คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
“ทุกอย่างกำลังไปได้สวย และแล้วทันใดนั้นมันก็จบ...” ฟังคุ้นๆ มั้ยครับคุณผู้หญิง มันจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายและการบอกเลิกอย่างกะทันหันของพวกเขา?
แอนดี้ โจนส์ หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษคนนี้จะมาแฉสันดานผู้ชายด้วยกันให้ผู้หญิงทั้งหลายได้รับทราบกันไว้ดังนี้
คุณเคยเจอกับพ่อแม่ของเขาแล้ว เคยใช้เวลาในวันหยุดด้วยกัน เคยไปดูหนังฟังเพลงกับเขาเป็นประจำ แต่ไม่ทันนานคุณก็เริ่มทะเลาะกับเขา จู่ๆ เขาก็แยกเขี้ยวใส่คุณเหมือนไอ้ด่างข้างถนนซะงั้น
อาทิตย์ที่แล้ว เขายังรักคุณอยู่ดีๆ และดูเหมือนจริงจังกับชีวิตคู่เสียเหลือเกิน แต่วันนี้ เขาเกิดความ “สงสัย” ขึ้นมาดื้อๆและใช้ข้อแก้ตัวที่เป็นไปได้ทุกอย่าง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เวลาร่วมกับคุณ
ทำไมเขาถึงกลับลำอย่างกะทันหันเช่นนั้น?
แอนดี้ อธิบายว่า ผู้ชายมีส่วนผสมอันตรายของความขี้ขลาดอันมหาศาลกับความโรแมนติคอันสิ้นหวัง เป็นพวกรักง่ายหน่ายเร็ว ว่างั้นเถอะ พวกเขาชอบเป็นม้าตีนต้น ทำความรู้จักผู้หญิงที่ถูกใจอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาทุกนาทีในการอยู่ใกล้ชิดกับคุณ
คุณคือของเล่นสุดโปรดชิ้นใหม่ของเขา เหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ หรือไม้กลอ์ฟชุดใหม่ ยังไงยังงั้น เพียงแต่ดีกว่าหน่อยที่เขามีเซ็กซ์กับคุณได้
ตอนเริ่มต้น เขาจะ “สนุก” กับการเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ตื่นเต้นกับการพาคุณไปกินอาหารกลางวัน เกลี้ยกล่อมให้คุณเลิกงานเร็วกว่าปกติเพื่อพบกับเขานอกที่ทำงาน คุณจะพูดอะไรเกี่ยวกับแผนอนาคตของพวกคุณ เขาโอเคหมด เพราะตอนนั้นมันอยู่ในช่วง “ชั่วโมงสำราญ” (HAPPY HOUR) ของเขา
และแล้ว (ตามปกติก็หลังจาก 6 เดือนผ่านไป) ข้าวใหม่ปลามันก็จะเริ่มจืดชืด เพื่อนๆ ผู้ชายของเขาเริ่มพาแฟนคืนเดียวของพวกเขามาอวดในคืนอันเร่าร้อนสุดเหวี่ยง และเขาจะรู้สึกเสียดายความโสดขึ้นมาทันที
ผู้ชายน้อยคนที่เล่นเกมยาวเมื่อเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ พวกเขามองอนาคตแค่สัปดาห์ต่อๆไป มากกว่าจะเป็นปีต่อๆ ไป นั่นคือเหตุผลที่เขาเฉไฉเรื่องอนาคตมาตลอด 6 เดือนแรก จนกระทั่งคุณเริ่มโวยเกี่ยวความยืนยาวของความสัมพันธ์นั่นแหละ เขาจึงคิดขึ้นได้ว่า เขากำลังอยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาวกับคุณ(นี่หว่า)
ผู้ชายในวัย 20-30 นั้น ยังระเริงกับความสุขแบบวัยรุ่นมากกว่าที่จะต้องรับผิดชอบกับชีวิตคู่ และตอนนี้เขาจะใช้เวลาอีก 6 เดือนในการพยายามหนีออกไปจากมัน
ตรงนี้เองที่ความขี้ขลาดเข้ามามีบทบาทนำ เขาจะเริ่มพูดจาแต่เรื่องสวยสดงดงาม เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและเพื่อให้คุณตายใจ มากกว่าจะยอมรับว่า ที่จริงมันไม่ใช่
ในทุกความสัมพันธ์ของแอนดี้ เขาเคยถูกถามว่าทำไมจึงไม่สามารถวางแผนอนาคตได้ มันเป็นเพราะเขามองไม่เห็นอนาคตหรือ?
เปล่าเลย!
เขาแค่คิดว่าผู้ชายไม่ได้ถูกโปรแกรมให้วางแผนอารมณ์ของพวกเขาต่างหาก ถ้าเป็นเรื่องเบี้ยเลี้ยงเงินเดือน การนัดเลี้ยงรุ่น หรือ การไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ละก็ ได้เลย พวกเขาจะวางแผนการปฏิบัติได้อย่างละเอียดลออ
แต่กับเรื่องที่จริงจังกว่านั้น ผู้ชายจะโง่ทันที และไม่รู้ว่าจะหันไปทางไหน ได้แต่หันรีหันขวางอย่างที่เห็นกัน ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมผู้ชายจึงยอมรับความคิดเรื่องอนาคตจากผู้หญิงของพวกเขาในระยะแรก (ยังคิดอะไรไม่ออก ก็รับๆไปก่อน ว่างั้นเถอะ) จนกระทั่งพวกเขาตระหนักในที่สุดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริง
แล้วทำไมวลีที่ว่า “มันชักไม่เข้าท่าแล้วละ” จึงหลุดออกมาดื้อๆ ซะยังงั้นเสมอ?
ประการแรก เขาน่าจะไม่อยากสูญเสียคุณ เขาอาจแสร้งทำเป็นว่าพวกเพื่อนผู้ชายของเขาคือ เพื่อนแท้ แต่จริงๆ แล้ว คนๆ เดียวที่เขาเปิดใจให้ได้อย่างแท้จริงก็คือ หญิงสาวคนที่นอนเคียงข้างเขานี่แหละ และเขาไม่ต้องการสูญเสียเธอไป
ประการต่อมาก็คือ อัตตาของเขา ผู้ชายคิดว่าพวกเขาสามารถทำทุกสิ่งได้ เขาสามารถรักษาความหวานชื่นกับคุณไว้ได้ขณะที่กำลังเป็นแฟนของคุณ มันต้องมีความสั่นสะเทือนขนาดแผ่นดินไหว 9 ริคเตอร์นั่นแหละที่จะทำให้เขาละทิ้งเหตุผลประการใดประการหนึ่งไปได้จริงๆ ในที่สุดก็จะมีเซ็กซ์แบบ “ปลอบประโลม” เกิดขึ้น มันเป็นคืนอันหวานชื่น
ดังนั้นเมื่อเขาพูดขึ้นในที่สุดว่าอะไรอยู่ในความคิดของเขา คุณจึงตกตะลึงเพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เขาจะพูดเช่นนั้นออกมาได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับอนาคตนั้นเชื่อถือได้แค่ช้อนชาเดียว มันมีโอกาสที่เขาอาจโกหกได้ เว้นแต่ว่าเขากำลังวางแผนอย่างแท้จริงสำหรับอนาคตของพวกคุณด้วยความสุขุมรอบคอบ ไม่ใช่โพล่งพล่อยๆ ออกมาเพื่อหลอกให้คุณมีความหวังไปวันๆ
แต่ก็อีกนั่นแหละ การเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาอาจไม่เคยคิดไกลไปข้างหน้าขนาดนั้นหรอก
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
“ทุกอย่างกำลังไปได้สวย และแล้วทันใดนั้นมันก็จบ...” ฟังคุ้นๆ มั้ยครับคุณผู้หญิง มันจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายและการบอกเลิกอย่างกะทันหันของพวกเขา?
แอนดี้ โจนส์ หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษคนนี้จะมาแฉสันดานผู้ชายด้วยกันให้ผู้หญิงทั้งหลายได้รับทราบกันไว้ดังนี้
คุณเคยเจอกับพ่อแม่ของเขาแล้ว เคยใช้เวลาในวันหยุดด้วยกัน เคยไปดูหนังฟังเพลงกับเขาเป็นประจำ แต่ไม่ทันนานคุณก็เริ่มทะเลาะกับเขา จู่ๆ เขาก็แยกเขี้ยวใส่คุณเหมือนไอ้ด่างข้างถนนซะงั้น
อาทิตย์ที่แล้ว เขายังรักคุณอยู่ดีๆ และดูเหมือนจริงจังกับชีวิตคู่เสียเหลือเกิน แต่วันนี้ เขาเกิดความ “สงสัย” ขึ้นมาดื้อๆและใช้ข้อแก้ตัวที่เป็นไปได้ทุกอย่าง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เวลาร่วมกับคุณ
ทำไมเขาถึงกลับลำอย่างกะทันหันเช่นนั้น?
แอนดี้ อธิบายว่า ผู้ชายมีส่วนผสมอันตรายของความขี้ขลาดอันมหาศาลกับความโรแมนติคอันสิ้นหวัง เป็นพวกรักง่ายหน่ายเร็ว ว่างั้นเถอะ พวกเขาชอบเป็นม้าตีนต้น ทำความรู้จักผู้หญิงที่ถูกใจอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาทุกนาทีในการอยู่ใกล้ชิดกับคุณ
คุณคือของเล่นสุดโปรดชิ้นใหม่ของเขา เหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ หรือไม้กลอ์ฟชุดใหม่ ยังไงยังงั้น เพียงแต่ดีกว่าหน่อยที่เขามีเซ็กซ์กับคุณได้
ตอนเริ่มต้น เขาจะ “สนุก” กับการเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ตื่นเต้นกับการพาคุณไปกินอาหารกลางวัน เกลี้ยกล่อมให้คุณเลิกงานเร็วกว่าปกติเพื่อพบกับเขานอกที่ทำงาน คุณจะพูดอะไรเกี่ยวกับแผนอนาคตของพวกคุณ เขาโอเคหมด เพราะตอนนั้นมันอยู่ในช่วง “ชั่วโมงสำราญ” (HAPPY HOUR) ของเขา
และแล้ว (ตามปกติก็หลังจาก 6 เดือนผ่านไป) ข้าวใหม่ปลามันก็จะเริ่มจืดชืด เพื่อนๆ ผู้ชายของเขาเริ่มพาแฟนคืนเดียวของพวกเขามาอวดในคืนอันเร่าร้อนสุดเหวี่ยง และเขาจะรู้สึกเสียดายความโสดขึ้นมาทันที
ผู้ชายน้อยคนที่เล่นเกมยาวเมื่อเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ พวกเขามองอนาคตแค่สัปดาห์ต่อๆไป มากกว่าจะเป็นปีต่อๆ ไป นั่นคือเหตุผลที่เขาเฉไฉเรื่องอนาคตมาตลอด 6 เดือนแรก จนกระทั่งคุณเริ่มโวยเกี่ยวความยืนยาวของความสัมพันธ์นั่นแหละ เขาจึงคิดขึ้นได้ว่า เขากำลังอยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาวกับคุณ(นี่หว่า)
ผู้ชายในวัย 20-30 นั้น ยังระเริงกับความสุขแบบวัยรุ่นมากกว่าที่จะต้องรับผิดชอบกับชีวิตคู่ และตอนนี้เขาจะใช้เวลาอีก 6 เดือนในการพยายามหนีออกไปจากมัน
ตรงนี้เองที่ความขี้ขลาดเข้ามามีบทบาทนำ เขาจะเริ่มพูดจาแต่เรื่องสวยสดงดงาม เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและเพื่อให้คุณตายใจ มากกว่าจะยอมรับว่า ที่จริงมันไม่ใช่
ในทุกความสัมพันธ์ของแอนดี้ เขาเคยถูกถามว่าทำไมจึงไม่สามารถวางแผนอนาคตได้ มันเป็นเพราะเขามองไม่เห็นอนาคตหรือ?
เปล่าเลย!
เขาแค่คิดว่าผู้ชายไม่ได้ถูกโปรแกรมให้วางแผนอารมณ์ของพวกเขาต่างหาก ถ้าเป็นเรื่องเบี้ยเลี้ยงเงินเดือน การนัดเลี้ยงรุ่น หรือ การไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ละก็ ได้เลย พวกเขาจะวางแผนการปฏิบัติได้อย่างละเอียดลออ
แต่กับเรื่องที่จริงจังกว่านั้น ผู้ชายจะโง่ทันที และไม่รู้ว่าจะหันไปทางไหน ได้แต่หันรีหันขวางอย่างที่เห็นกัน ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมผู้ชายจึงยอมรับความคิดเรื่องอนาคตจากผู้หญิงของพวกเขาในระยะแรก (ยังคิดอะไรไม่ออก ก็รับๆไปก่อน ว่างั้นเถอะ) จนกระทั่งพวกเขาตระหนักในที่สุดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริง
แล้วทำไมวลีที่ว่า “มันชักไม่เข้าท่าแล้วละ” จึงหลุดออกมาดื้อๆ ซะยังงั้นเสมอ?
ประการแรก เขาน่าจะไม่อยากสูญเสียคุณ เขาอาจแสร้งทำเป็นว่าพวกเพื่อนผู้ชายของเขาคือ เพื่อนแท้ แต่จริงๆ แล้ว คนๆ เดียวที่เขาเปิดใจให้ได้อย่างแท้จริงก็คือ หญิงสาวคนที่นอนเคียงข้างเขานี่แหละ และเขาไม่ต้องการสูญเสียเธอไป
ประการต่อมาก็คือ อัตตาของเขา ผู้ชายคิดว่าพวกเขาสามารถทำทุกสิ่งได้ เขาสามารถรักษาความหวานชื่นกับคุณไว้ได้ขณะที่กำลังเป็นแฟนของคุณ มันต้องมีความสั่นสะเทือนขนาดแผ่นดินไหว 9 ริคเตอร์นั่นแหละที่จะทำให้เขาละทิ้งเหตุผลประการใดประการหนึ่งไปได้จริงๆ ในที่สุดก็จะมีเซ็กซ์แบบ “ปลอบประโลม” เกิดขึ้น มันเป็นคืนอันหวานชื่น
ดังนั้นเมื่อเขาพูดขึ้นในที่สุดว่าอะไรอยู่ในความคิดของเขา คุณจึงตกตะลึงเพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เขาจะพูดเช่นนั้นออกมาได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับอนาคตนั้นเชื่อถือได้แค่ช้อนชาเดียว มันมีโอกาสที่เขาอาจโกหกได้ เว้นแต่ว่าเขากำลังวางแผนอย่างแท้จริงสำหรับอนาคตของพวกคุณด้วยความสุขุมรอบคอบ ไม่ใช่โพล่งพล่อยๆ ออกมาเพื่อหลอกให้คุณมีความหวังไปวันๆ
แต่ก็อีกนั่นแหละ การเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาอาจไม่เคยคิดไกลไปข้างหน้าขนาดนั้นหรอก
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net