xs
xsm
sm
md
lg

โจ้-นท เกริกฤทธิ์วณิช กับเส้นทางชีวิตที่มีแบบแผน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ในวันฝนตกเบาๆ ภายใต้บรรยากาศสบายๆ เรามีนัดกับหนุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่ใสกิ๊ก โจ้-นท เกริกฤทธิ์วณิช ซึ่งชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนักสำหรับคนทั่วไป หากแต่ในวงการการเงินเขาถูกกล่าวถึงในฐานะหนุ่มนักวางแผนการลงทุนสายเลือดใหม่ ที่มาพร้อมดีกรีและความสามารถที่โดดเด่น ด้วยสไตล์การทำงานที่เน้นการเปิดรับความคิดเห็นทุกมุมมอง จุดนี้ทำให้โจ้-นท เกริกฤทธิ์วณิช ประธานบริหาร บริษัท สตาร์เทรดเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอซเอฟเทค เทคโนโลยี จำกัด ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยวัยที่ขึ้นต้นเพียง 30 ต้นๆ


โจ้ในท่าทีสบายๆ เล่าย้อนถึงอดีตก่อนมาเป็นนักวางแผนการเงินการลงทุนว่า พื้นฐานไม่ได้เริ่มจากการเงิน โดยที่บ้านทำธุรกิจสวิตช์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมการเปิด ปิด แสงสว่างภายในบ้านผ่านรีโมทคอนโทรลไร้สายได้ภายใต้ยี่ห้อ Air Switch  ช่วงเรียนปริญญาตรี ก็เรียนวิศวะไฟฟ้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นจึงลัดฟ้าไปต่อปริญญาโทที่ International Business Management  University of Surrey ประเทศอังกฤษ

จนปี 2007 เรียนจบกลับถึงเมืองไทย ก็ถูกทาบทามไปลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน  “สอบตกครับ (หัวเราะ) แต่ก็ได้ประสบการณ์เยอะมาก เดินหาเสียง ได้พบผู้คน ได้ขึ้นเวทีดีเบตกับคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ตอนหาเสียงผมรู้เลยว่าความรู้ที่มีอยู่ยังไม่พอที่จะเข้าไปช่วยเหลือใครได้ ผมยังต้องศึกษาและใช้เวลาหาประสบการณ์เพิ่มอีกมากจริงๆ แต่ผมตั้งเป้าหมายนะ ไม่ว่าช้าหรือเร็วผมจะต้องมีธุรกิจของผมเอง”  

เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น โจ้จึงเลือกทำงานกับบริษัท TOYOTA Motor (Thailand) Co., Ltd. ตำแหน่ง Product Management  วางแผนผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของลูกค้าคนไทย ซึ่งโจ้บอกว่าเป็นช่วงที่ท้าทายมาก เพราะเขาต้องดูแล Camry และ Fortuner  รถตัวใหม่ที่โตโยต้าคาดหวังทำตลาดในไทยมาก แต่เมื่อเจอวิกฤติ Hamburger Crisis น้ำมันแพง รถขายยาก โจ้ต้องวางแผนอัดแคมเปญเพื่อทำตลาดอย่างหนัก เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย Camry, Fortuner ขายดี ความท้าทายตรงนั้นก็หมดลง บริษัทจึงให้มาดูและทำตลาดรถวีโก้ตัวใหม่

 
“ตอนดูวีโก้ก็โอเคนะครับ แต่ผมรู้สึกไม่มีอะไรใหม่ อีกอย่างคือช่วงนั้นผมเล่นหุ้นด้วย พออเมริกาเจอปัญหามันฉุดกันตกหมด ผมอยากรู้เพราะอะไร? ทำไม? เลยลาออกมาเรียนเรื่องหุ้นจริงจัง จนมาเจอ อ.ยุ้ย-พรวิมล รัตนประไพ ที่คิดหลักสูตร Star Trader เราคุยกันถูกคอเลยตัดสินใจลงขันเปิดโรงเรียนสอนการสร้างระบบการลงทุนที่เหมาะสม ก็ตรงเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าอยากมีธุรกิจของตัวเอง”

 
แน่นอนว่าการพลิกบทบาทจากพนักงานบริษัท มาเป็นครูสอนวางแผนการลงทุนให้ลูกศิษย์กว่า 70 คนในตอนนี้ ย่อมเป็นงานที่ท้าทายและเครียดสำหรับคนหนุ่มอย่างเขา เพราะลูกศิษย์ที่เรียนจบออกไปแล้วจะประสบความสำเร็จเรื่องการลงทุนหรือไม่นั้น ถือเป็นเครดิตสำคัญของ "โจ้"  ดังนั้นการถ่ายทอดวิชาความรู้จึงต้องละเอียดทุกขั้นตอน สอนในทุกเรื่อง ทำให้วันหยุดและเวลาพักผ่อนมีน้อยนัก

เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาในการพักผ่อนและวิธีคลายเครียดหลังต้องเจองานหนักเกือบทั้งสัปดาห์ โจ้บอกว่า ทุกครั้งที่ว่าง เขาจะคลายเครียดด้วยการสะพายกล้องท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ 



“เป็นคนชอบถ่ายรูป ชอบเที่ยว ผมจับกล้องมาตั้งแต่ม.4 ชอบถ่ายรูปเพื่อนๆ สมัยก่อนเทคโนโลยีไม่ทันสมัยแบบนี้ก็อัดภาพ เหงาๆหยิบมาดูแล้วมีความสุข เดี๋ยวนี้ก็อัพลงเฟซบุ๊กโชว์ลูกศิษย์ (หัวเราะ) ถ้าเรื่องเที่ยวตอนเรียนไปตลอด มาช่วงทำงานนี่ไม่ค่อยได้เที่ยวมากนัก”
 
โจ้บอกว่า เพราะงานของเขาเป็นงานที่ต้องเกาะติดสถานการณ์ ต้องเสพข่าวสารทุกมุมโลก ขาดอุปกรณ์สื่อสารคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ไม่ได้เลย วันเสาร์-อาทิตย์ก็ต้องบรรยายเรื่องการลงทุน เตรียมการสอน ทั้งยังต้องเป็นที่ปรึกษาให้ลูกศิษย์อีกด้วย

 
“ล่าสุดเพื่อนชวนปีนเขาที่เนปาล ดูตารางว่างปุ๊ปบอกเพื่อนก็ไปเลย ไปถึงกาฐมาณฑุก็นั่งเครื่องบินเล็กไปแทร็กกิงเอเวอเรสต์ ทีมผมมี 8 คนเดินเท้าขึ้นไป สนุกแต่ทรมานมาก คือนึกในใจอะไรกันนี่?? พอเดินไปครึ่งทาง ผมกับเพื่อนรู้สึกแน่นหายใจลำบาก ก็ทนเดินไปถึงเต็นท์สำหรับคนป่วยแล้วรู้ตัวไม่ไหว เพราะก่อนไปไม่ได้เตรียมตัวด้วย ไม่อยากฝืนเพราะถ้าไปต่อแล้วไม่ไหวไปเป็นภาระเพื่อน ต้องจ้างม้าหรือเครื่องบินไปรับยิ่งหนักเข้าไปอีก เพื่อนอีก 6 คนที่เหลือเขาไปกันต่อแต่ปรากฏถึงยอดจริงๆ 2 คน มีหลายคนฝืนขึ้นไปปอดฉีกเลือดไหลเยอะมาก เลยเก็บแรงปีนภูเขาลูกอื่นดีกว่า” โจ้เล่าพร้อมรอยยิ้มที่สดใส

 
แม้เป้าหมายการถ่ายภาพบนยอดเขาเอเวอเรสต์จะไม่สมหวัง แต่โจ้บอกไม่ส่งผลอะไร ทุกอย่างถือเป็นการเรียนรู้ เป็นแบบฝึกหัด ระหว่างที่นอนพักเห็นนักท่องเที่ยวหลายคนถูกหามลงมา ขณะที่เพื่อนอีก 4 คน ที่ไปไม่ถึงและเพื่อนอีก 2 คนที่พิชิตยอดเขาได้ ต่างกลับมาเล่าให้ฟังว่าระหว่างทางเจออะไรบ้าง ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมากมาย
 
เมื่อถามโจ้ว่าเป้าหมายชีวิตหลังจากนี้ คืออะไร โจ้บอกยังไม่ได้คิด ณ เวลานี้ขอทำหน้าที่บริหารบริษัท สตาร์เทรดเดอร์ (ไทยแลนด์) ให้ดีที่สุดก่อนเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น