อีกไม่กี่วัน งูใหญ่ ก็กำลังจะเลื้อยผ่านไป แล้วเปลี่ยนให้ งูเล็ก เข้ามารับช่วงต่อ และในปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้คนไทยมีทั้งความสุข ปลื้มปีติ และความเซอร์ไพรส์ หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน จึงอาสาพาทุกท่านไปเช็คเรื่องที่สุดของความฮือฮาในปีมังกรทอง
** เสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องทั่วทั้งแผ่นดิน
เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่จะต้องบันทึกไว้ในหน้าประวิศาสตร์ชาติไทย ถึงภาพความจงรักภักดีที่พสกนิกรชาวไทย มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด เพราะเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา
การเสด็จออก ณ สีหบัญชร ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน หลังจากที่เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จ ณ สีหบัญชร เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยครั้งนั้นก็ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งความภักดีของพสกนิกรชาวไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกไปแล้ว เพราะทุกคนล้วนพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองกว่า 2 ล้านคน มาเฝ้ารับเสด็จและชื่นชมพระบารมีของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วลานพระบรมรูปทรงม้า
มาครานี้ พสกนิกรชาวไทยทุกคนก็ได้สร้างประวัติศาสตร์แห่งความภักดี ให้ปรากฏอย่างมิรู้ลืมอีกครั้ง เพราะตั้งแต่ทุกคนรู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออก สีหบัญชร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ตั้งแต่เหนือสุดแดนสยามไปจนถึงใต้สุด ต่างพากันมาจับจองพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช ยาวไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่ก่อนรุ่งสางและพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง อันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีกันอีกครั้ง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จถึงยัง สีหบัญชร อันเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีแห่งประวัติศาสตร์ พสกนิกรทุกคนที่มาเฝ้ารับเสด็จ ต่างพร้อมใจกันถวายพระพร เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องยาวนานกว่า 5 นาที จากนั้นก็ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันอย่างพร้อมเพรียงพสกนิกรบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ
ถึงแม้ว่า แสงแดดใกล้เที่ยงจะร้อนแรงเพียงใด แต่ความจงรักภักดีที่มีต่อในหลวงของเรา ก็ไม่ทำให้ใครท้อถอย ยังคงยืนหยัด ร่วมชื่นชมพระบารมีด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่มีต่อปวงชนชาวไทยเสมอมา
** เซอร์ไพรส์ทั่ววงการ เจ้าสัว “นักรัก” ประกาศหมั้นสายฟ้าแลบ
เป็นอีกหนึ่งทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่ได้รับการพูดถึงทั่วทุกวงการเมื่อ บุญชัย เบญจรงคกุล อภิมหาเศรษฐีหมื่นล้านวัย 58 ปี ประกาศหมั้นแบบสายฟ้าแลบ กับนักแสดงสาวไซส์สะบึม “ตั๊ก-บงกช คงมาลัย” ถือเป็นการตีตราจองว่าที่ภรรยาคนที่ 6 หลังจากที่เพิ่งสะดุดรักกับภริยาคนที่ 5ไปไม่ถึงปี เพราะจากนี้ไป เจ้าสัวนักรักจะได้เป็นเจ้าของสาวทรงเสน่ห์ ที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หมายปอง เป็นเหตุให้พี่ใหญ่ของน้องตั๊กดูสดใสซาบซ่าที่สุดในวันพิธีหมั้น
การประกาศสละโสดครั้งนี้ถูกเผยแพร่เมื่อดาราสาวตั๊ก-บงกช ได้โพสต์ภาพหวานระหว่างตนเองกับบุญชัยในอินสตาแกรม พร้อมระบุว่ากำลังจะเข้าพิธีหมั้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน และภาพเหล่านี้ถูกโพสต์กระจายไปยังสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว
ความรักของ ตั๊ก-บงกช กับพี่ใหญ่ นั้น เกิดมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่มีโอกาสได้เจอกันที่พิพิธภัณฑ์ของบุญชัยเอง นอกจากต้องตาแล้วยังต้องใจในเรื่องของธรรมะ ที่ทั้งสองต่างชอบเหมือนกัน โดยเฉพาะ การนับถือหลวงพ่อสด ที่ทั้งคู่มีโอกาสได้ไปสักการะด้วยกัน นอกจากนั้น บุญชัยก็ยังประทับใจในความกตัญญูของสาวตั๊ก ที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และเงินที่หามาได้ ก็เก็บไว้รักษาแม่ที่ป่วยอีกด้วย หลังจากต้นรักเบ่งบานได้ระยะหนึ่ง ทั้งสองจึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
ฉากต่อไปที่ผู้ชมต้องคอยติดตามและลุ้นทุกตอน อย่างพลาดไม่ได้คือ สาวไซส์สะบึม ที่ตอนนี้ด้ชื่อว่า เป็นซินเดอเรลลาเมืองไทย จะเป็นรักครั้งสุดท้ายของเจ้าสัวนักรักหรือไม่?
** “เจ๊ชูชัย” ยอมสูญเงิน 200 ล. เลิก “ชูชัยศรีอัมพวา”
ในช่วงปีมังกรทองที่ผ่านมา หลายคนต่างพบเจอเรื่องราวต่างกันไป โดยเฉพาะ เจ๊ชู-ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ แห่งเจมส์ พีซ กรุ๊ป ที่ปีนี้เจอมรสุมหนัก ถึงขั้นลืมไม่ลงไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว เพราะความปรารถนาดีแต่ดันทำผิดที่ผิดทางไปหน่อย จึงทำให้เจ้าตัวยอมสูญเงินไปเปล่าๆ ถึง 200 ล้านบาท กับโปรเจกต์สุดหรู “โครงการชูชัยบุรีศรีอัมพวา” ซึ่งตั้งใจทำตลาดน้ำอัมพวา ดินแดนถิ่นแม่กลอง ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ศูนย์รวมของศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย รวมทั้งการกีฬาของชาวแม่กลอง
แต่เนื่องด้วยสถานที่ที่เจ้าตัวจะลงทุนสร้างนั้นคือบริเวณ ห้องแถวเรือนไม้ริมคลองอัมพวา ซึ่งมีอายุเก่าแก่เกือบร้อยปี แถมยังประกาศอีกว่า อาจใช้พื้นที่แห่งนี้สร้าง “ลานศรัทธาเทวสถาน” อันมี “ศิวลึงค์” ตั้งตระหง่าน หรือที่ความจริงสมควรใช้คำว่า “องคชาต” เสียมากกว่า แถมสถาปัตยกรรมที่รังสรรค์ขึ้น ก็เป็นสถาปัตยกรรมที่มิได้กลมกลืนหรือสอดรับกับสภาพแวดล้อม ตลอดรวมถึงวิถีชีวิตของคนอัมพวา ตามที่ป่าวประกาศไว้ จึงทำให้เกิดการต่อต้านอย่างหนัก จากนักอนุรักษ์ในพื้นที่ รวมถึงในสังคมออนไลน์ ก็ซัดถึงการกระทำดังกล่าว จนเจ๊ชูอ่วมอรทัยไปทั้งร่าง
ในที่สุด เจ้าตัวทนแรงต้านไม่ไหว เลยเลยออกมาร่ำไห้ขอความเห็นใจ พร้อมบอกว่า ทุกอย่างที่ทำลงไปนั้น ทำไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ และจะไม่รื้อห้องแถวเรือนไม้ชายคลองอัมพวาทั้ง 12 แต่จะปรับปรุงให้เหมือนเดิม ส่วนรูปแบบของอาคารเจ้าตัวก็ขอเอาใจคนอัมพวา ด้วยการนำเสนอรูปแบบโครงการให้คนในท้องถิ่นเลือกถึง 6 แบบ ส่วนเทวสถานที่มีศิวลึงค์ ซึ่งถูกต่อต้านอย่างหนักนั้น เจ้าตัวเลยขอเปลี่ยนมาไว้ด้านในลานศรัทธาแทน โดยมีต้นไม้บังไว้และจะไม่ให้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า
เรียกว่าปีมังกรทองปีนี้ ฟาดเคราะห์หนักไปนิดนึง ขนาดอุตส่าห์ชวนเพื่อนฝูงเดอะแก๊ง ไปสะเดาะห์เคราะห์ลงโลงกันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่วายที่จะซวยส่งท้ายปีนะคะเจ๊ชู
** ช็อควงการเจ้าพ่อ “แคลิฟอร์เนีย ว้าว” ล้มละลาย
หลังจากเมื่อที่ปีแล้ว “Eric Levine” ได้สร้างปรากฏการณ์ทอล์กออฟเดอะทาวน์ อภิมหึมาวิวาห์กับ “จอย-วราลักษณ์ วาณิชย์กุล” อันเป็นงานแต่งที่สาวๆ ต่างอิจฉา เพราะเงินสินสอดกว่า 100 ล้านบาท แถมยังยิ่งใหญ่ฉลองกัน 3 วัน 3 คืนเลยทีเดียว
มาปีนี้เจ้าตัวก็หวนกลับมาสร้างกระแสสนั่นเมืองอีกครั้ง แต่อาจเป็นข่าวไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องล้มละลายต่อ บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทให้บริการออกกำลังกายชื่อดัง โดยมี Eric Levine” นั่งแท่นเป็นผู้บริหาร
งานนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้บรรดานักออกกำลังกาย โดยเฉพาะ พวกเก้งกวางและชาวเราอารมณ์เสียไปตามๆ กันเท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดฉากของเจ้าพ่อแห่งสถานออกกำลังกาย ที่เจ้าตัวสู้อุตส่าห์บ่มเพาะสร้างมายาวนาน 16 ปีไปอย่างน่าเสียดาย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net