xs
xsm
sm
md
lg

จอห์น ภมรมนตรี ทายาทนักบินกับชีวิตนักบินที่มีเรื่องเล่าไม่รู้จบ!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>เดินตามรอยเท้าพ่อ อาจจะไม่เท่สำหรับหนุ่มเจเนเรชันใหม่บางคน ที่อยากค้นพบเส้นทางใหม่ด้วยตัวเอง แต่คงไม่ใช่กับ “จอห์น ภมรมนตรี” หนุ่มหน้าคมนักบินหมาดๆ วัย 23 ปี เพราะตั้งแต่จำความได้ เขาก็ผูกพันอยู่กับเครื่องบิน ทั้งคุณปู่และคุณพ่อ ล้วนมีอาชีพเป็นนักบิน เรียกได้ว่าลืมตาดูโลกครั้งแรกก็เห็นท้องฟ้าเลยก็คงจะไม่ผิดนัก

จอห์นจบการศึกษาจากสถาบันการบิน มหาวิทยาลัยรังสิต ตอนนี้รับหน้าที่เป็นนักบินผู้ช่วย (Co-Pilot) ของสายการบินนกแอร์ นอกจากสายเลือดนักบินเข้มข้นที่ถ่ายทอดจากปู่มาสู่หลานแล้ว ตัวเขาเองบอกว่า รู้สึก “รัก” การบินอย่างไม่มีเหตุผล

“บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องมาเป็นนักบินนะครับ แต่พอเราได้บินเรารู้สึกชอบ รู้สึกสนุกที่ได้ทำมันทุกครั้ง ก่อนที่จะบิน ผมก็ชอบที่จะดูอากาศ ดูเรื่องเครื่องมือ ได้เตรียมตัว ผมรู้สึกมีความสุขในทุกขั้นตอน คงเป็นไปได้ว่าเราผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ได้เดินทางกับครอบครัวบ่อยๆ ทำให้ชอบเดินทาง ชอบเครื่องบิน ชอบที่จะได้อยู่บนเครื่องบิน ผมมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบินตั้งแต่เด็กมาก พาสปอร์ตเล่มแรกของผมยังเป็นรุ่นที่ต้องใช้นิ้วแสตมป์อยู่เลย

นอกจากความผูกพันที่แยกกันไม่ออกแล้ว เสน่ห์ของท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปทุกวัน ยังเป็นสิ่งที่มัดใจชายหนุ่มคนนี้ได้อยู่หมัด “ในแต่ละวันที่ผมบิน อากาศก็ไม่เหมือนกัน วันนี้อากาศดี พรุ่งนี้ฝนตก ก้อนเมฆก็ไม่เคยเหมือนกันเลย ทั้งๆ ที่เราบินเส้นทางเดิม แต่ไม่เคยเหมือนเดิม มันหลากหลายอารมณ์เลยทีเดียว”

นักบินเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน ทั้งภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูดี และค่าตอบแทนที่คุ้มค่า สำหรับจอห์นเขามองว่า การเป็นนักบินนั้นใครๆ ก็บินได้ “จริงๆ ผมว่าเครื่องบินมันก็เหมือนขับรถ แค่เปลี่ยนจากถนนเป็นบนท้องฟ้า แรกๆ ก็ยังไม่คุ้น แต่พอขับไปสักพัก เราก็เริ่มคุ้นเคยกับมัน เป็นเหมือนทักษะที่เราต้องฝึกไปเรื่อยๆ

ผมว่าสำหรับนักบิน ไม่จำเป็นต้องเก่งด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ แต่จะต้องเก่งหลายๆ อย่าง ผมว่าคนที่เก่งเกินไปก็ไม่เหมาะกับอาชีพนักบิน เพราะจะมีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป การทำงานนักบิน เวลาบินจะมีนักบินสองคน เราจึงต้องนำเป็น และตามเป็น รู้จักยืดหยุ่น แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อการบินที่ดีและปลอดภัย”

ความมีวินัย รอบคอบ และรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือคุณสมบัติที่ดีของนักบิน แต่ในนิยามของจอห์น อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความขี้ขลาด!

“นักบินที่ดี ผมว่าต้องขี้ขลาดนะครับ เพราะพอเราเห็นอะไรแปลกๆ นิดหน่อยก็จะต้องคิดแล้ว อย่างเห็นสภาพอากาศไม่ดี ก็คิดว่าจะบินดีหรือเปล่า ถ้าคนที่มั่นใจเกินไป แล้วตัดสินใจบิน อาจจะเกิดอุบัติเหตุก็ได้ แต่ถ้าเราไม่แน่ใจสภาพอากาศ แล้วตัดสินใจไม่บิน เราก็จะปลอดภัยกว่า ต้องคิดเสมอว่าเวลาเราบิน มันไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียว ข้างหลังเรามีอีกหลายสิบ หลายร้อยคน”

กำลังใจสำคัญที่ทำให้เขาทำตามความฝันสำเร็จ ไม่พ้นคุณพ่อ “กัปตันยุทธ ภมรมนตรี” ซึ่งทุกวันนี้ท่านก็ยังเป็นนักบินอยู่เช่นกัน “ผมกับคุณพ่อสนิทกันมากครับ ท่านบอกว่าที่ทำงานนานเพราะรักอาชีพนี้ คุณพ่อผมชอบขับเครื่องบิน แต่ในขณะเดียวกันพ่อกลับไม่ชอบขับรถ คุณพ่อขับรถถูกๆ ผมเคยถามว่าทำไมถึงไม่ซื้อรถดีๆ สักคัน ท่านบอกว่า ขับไปก็จอด แล้วก็ไปบิน เครื่องบินลำหนึ่งราคาตั้งเป็นพันๆ ล้านบาท เทียบกับรถยนต์ไม่ได้หรอก จะซื้อรถคันละหลายล้านไปทำไม คุณพ่อเคยบอกว่า ต่อไปถึงแม้บริษัทจะไม่จ่ายเงินให้ คุณพ่อก็จะยังบินอยู่ครับ เพราะเขาชอบบิน ชอบที่จะได้อยู่บนท้องฟ้า”

แม้วันนี้จอห์นจะได้เป็นนักบินเต็มตัว แต่เมื่อย้อนเวลากลับไปเขาบอกว่า คุณพ่อไม่เคยบังคับให้เขาเป็นลูกไม้ที่ต้องหล่นใต้ต้นเลย “ตั้งแต่ผมตัดสินใจมาเรียนการบิน พ่อยังถามว่าแน่ใจหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าพ่อเป็นแล้วลูกต้องเป็น ท่านอยากให้เราทำในสิ่งที่ชอบจริงๆ แต่สำหรับผมก็คือนักบินนี่แหละครับ ตอนกำลังเรียนอยู่ ท่านมักจะเข้ามาถามว่าอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วหรือยัง ก็จะให้คำแนะนำ

หรือบางครั้งก็มานั่งคุยกันว่า บินครั้งนั้นเป็นอย่างไรบ้าง อากาศไม่ดี แล้วแลนดิ้งอย่างไร ลมพัดแบบไหน ท่านจะคอยให้คำแนะนำว่า ถ้าลมประมาณนี้จะเอาเครื่องลงยังไง สอนเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เพราะคุณพ่อก็เป็นครูการบินเหมือนกัน”

“กัปตันหนุ่มสุดเป๊ะ” เป๊ะในที่นี้เราไม่ได้หมายถึงความหล่อ ความเนี้ยบ แต่เราหมายถึงความมีระเบียบวินัยในแบบฉบับหนุ่มจอห์น “ผมเป็นคนที่ค่อนข้างมีวินัยในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้ระเบียบจัดมาก เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร และจัดสรรเวลาเป็น ถ้าจะต้องตื่นเวลาแปดโมงเช้า เราก็ต้องคิดแล้วว่า เราจะออกจากบ้านกี่โมง และคิดย้อนถึงเวลานอนเลยว่า เราจะต้องนอนสามทุ่มนะ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนิสัย ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีนะ เข้ากับคนได้ง่าย และพยายามมองอะไรให้บวกเข้าไว้”

เรื่องสุขภาพร่างกายก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับอาชีพนักบิน ซึ่งจอห์นก็ต้องดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน “โชคดีที่ผมชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว เมื่อก่อนตอนรอเทรน ผมจะเข้ายิมอาทิตย์ละ 4-5 วันเลย ตื่นมาอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย มีตีแบตฯ ตีกอล์ฟ เข้ายิมตลอดเวลา หรือถ้าช่วงไหนกินเยอะไป ก็ต้องลด อย่างตอนนี้ผมงดแอลกอฮอล์ 3 เดือน เพราะพวกนี้แคลอรีเยอะ พยายามจะไม่ทานหลังสองทุ่ม แต่จะไปเน้นทานช่วงเช้า เพราะมีเวลาให้เผาผลาญพลังงานได้ทั้งวัน มื้อเที่ยงก็ปกติ พอมื้อเย็นก็จะกินแป้งน้อย กินโปรตีน กินผัก ผลไม้ เป็นหลัก หรือไม่ก็กินหลายมื้อ ทีละน้อยๆ จะได้ย่อยหมด”

เป็นนักบิน ก็ต้องมีประสบการณ์น่าตื่นเต้นมาแชร์ให้เรากันบ้าง จอห์นเล่าถึงเหตุการณ์ 2 ครั้งระหว่างที่เขาอยู่ในช่วงฝึกบินให้เราฟัง

“ช่วงฝึกบินกับเครื่องบินเล็ก มีเหตุการณ์หนึ่ง เพื่อนผมบินไปกับอาจารย์ และถังน้ำมันเครื่องมันแตก เลอะเต็มหน้าปัดเครื่องบินเลย แต่ครั้งนั้นก็พาเครื่องลงมาสนามบินได้ เอาไปซ่อมอยู่สองเดือน จนบินได้อีกครั้ง แต่ก็บินได้แค่ในวงจรการบินสั้นๆ แล้วผมเป็นผู้โชคดี ได้เครื่องบินลำนี้ไปฝึกบิน ครั้งแรกบินเดี่ยวไม่มีอะไร แต่พอบินกับครู ซึ่งเป็นครูคนเดิมที่เคยเกิดเรื่องครั้งที่แล้ว บินไปสักพักเริ่มได้กลิ่นน้ำมัน เลยต้องรีบเลี้ยวกลับลงมา สักพักถังน้ำมันก็แตก แต่เราก็ลงถึงพื้นดินพอดี โชคดีไป

และมีอีกครั้งหนึ่ง ขับเครื่องบินฝึกบินสองเครื่องยนต์ และฝั่งซ้ายที่ผมขับเป็นทางออกฉุกเฉินทั้งบานซึ่งเพิ่งเปลี่ยน ยังพูดกับอาจารย์ผู้สอนอยู่เลยว่า กระจกใสมากเลย วันนี้ต้องถ่ายรูปมันแน่ๆ เทกออฟไปสักพัก ขณะกำลังไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ลมมันพัดเข้ามา สักพักเห็นกระจกมันเผยอขึ้น ลมก็อัดเข้ามา ผมคิดแล้วว่าหลุดแน่ๆ ตอนนั้นก็รีบรัดเข็มขัด ไม่นานกระจกก็หลุดไปทั้งบาน ผมเลยต้องนั่งนิ่งๆ ให้อาจารย์ขับเครื่องบินแทน”

เมื่อเจอสิ่งที่รักจริงๆ จอห์นบอกว่าเขามั่นใจว่าสามารถทำงานนี้ไปได้ตลอด ตอนนี้เขาขอโฟกัสเรื่องการบิน ศึกษาการบินให้ละเอียด และพัฒนาตัวเองในด้านนี้ให้ดีที่สุด อย่างอื่นค่อยว่ากัน

:: ประสบการณ์ที่แคนาดา

ก่อนเรียนจบ จอห์นได้ไปฝึกบินที่ประเทศแคนาดา “ผมไปเรียนที่นั่นปีครึ่ง หนาวมากครับ หนาวที่สุดที่เคยเจอ คือ ติดลบ 27 องศาเซลเซียส เป็นเมืองชื่อนิวฟาวด์แลนด์ หนาว ลมแรง อากาศไม่ค่อยดี เราก็จะได้ประสบการณ์อย่างเวลาน้ำแข็งเกาะปีกเครื่องบิน เราจะละลายน้ำแข็งอย่างไร เราก็จะได้เห็นความชัดเจนของอากาศระหว่างร้อนกับหนาว มันเป็นอย่างไร ในเรื่องมาตรฐานการฝึกบิน มันต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่เราจะได้เรียนรู้เรื่องของอากาศเป็นหลัก เวลาเราบินในอากาศหนาวๆ มันจะเป็นยังไง เวลาเอาเครื่องบินลงจอด ตอนลมแรงๆ ต้องทำยังไง เราจะควบคุมมันอย่างไร และจะได้เรื่องทักษะ เพราะเราได้ฝึกบินที่นั่นเยอะกว่า”

:: เครื่องบินในฝัน

“เครื่องบินโบอิ้ง 777 ส่วนหนึ่งคือคุณพ่อผมขับ และมันเป็นเครื่องบินที่ทันสมัยลำหนึ่ง ระบบต่างๆ มันไฮเทค และดีไซน์มันดูลงตัว หล่อ ทั้งปีก ล้อ ความยาว มันดูสมส่วน ผมว่ามันดูเท่ดี อย่างผมถ้าจะให้ขับลำนี้ได้ คงต้องอีกสัก 7-8 ปีเลยครับ ก็ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป”

:: กิจกรรมยามว่างสไตล์นักบิน

“ผมชอบถ่ายรูปกับคุณพ่อครับ เวลาไปเที่ยวก็จะมีกล้องคนละตัวกับคุณพ่อ แล้วถ่ายรูปกัน อาจจะมีไปช่วยเพื่อนถ่ายรูปตามงานรับปริญญาบ้าง และชอบท่องเที่ยว ถ้าได้ไปประเทศหนาวๆ ผมชอบเล่นสกีครับ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของสะสม ผมก็พอจะมีโมเดลเครื่องบินอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะ รอให้มีบ้านของตัวเองแล้วค่อยเก็บดีกว่า คิดเอาไว้แล้วแหละว่าอยากมีตู้โชว์สักตู้ ไว้วางโมเดลเครื่องบิน”

Special Thanks : ศูนย์ Flight Experience ถนนสีลม โทรศัพท์ 0-2237-9895-6 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ www.flightexperience.co.th





>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
กำลังโหลดความคิดเห็น