพจิตเสียเฉียดตายแต่รอดมาได้เพราะความเชื่อมั่นในพลังใจของตัวเอง
ติ๊ก-อภิภาวดี ดีตภรรยาคนสวยของทอม เครือโสภณ เล่าว่า ช่วงต้นเดือนกันยายนเที่ผ่านมา ธอเริ่มมีอาการไอ จึงไปซื้อยาชุดจากร้านขายยามาทาน 2-3 ก็ไม่ดีขึ้น แถมทุก 5 โมงเย็นยังมีอาการไข้ปวดหัวเป็นของแถม จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อแจ้งอาการให้หมอทราบ หมอเห็นว่าเป็นมานานจึงสั่งยาสเตรียรอยด์ให้ทาน โดยช่วงแรกทานวันละ 2 เม็ดเพียง 1 สัปดาห์ก็หาย แต่พอหยุดยาก็เป็นอีก จึงไปพบแพทย์อีกครั้ง
“ตอนไปครั้งที่ 2 ติ๊กคิดว่าตัวเองคงเป็นไทรอยด์ หมอตรวจปรากฏว่าใช่ เพราะที่คอมีก้อนแข็งๆ หมอจึงให้ทานสเตรียรอยด์เพิ่ม เช้า 2 เย็น 2 เม็ด จนครบ 2 อาทิตย์ ไทรอยด์หาย หมอก็เริ่มลดยา อยู่ๆเกิดอาการหูดับ ได้ยินอะไรไม่ชัด จากที่เคยหูฟังดนตรีสามารถแยกเสียงเครื่องดนตรีได้หมด กลับไม่ฟังไม่รู้เรื่อง ติ๊กขับรถไม่ได้ยินคนข้างหลังคุยกันก็เริ่มเครียด (หัวเราะ) ก็กลับไปพบแพทย์อีกครั้ง”
เมื่อไปพบแพทย์ครั้งนี้ตรวจเจอปัญหาเรื่องการรับฟัง เพราะมาตรฐานของคนปกติระดับเสียงที่ได้ยินอยู่ที่ 20 เดซิเบล แต่ของเธอต้องดังถึง 40 เดซิเบลขึ้นไป หมอจึงให้เธอทานยาสเตรียรอยด์เพิ่มอีก จากวันละ 4 เพิ่มเป็นวันละ 12 เม็ด “ตอนนั้นเครียดมากคือติ๊กไม่มีความรู้ ไปหาข้อมูลก็รู้แค่ว่าต้องรักษาด้วยสเตรียรอยด์ ด้วยความหวังที่เราอยากหายก็ยอมกิน”
หลังกินยาได้ระยะหนึ่งอาการไม่ดีขึ้น คุณหมอก็สั่งเช็คทุกอย่างทำ MRI ก็ไม่มีพบอะไร เช็คเลือดก็ไม่พบอะไรเช่นกัน ก็เริ่มเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้จึงขอหมอหยุดยา แต่หมอบอกถ้าหยุดหูเธออาจหนวกได้ เธอบอกว่ากลัวมากเริ่มวิ่งหาแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องหูถึง 5 แห่ง รวมถึงการเตรียมแผนยอมใส่งเครื่องช่วยฟัง
“ติ๊กไม่อายนะคะถ้าต้องใส่เครื่องรับฟัง เพราะไม่อยากทานยาแล้ว นอนร้องไห้ทุกคืน คิดว่าทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้ แต่ละวันแทบไม่อยากทำอะไร ปกติเป็นคนอาบน้ำให้ลูกเองก็ไม่อยากทำ เพื่อนๆก็ดีพยายามพาไปที่ต่างๆไม่ให้เราเครียด หันไปเห็นลูกก็ต้องสู้ เลยโทรปรึกษาแมงมุม ( ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล) ที่เขาเป็นภูมิแพ้ น้องแมงมุมก็แนะนำคุณหมอที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ์ ติ๊กเลยตัดสินใจขอประวัติคนไข้เปลี่ยนไปรักษาที่วิชัยยุทธ์แทน”
แม้ต้องเริ่มต้นรักษาใหม่ก็ต้องยอม ติ๊กบอกว่าคุณหมอที่วิชัยยุทธ์ก็เริ่มเช็คเลือดอีกครั้งใหม่ ฉีดน้ำเข้าปอดดูดออกมาตรวจ ทำทุกอย่างปรากฏ ปัญหาเรื่องหูไม่ได้มาจากเลือดหรือปัญหาภายใน แต่เป็นผลข้างเคียงจากสเตียรอยด์ ตอนนั้นหมอก็ให้ทานยาต่อไปก่อนอาการทุกอย่างดีขึ้น ยกเว้นหูยังรับฟังได้ไม่เหมือนเดิม ซึ่งเธอก็ทำใจจากนั้นหมอจึงลดปริมาณยาลงเหลือมื้อละครึ่งเม็ด แต่ได้อาทิตย์เดียวอาการก็ทรุดลงอีก
“โฮ้โห ตอนนั้นติ๊กเข้าใจอารมณ์ของคนป่วยที่ไม่สบายแล้วไม่อยากมีชีวิตอยู่เลยค่ะ หมอเตรียมเจาะปอดขูดเนื้อเยื่อไปเช็คแล้ว ตอนนั้นถ้าไม่ติดลูกติ๊กก็ไม่อยากอยู่นะ โชคดีที่พระองค์โสมสวลีท่านทรงทราบก็ทรงพระกรุณาให้ติ๊กไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็ทำเรื่องเตรียมย้าย ช่วงนั้นคุณทอมจะไปเนปาลพอดี แกเลยชวนไปไหว้พระที่นั่น ก็คิดว่าไปไหว้พระเพื่อให้สบายใจปรากฏกลับมาอาการป่วยก็หายเอง (หัวเราะ) ที่ต้องเจาะปอดอะไรก็ไม่ต้องทำแล้ว”
เมื่อถามว่าติ๊กเชื่อสิ่งเร้นลับหรือไม่? ติ๊กยอมรับว่าไม่เชื่อแต่ก็ไม่เคยลบหลู่ “ติ๊กเชื่อว่าทุกอย่างมันเป็นพลังใจของเรา ถ้ากำลังใจดี จิตใจสบาย กระบวนการทุกอย่างมันดีขึ้นตามกลไก อย่างที่ติ๊กไปไหว้พระพุทธเจ้าที่ลุมพินีวัน ประเทษเนปลาย สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประสูตร ตรงใกล้ ๆ จะมีบ่อน้ำมนต์ คนที่นั่นบอกว่าถ้านำมาลูบท้องคนที่อยากมีลูกก็จะได้ลูก คุณทอมเขาก็นำกลับมาให้เพื่อนที่อยากมีลูกแต่มีไม่ได้มาลองลูบท้องปรากฏทุกคนที่นำมาลูบ ตั้งท้องกันหมด ทั้งทีก่อนหน้านี้ไปหาหมอทำกิฟก็ไม่ติด เรื่องนี้ติ๊กมองว่าแปลกแต่ก็เชื่อว่าคนเราถ้าไม่มี Activty เป็นไปไม่ได้ว่าจะท้องได้”
นานกว่า 1 เดือนแล้วที่เธอหายป่วยไม่ต้องทานยา แต่สิ่งที่เธอกำลังเผชิญในวันนี้คือผลกระทบจากสเตียรอยด์ ที่เป็นภัยเงียบติดตามเธอเป็นเงา “ตอนนี้ผมร่วงค่ะ ตอนแรกคิดว่าร่วงธรรมดา เปลี่ยนยาสระผมก็ไม่หายร่วงเยอะมาก (เน้นเสียง) สางทีผมหลุดมาเป็นกระจุก เรียกว่าขึ้นไม่ทันที่ร่วงไป ก็เลยไปหาหมอโรคผิวหนัง หมอบอกเป็นผลจากที่ทานสเตียรอยด์ ก็ทำใจว่ายาสะสมจะค่อยๆหมดฤทธิ์ ตอนนี้ติ๊กไปรักษาเรื่องผมร่วงที่คลินิกเกี่ยวกับผมร่วงโดยตรงเลยค่ะ”
นับจากวันที่เริ่มป่วยจนถึงวันนี้ แม้จะหาสาเหตุของโรคไม่เจอ ตัวเธอเองก็ไม่คิดจะหาคำตอบอีกต่อไป แต่เธอเลือกที่จะไม่ท้อแท้อ่อนแออีกแล้ว “คนที่ไม่เคยเฉียดความตายจะไม่รู้หรอกค่ะ ว่าชีวิตมีค่าแค่ไหน พลังที่มาจากใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราหายจากทุกสิ่ง” ติ๊กกล่าวทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มที่สดใส ไม่มีร่องรอยของคนที่ทุกข์ใจอีกแล้ว
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์
