ที่พาดหัวเอาไว้เช่นนี้ก็เพราะดัชเชสแห่งอัลบ้า ในชันษา 86 องค์นี้ เพิ่งจะเข้าสู่พิธีสมรสครั้งที่3 กับหนุ่มใหญ่ อัลฟองโซ ดิแอซ เมื่อไม่ถึงปีมานี้เอง และสวามีคนล่าสุดนี้มีอายุห่างจากฝ่ายหญิงถึง 25 ปี เรียกได้ว่าฟังอย่างนี้แล้วสร้างความกระชุ่มกระชวยให้แก่ดัชเชสได้ไม่น้อย
ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าสู่พิธีสมรสกันได้นั้น ต้องพิสูจน์”รักแท้” เพราะต้องผ่านอุปสรรคขวากหนามที่ทำให้ชีวิตรักของทั้งคู่เกือบจะไปไม่รอด ซึ่งอุปสรรคที่ว่านั้นเกิดจากทายาทชายหญิงทั้ง 6 ของดัชเชสและดยุคแห่งอัลบ้า สวามีพระองค์แรก ที่ไม่ยอมให้มารดาเข้าสู่พิธีสมรสกับหนุ่มใหญ่รายนี้อย่างเด็ดขาด หากไม่ยอมแบ่งทรัพย์สมบัติมูลค่าถึง 3 พันล้านยูโรให้กับลูกๆทุกคนอย่างถูกต้องเสียก่อน
แต่ที่สุดเมื่อดัชเชสยินยอมทำตามความประสงค์จนเป็นที่พอใจของลูกๆทุกคนแล้ว จึงมีอิสรภาพที่จะแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีกับหนุ่มรายล่าสุดนี้ได้ โดยลูก 4ใน 6 คนยอมมาเข้าพิธีแต่งงานในฐานะญาติฝ่ายเจ้าสาว อันเป็นประเพณีของชาวคริสต์ และจากนั้นตัวดัชเชสเองก็ไม่ได้ถูกรังควานจากลูกๆทุกคนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหมายความว่าลูกๆทุกคนสนใจที่จะได้ส่วนแบ่งในมหาสมบัติมากกว่าจะสนใจในตัวมารดาของตนหลังจากนั้น
แต่การที่ดัชเสแห่งอัลบ้าได้ตัดสินพระทัยที่จะร่วมหอลงโรงกับหนุ่มรายนี้ ก็ต้องทนคำครหาด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะใครจะเชื่อว่าหญิงในวัยโรยสุดๆที่ไม่หลงเหลือเค้าความงามของอิตถีเพศเลยแม้แต่น้อย จะยังมีอะไรดีผูกใจผู้ชายที่อ่อนกว่าขนาดคราวลูกไว้ได้ นอกจากเงินทองและความสะดวกสบาย และฝ่ายชายก็ถูกสังคมตั้งคำถามว่าที่ยอมแต่งงานอยู่กินกับผู้หญิงคราวแม่นี้ นอกจากจะเพราะความมั่งคั่งสะดวกสบายที่จะได้รับในระหว่างนี้ ก็คงเป็นเพราะเพื่อมรดกที่อาจได้รับเมื่อฝ่ายหญิงลาโลกนี้ไปแล้ว ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ อัลฟองโซ่ ดิแอซ แสดงออกอย่างไม่เกรงคำครหา ก็คือการประกาศตนอย่างชัดเจน ที่จะอยู่เคียงข้างภรรยาตามกฎหมายด้วยการไปไหนต่อไหนด้วยกัน และขนาดที่ทั้งคู่ไปพักตากอากาศในช่วงฤดูร้อนนี้ ก็กระทำอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะไม่ได้ปิดบังหรือเกรงต่อการจะตกเป็นข่าว หรือถูกถ่ายภาพโดยปาปารัซซี่แม้แต่น้อย
ที่เด็ดสุดคือคือชุดที่ฝ่ายหญิงใช้สวมใส่ในการพักผ่อนริมชายหาดนั้น ต้องเรียกได้ว่าน่าจะเป็นชุดว่ายน้ำที่เหมาะกับสาวรุ่นวัยแรกแย้มสวมใส่กันมากกว่า และหากเป็นสาวรุ่นที่สวมใส่ชุดนี้เดินไปตามชายหาด รับรองได้ว่าคนก็ยังเหลียวมองน้อยกว่า เพราะดัชเชสสาวรุ่นลายครามใส่ทูพีซชนิดใช้ผ้าน้อยมาก อวดรูปโฉมโนมพรรณอย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำยังเป็นชุดบิกินี่สีสดใสลายดอกแดงเหลืองกับใบไม้สีเขียวบนพื้นขาวแลดูสดใสสมกับเป็นชุดว่ายน้ำในฤดูร้อนอย่างแท้จริง
ในขณะที่หนุ่มคนข้างๆใส่พียงกางเกงบ็อกเซอร์ธรรมดาๆ และผู้ติดตามหญิงของดัชเชสเองก็ใส่ชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวแต่แอบเว้าหลังเป็นสีสมพูเข้ม เรียกได้ว่าทั้งสามคนนี้เดินไปที่ไหนต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งหาด เพราะไปไหนต้องเดินไปด้วยกันทั้งสามคน โดยมีตัวของดัชเชสอยู่ตรงกลาง ขนาบซ้ายขวาด้วยสามีและผู้ติดตามตลอดเวลา
แม้ในเวลาที่จะเดินไปไหนต่อไหน เมื่อสามีใส่เสื้อโปโลและกางเกงขาสั้นมิดชิด ผู้ติดตามใส่ชุดกระโปรงผ้าเบาลายดอก แต่ดัชเชสเองกลับเปรี้ยวจี๊ดสวมชุดเป็นเสื้อคลุมคอลึก เนื้อผ้าบางแบบซีทรูทับชุดว่ายน้ำเดิมเพียงเท่านั้น และมีหมวกปีกกว้างกันแดดลายดอกสีชมพูพร้อมแว่นกันแดดอันโต บ่งบอกถึงรสนิยมของตัวดัชเชสเองว่าเป็นคนที่รักสวยรักงามและไม่ยอมตกเทรนด์โดยเด็ดขาด
โดยดูจากชุดแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ “วิคตอริโอ อี ลุคคิโน่”ในการใช้ชุดสีชมพูหม่นมีดอกไม้ผ้าสีชมพูอ่อนปักบริเวณอกและแขนเสื้อ แลดูอ่อนโยนดูเหมาะสมที่จะเป็นชุดแต่งงานของเจ้าสาวสูงวัย ซึ่งรสนิยมในเรื่องการแต่งกายของดัชเชสนี้เป็นที่ยอมรับของ”วานิตี้ แฟร์”ที่ยกย่องว่าดัชเชสแห่งอัลบ้าคือสตรีผู้แต่งกายดีที่สุดเมื่อปี 2009
ชื่อเต็มของดัชเชสแห่งอัลบ้าคือ “คาเยตานา ฟิตซ์-เจมส์ สจ๊วต ”ซึ่งว่ากันว่าชื่อเต็มของเธอนั้น มีความยาวกว่าชื่อเต็มที่แท้จริงของสมเด็จพระราชินิอลิซาเบ็ธ II แห่งอังกฤษเสียอีก มารอลุ้นกันต่อไปว่าดัชเชสผู้ไม่ยอมโรยพระองค์นี้ จะมีแรงปล่อย”ความเปรี้ยว”ไปได้อีกนานสักเท่าใด
