xs
xsm
sm
md
lg

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล กับชีวิตมนุษย์เดินทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจาก นิตยสาร Health&Cuisine ฉบับเดือนกรกฏาคม 2555
>>อดีตนักเล่นเกมส์โชว์อาชีพ เซลล์ขายรถยนต์ ไกด์ท่องเที่ยวที่เดินทางมาแล้วทั่วทุกมุมโลก จนพลิกผันมาเป็นพิธีกรในรายการท่องเที่ยวต่างๆ กระทั่งเป็นโต้โผจัดการประกวดนางงามมิสไทยแสนด์เวิลด์ และด้วยลักษณะการนำเสนอ วิธีการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล โดดเด่นเป็นหนึ่งในพิธีกรรายการโทรทัศน์ระดับต้นๆ ของประเทศ

และด้วยหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบในปัจจุบันส่งผลให้เขาต้องออกเดินทางไปที่ต่างๆ มากมายทั่วทุกมุมโลก แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ประสบการณ์ในชีวิตนักเดินทางอย่างเขาต้องกินอยู่อย่างไร พบเจออะไรที่น่าประทับใจบ้าง แล้วอะไรคือของฝากที่เค้ามักจะหอบหิ้วกลับมาด้วยเสมอ

Celeb Online ขอแนะนำเรื่องราวส่วนหนึ่งของ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล กับชีวิตมนุษย์เดินทาง" จากคอลัมน์ Exclusive Living ในนิตยสาร Health&Cuisine ฉบับเดือนกรกฏาคม 2555 ที่คุณณวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ในชีวิตนักเดินทางของเขา

"...เคยนับเล่นๆ ว่าปีหนึ่งเดินทางมากน้อยแค่ไหน ได้ผลว่า สองร้อยกว่าวันอยู่บนเครื่องบินและบนแผ่นดินต่างประเทศ ที่เหลืออีกร้อยกว่าวันถึงเป็นเวลาที่อยู่ในเมืองไทยถือว่าช่วงนั้นชีพจรลงเท้าสุดๆ แล้ว"

"สิ่งที่ขับเคลื่อนให้มีวันนี้คือความคิดที่ไม่หยุดนิ่ง ผมเชื่อว่าอุปกรณ์สำคัญของคนคือต้องมีทั้ง ฝัน และ ไฟ อาจเรียกว่าความทะเยอทะยานก็ได้ เพราะถ้ามองในแง่ดี ความทะเยอทะยานก็นับเป็นสิ่งดีเสมือนเป็นหางเสือคอยบังคับทิศทางให้เรามีจุดหมายปลายทางดีๆ ในชีวิต"
ภาพประกอบจาก นิตยสาร Health&Cuisine ฉบับเดือนกรกฏาคม 2555
10 ร้านเด็ดในดวงใจในฐานะมนุษย์เดินทาง ได้เดินทางพบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ น่าตื่นใจตลอดเวลา ระหว่างทางที่ว่ามีร้านเด็ดมาแนะนำชาว H & C บ้างไหม

(หัวเราะ) "ไปมาเยอะ ชิมมาเยอะจนไม่ค่อยรู้สึกว่าอันไหนพิเศษ แต่ถ้าให้เลือกผมขอเลือก 10 ร้านดังนี้ครับ ร้านแรกเป็นร้านที่คนไทยรู้จักกันดี คือร้านเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นส์จะให้อร่อยต้องเป็นสาขาที่ลอนดอน สาขาอื่นไม่กล้าคอนเฟิร์ม และต้องสั่งเป็ดย่างกับหมูแดง พลาดไม่ได้

ร้านที่ 2 เป็นร้านขนมชื่อดังและเก่าแก่มากในกรุงปารีส ซึ่งก็คือ Laduree นั่งกินมาการองคู่กับชาอุ่นๆ นั่งมองวิวเพลินๆ เจริญใจดีแท้
 ร้านที่ 3 ร้านอาหารไทย Blue Elephant สาขาแรกที่เบลเยี่ยม แนะนำเมนูปลาสามรส เปาะเปี๊ยะทอด และต้มยำกุ้ง ร้านที่ 4 อยู่ที่เยอรมนี ชื่อร้าน Weinwirt ในมิวนิก เมนูขาหมูเยอรมันของแท้อร่อยมากมีขายเฉพาะวันจันทร์เท่านั้น ต่อไปร้านที่ 5 ผมยกให้ Ithaa ที่โรงแรม Conrad Maldives Rangali Island เป็นร้านอาหารในบรรยากาศใต้ทะเล กินอาหารไปมองเห็นโลกใต้ทะเลไป ไม่มีเมนูไหนถูกใจเป็นพิเศษ เพราะบรรยากาศช่วยให้อร่อยได้เยอะเลย" (หัวเราะ)

"ร้านที่ 6 คือ Blinde Kuh เมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์ เป็นร้านที่กินอิ่มแล้วได้กุศล เพราะร้านนี้เสิร์ฟในบรรยากาศมืดสนิท พนักงานในร้านล้วนเป็นคนตาบอด และรายได้ของร้านจะนำไปช่วยคนตาบอดด้วยครับ ถึงร้านที่เท่าไหร่แล้ว 7 แล้วนะ คราวนี้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่โรงแรม Emirate Palace ทุกเมนูทั้งหวานและคาวของที่นี่จะเสิร์ฟพร้อมผงทองคำแท้ อลังการมาก ต่อกันที่ร้านที่ 8 อยู่ที่สิงคโปร์ ชื่อร้านอ่านยากหน่อย NG AH SIO Pork Ribs Soup Eating House ร้านนี้ขายบะกุ๊ดเต๋มาแล้ว 3 ชั่วอายุคน อร่อยมาก ผมว่าอร่อยที่สุดในประเทศนี้แล้วล่ะ ส่วนร้านที่ 9 ต้องให้ร้านในญี่ปุ่นชื่อ ร้าน Modern Toilet จะสั่งเมนูอะไรก็ตามแต่ทุกจานต้องเสิร์ฟมาในรูปแบบโถส้วม ได้บรรยากาศแปลกๆ ไปอีกแบบหนึ่ง ร้านสุดท้ายไม่มีชื่อร้าน เพราะไม่เจาะจงเป็นพิเศษ ผมหมายถึงร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะร้านเล็กจ้อยเท่าเพิงขายข้าวแกงแค่ไหนก็อร่อย กินได้แทบทุกร้าน ซูชิ ซาซิมิ ปลาดิบ อะไรแนวนี้กินแบบชาวบ้านญี่ปุ่นกินจริงๆ อร่อยได้ฟิลมากครับ"

นอกจากสิบร้านประทับใจแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวของ 10 ประสบการณ์จานแปลก, เรื่องราวของการกินอยู่ในแต่ละวันอย่างณวัฒน์ และ เรื่องราวของที่ระลึกจากการเดินทาง ซึ่งสามารถติดตามอ่านได้จาก นิตยสาร Health&Cuisine ฉบับเดือนกรกฏาคม 2555 :: Report by FLASH

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition


กำลังโหลดความคิดเห็น