By Lady Manager
ทุกวันนี้แพทย์ทางเลือกกำลังเป็นอีกศาสตร์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เช่นเดียวกับ “การฝังเข็ม” หนึ่งในแนวทางการรักษาของแพทย์แผนจีน ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาโรคได้แล้ว ยังนำมาใช้ประโยชน์ในด้านความสวย ความงามได้ด้วย
“ตามศาสตร์แพทย์จีน การทำงานของอวัยวะภายในร่างกายของเรา จะมีการทำงานควบคู่กันเสมอ และในเรื่องความงามของผิวพรรณนั้น เราจะดูที่การทำงานของปอด เพราะปอดเป็นตัวควบคุมผิวหนังของร่างกาย
หากลมปราณปอดไม่แข็งแรง เลือดก็จะไหลเวียนไม่ดี ไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลถึงผิวหนังทำให้เกิดฝ้าได้ นอกจากนี้ปอดยังทำงานควบคู่กับลำไส้ใหญ่ ดังนั้นคนที่ระบบขับถ่ายไม่ดี ท้องผูก ก็มักเป็นสิว”
แพทย์หญิงแผนจีน ภทรพรรณ วงศ์ทางประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มแห่งปราณณารา เกริ่นให้ทราบถึงแนวทางศาสตร์แพทย์แผนจีน ที่ระบบลมปราณภายในส่งผลถึงผิวพรรณภายนอก
คุณหมอแผนจีนให้ข้อมูลต่อว่า หากลมปราณในปอดไม่แข็งแรง ก็มักเกิดปัญหาผิวอย่าง สิว, ฝ้า, ใบหน้าหมองคล้ำ ปัญหาผิวเหล่านี้ในทางแพทย์แผนจีนสามารถรักษาได้ด้วยการ “ฝังเข็ม”
วิธีฝังเข็มบนใบหน้า
ว่าแล้วผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็ม ได้อธิบายรายละเอียดการฝังเข็มเพื่อรักษา 3 ปัญหาผิวยอดฮิตที่กวนใจสาวๆ อย่าง สิว, ฝ้า, และใบหน้าหมองคล้ำ มาละเอียดยิบดังนี้ค่ะ
การฝังเข็มรักษาฝ้า ฝังรอบบริเวณที่เกิดฝ้า
“การฝังเข็มเพื่อรักษาฝ้า เราจะฝังเข็มบริเวณที่เป็นฝ้าเลย เช่น ถ้าฝ้าเป็นปื้นๆ เป็นแผ่น เราก็จะรักษาด้วยการฝังไปที่รอบแผ่นฝ้า นอกจากนี้อาจต้องฝังตำแหน่งอื่นร่วมด้วยเช่น ฝังที่แขนขา ร่วมด้วยเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี การรักษาฝ้าก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น ซึ่งการรักษาฝ้าทำเพียง 1-2 ครั้ง ก็เริ่มเห็นผลแล้วว่าฝ้าจางลง ดังนั้นบางคนทำสัก 5-6 ครั้ง ฝ้าก็หายหมด แต่บางคนต้องทำถึง 10 ครั้งถึงจะหาย”
ทว่าฝ้าจะกลับมากวนใจอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่การดูแลตัวของ และกรรมพันธุ์ของแต่ละคนด้วย
“ถามว่าฝ้าจะหายถาวรมั้ย อันนี้ต้องแล้วแต่การดูแลตัวเองของคนไข้ รวมถึงระยะเวลาที่เป็นฝ้าด้วย เช่น คนที่เป็นมานานแล้ว หรือเป็นเรื้อรังจะรักษายากกว่าคนที่เพิ่งเป็น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสาเหตุด้วยว่าฝ้านั้นเกิดจากอะไร เช่นถ้าเกิดจากกรรมพันธุ์ ฝ้าก็อาจจะขึ้นมาอีกได้ แต่ถ้าเป็นฝ้าที่เกิดจากแดด หากคนไข้ดูแลตัวเองดี ทาครีมกันแดดเยอะๆ เลี่ยงแดดได้ ฝ้าก็อาจจะหายแล้วหายเลย ไม่กลับมาเป็นอีก”
ฝังเข็มรักษาสิว ฝังข้างเม็ดสิว
คุณหมอแผนจีนหน้าใสเธอว่า การฝังเข็มรักษาสิวส่วนใหญ่จะเห็นผลได้เร็ว ประมาณว่ารุ่งขึ้นสิวก็ยุบแล้ว! ทว่าการรักษาสิว ก็มิใช่รักษาได้กับสิวทุกประเภทหรอกนะคะ
“การฝังเข็มบริเวณที่เป็นสิว ส่วนใหญ่จะเห็นผลค่อนข้างเร็ว พอฝังไปวันนี้ วันรุ่งขึ้น สิวเม็ดนั้นก็จะยุบแล้ว เช่น หากสิวมีหนองอยู่ หนองก็จะค่อยๆ ยุบลง ค่อยๆ แห้งลง การอักเสบน้อยลงและค่อยๆ หายไป แต่การฝังเข็มรักษาสิว ใช้ไม่ได้กับทุกประเภท อย่างเช่น สิวเสี้ยนนั้นไม่ได้ ส่วนใหญ่จะได้ผลดีกับสิวที่เป็นลักษณะตุ่มแดง มีการอักเสบ หรือสิวอุดตันที่เป็นตุ่มแดงใหญ่ๆ มีการอักเสบ”
“การรักษาสิวจะทำควบคู่กัน ทั้งการฝังบริเวณจุดที่เป็นสิว โดยเราจะแทงข้างๆ ให้ปลายเข็มโดนบริเวณฐานสิว ซึ่งจะให้บริเวณนั้น เลือดไหลเวียนดีขึ้น ขับของเสียได้ดีขึ้น ลดการอักเสบได้ดีขึ้ นอกจากนี้ก็อาจต้องฝังจุดอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งต้องดูตามอาการคนไข้แต่ละราย ว่าเขาเป็นสิวจากสาเหตุใด เช่น บางคนร่างกายมีความร้อนมากเกินไป ก็ต้องรักษาด้วยการฝังเข็มไปในจุดที่จะระบายความร้อน ขับความร้อนออกจากร่างกาย เพื่อปรับสมดุลร่างกาย หรือถ้าระบบขับถ่ายมีปัญหา ก็ต้องฝังเข็มในจุดที่จะช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายร่วมด้วย”
ฝังเข็มแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ฝังหัวคิ้ว, ขมับ, ใต้โหนกแก้ม
“การฝังเข็มเพื่อให้หน้าใส เราจะฝังที่ หัวคิ้ว, ขมับ, และใต้โหนกแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่จะกระตุ้นให้เลือดบนใบหน้าไหลเวียนดี เพราะการที่ดูหน้าใสก็เพราะเลือดไปเลี้ยงหน้าได้ดีขึ้น หน้าเราก็จะเปล่งปลั่ง
การฝังเข็มเพื่อช่วยให้หน้าใส ส่วนใหญ่ฝังไปประมาณ 10 ครั้ง ถึงจะเห็นผลชัดเจน แต่บางคนฝังไป 4-5 ครั้งก็จะเริ่มรู้สึกแล้วว่าหน้าใสขึ้น
ส่วนความถี่ในการฝังคือ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ตัวคนไข้เองด้วย ว่าพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ สุขภาพร่างกายโดยรวมนั้น เราดูแลตัวเองดีหรือไม่” ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มแห่งปราณณารา อธิบาย
ตามดูปฏิบัติการจิ้มจึ้กบนใบหน้า
โอกาสนี้เราพา นางแบบใจสู้ ผู้ไม่กลัวเข็ม ไม่กลัวเจ็บ มาทดลองฝังเข็มบนใบหน้าเพื่อรักษาฝ้ารักษาสิว และกระตุ้นโลหิตบนใบหน้าให้หน้าขาวใสซะหน่อย!
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการฝังเข็ม คุณหมอแผนจีน เธอว่าจะต้องทำการตรวจร่างกายคนไข้โดยระเอียด ทั้งจับชีพจร, ตรวจตา, ตรวจลิ้น, ดมกลิ่น ซึ่งการดมกลิ่นนี้ คุณหมอว่าการดม สามารถสังเกตถึงอาการผิดปกติบางอย่างเช่น หากคนไข้ระบบขับถ่ายไม่ดี แค่พูดก็จะได้กลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว ..หลังตรวจอาการเรียบร้อยผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็ม จึงบอกเล่าอาการ และแนวทางการรักษานางแบบสาวนางนี้มาว่า
“คนไข้รายนี้ ตามผิวพรรณและใบหน้า อาการไม่ค่อยชัดเจน เนื่องจากคนไข้ผิวพรรณค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่จะมีปัญหาฝ้าและสิวเล็กน้อย ดังนั้นในรายนี้ เราจะรักษาตามอาการที่เป็น นั่นคือ ฝังเข็มตามจุดที่มีฝ้าคือ บริเวณโหนกแก้ม และสิวบริเวณใต้คาง รวมถึงจะฝังเข็มกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนบนใบหน้าได้ดีขึ้น เพื่อให้หน้าใส ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น”
อธิบายเสร็จสรรพ คุณหมอแผนจีนเธอไม่รอช้า จัดการจิ้มเข็มลงบนใบหน้า เพื่อล่าฝันหน้าใสไร้สิว-ฝ้า ให้กับนางแบบที่นอนหลับตาพริ้ม.. โดยเริ่มจากการเช็ดแอลกอฮอล์ (alcohol) ที่บริวเวณจุดที่จะฝังเข็ม แล้วบรรจงฝังเข็มตามจุดที่คุณหมออธิบายไว้ข้างต้น นั่นคือ ฝังกระตุ้นโลหิตที่หัวคิ้ว, ขมับ, ใต้โหนกแก้ม ฝังบริเวณโดยรอบของฝ้า และบริเวณโคนสิว
ระหว่างที่ฝังเข็มเราไม่ได้ยินเสียงนางแบบร้องบอกว่าเจ็บสักแอะ กระทั่งหลังผ่านไป 30 นาที หลังคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม นำเข็มออก เรารี่เข้าไปสอบถามความรู้สึกระหว่างที่เข็มจิ้มใบหน้า จึงได้ความมาว่า
“ตอนฝังเข็มไม่เจ็บนะคะ ตอนที่แทงเข้าไปรู้สึกนิดเดียวว่าเหมือนมดกัด แต่รู้สึกหวาดเสียวมากกว่า เพราะเรารู้สึกว่ามีอะไรมาจิ้มที่หน้าเรา” เธอตอบพร้อมยิ้มสบายใจ
ด้านคุณหมอแผนจีนอธิบายให้ทราบว่า “สาเหตุที่ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ เพราะการฝังเข็มบนใบหน้าจะใช้เข็มที่เล็กและบางมาก นอกจากนี้การที่ใช้เข็มขนาดเล็กยังส่งผลดีคือ คนไข้ไม่ค่อยเกิดรอยแดงหลังการฝังเข็ม แต่อาจมีรอยเขียวเล็กๆ ที่ใบหน้าได้บ้าง เนื่องเข็มไปเกี่ยวที่เส้นเลือด เพราะเราเลี่ยงเส้นเลือดที่ผิวหนังไม่ได้ทั้งหมด”
เกร็ดน่ารู้การฝังเข็มที่ใบหน้า
- ก่อนรับบริการฝังเข็ม ควรล้างหน้าให้สะอาด แต่หากไม่สะดวกล้างหน้า หมอจะใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ เช็ดให้บริเวณที่จะฝังเข็ม
- ก่อนฝังเข็มที่ใบหน้าหากมีแผล ควรรักษาแผลสดบนใบหน้าให้หายเสียก่อน
- การฝังเข็ม นำมาใช้เกี่ยวกับความงามได้อีกหลากหลาย อาทิ ร่องแก้มลึก, รูขุมขนกว้าง, หนังตาตก, ใต้ตาคล้ำ, ลดริ้วรอยให้ตื้นขึ้น
- ปัญหาผิวพรรณที่การฝังเข็มช่วยไม่ได้ เช่น กระลึก (ช่วยให้สีจางลง แต่ไม่หายไป), แก้ไขรูปหน้า ที่ผิดปกติเนื่องจากกระดูกผิดรูป, แผลเป็นดึงรั้ง, ปานแดง, ปานดำ
- หลังฝังเข็ม สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ (ไม่มีข้อห้ามในการแต่งหน้า) ทว่าผลข้างเคียง คือ เข็มอาจจะไปสะกิดโดนเส้นเลือดฝอยทำให้เกิดรอยช้ำได้ แต่รอยช้ำนั้นจะหายได้ตามธรรมชาติภายใน 3-7 วัน
- ผู้ป่วยโรคเลือดออกแล้วหยุดยาก หญิงตั้งครรภ์ไม่เหมาะที่จะฝังเข็ม
ชมคลิป->เข็มจิ้มจะจะ!!!
ขอบคุณ! ปราณณารา ถ.ชิดลม โทร 083-1151135
ทุกวันนี้แพทย์ทางเลือกกำลังเป็นอีกศาสตร์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เช่นเดียวกับ “การฝังเข็ม” หนึ่งในแนวทางการรักษาของแพทย์แผนจีน ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาโรคได้แล้ว ยังนำมาใช้ประโยชน์ในด้านความสวย ความงามได้ด้วย
“ตามศาสตร์แพทย์จีน การทำงานของอวัยวะภายในร่างกายของเรา จะมีการทำงานควบคู่กันเสมอ และในเรื่องความงามของผิวพรรณนั้น เราจะดูที่การทำงานของปอด เพราะปอดเป็นตัวควบคุมผิวหนังของร่างกาย
หากลมปราณปอดไม่แข็งแรง เลือดก็จะไหลเวียนไม่ดี ไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลถึงผิวหนังทำให้เกิดฝ้าได้ นอกจากนี้ปอดยังทำงานควบคู่กับลำไส้ใหญ่ ดังนั้นคนที่ระบบขับถ่ายไม่ดี ท้องผูก ก็มักเป็นสิว”
แพทย์หญิงแผนจีน ภทรพรรณ วงศ์ทางประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มแห่งปราณณารา เกริ่นให้ทราบถึงแนวทางศาสตร์แพทย์แผนจีน ที่ระบบลมปราณภายในส่งผลถึงผิวพรรณภายนอก
คุณหมอแผนจีนให้ข้อมูลต่อว่า หากลมปราณในปอดไม่แข็งแรง ก็มักเกิดปัญหาผิวอย่าง สิว, ฝ้า, ใบหน้าหมองคล้ำ ปัญหาผิวเหล่านี้ในทางแพทย์แผนจีนสามารถรักษาได้ด้วยการ “ฝังเข็ม”
วิธีฝังเข็มบนใบหน้า
ว่าแล้วผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็ม ได้อธิบายรายละเอียดการฝังเข็มเพื่อรักษา 3 ปัญหาผิวยอดฮิตที่กวนใจสาวๆ อย่าง สิว, ฝ้า, และใบหน้าหมองคล้ำ มาละเอียดยิบดังนี้ค่ะ
การฝังเข็มรักษาฝ้า ฝังรอบบริเวณที่เกิดฝ้า
“การฝังเข็มเพื่อรักษาฝ้า เราจะฝังเข็มบริเวณที่เป็นฝ้าเลย เช่น ถ้าฝ้าเป็นปื้นๆ เป็นแผ่น เราก็จะรักษาด้วยการฝังไปที่รอบแผ่นฝ้า นอกจากนี้อาจต้องฝังตำแหน่งอื่นร่วมด้วยเช่น ฝังที่แขนขา ร่วมด้วยเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี การรักษาฝ้าก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น ซึ่งการรักษาฝ้าทำเพียง 1-2 ครั้ง ก็เริ่มเห็นผลแล้วว่าฝ้าจางลง ดังนั้นบางคนทำสัก 5-6 ครั้ง ฝ้าก็หายหมด แต่บางคนต้องทำถึง 10 ครั้งถึงจะหาย”
ทว่าฝ้าจะกลับมากวนใจอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่การดูแลตัวของ และกรรมพันธุ์ของแต่ละคนด้วย
“ถามว่าฝ้าจะหายถาวรมั้ย อันนี้ต้องแล้วแต่การดูแลตัวเองของคนไข้ รวมถึงระยะเวลาที่เป็นฝ้าด้วย เช่น คนที่เป็นมานานแล้ว หรือเป็นเรื้อรังจะรักษายากกว่าคนที่เพิ่งเป็น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสาเหตุด้วยว่าฝ้านั้นเกิดจากอะไร เช่นถ้าเกิดจากกรรมพันธุ์ ฝ้าก็อาจจะขึ้นมาอีกได้ แต่ถ้าเป็นฝ้าที่เกิดจากแดด หากคนไข้ดูแลตัวเองดี ทาครีมกันแดดเยอะๆ เลี่ยงแดดได้ ฝ้าก็อาจจะหายแล้วหายเลย ไม่กลับมาเป็นอีก”
ฝังเข็มรักษาสิว ฝังข้างเม็ดสิว
คุณหมอแผนจีนหน้าใสเธอว่า การฝังเข็มรักษาสิวส่วนใหญ่จะเห็นผลได้เร็ว ประมาณว่ารุ่งขึ้นสิวก็ยุบแล้ว! ทว่าการรักษาสิว ก็มิใช่รักษาได้กับสิวทุกประเภทหรอกนะคะ
“การฝังเข็มบริเวณที่เป็นสิว ส่วนใหญ่จะเห็นผลค่อนข้างเร็ว พอฝังไปวันนี้ วันรุ่งขึ้น สิวเม็ดนั้นก็จะยุบแล้ว เช่น หากสิวมีหนองอยู่ หนองก็จะค่อยๆ ยุบลง ค่อยๆ แห้งลง การอักเสบน้อยลงและค่อยๆ หายไป แต่การฝังเข็มรักษาสิว ใช้ไม่ได้กับทุกประเภท อย่างเช่น สิวเสี้ยนนั้นไม่ได้ ส่วนใหญ่จะได้ผลดีกับสิวที่เป็นลักษณะตุ่มแดง มีการอักเสบ หรือสิวอุดตันที่เป็นตุ่มแดงใหญ่ๆ มีการอักเสบ”
“การรักษาสิวจะทำควบคู่กัน ทั้งการฝังบริเวณจุดที่เป็นสิว โดยเราจะแทงข้างๆ ให้ปลายเข็มโดนบริเวณฐานสิว ซึ่งจะให้บริเวณนั้น เลือดไหลเวียนดีขึ้น ขับของเสียได้ดีขึ้น ลดการอักเสบได้ดีขึ้ นอกจากนี้ก็อาจต้องฝังจุดอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งต้องดูตามอาการคนไข้แต่ละราย ว่าเขาเป็นสิวจากสาเหตุใด เช่น บางคนร่างกายมีความร้อนมากเกินไป ก็ต้องรักษาด้วยการฝังเข็มไปในจุดที่จะระบายความร้อน ขับความร้อนออกจากร่างกาย เพื่อปรับสมดุลร่างกาย หรือถ้าระบบขับถ่ายมีปัญหา ก็ต้องฝังเข็มในจุดที่จะช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายร่วมด้วย”
ฝังเข็มแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ฝังหัวคิ้ว, ขมับ, ใต้โหนกแก้ม
“การฝังเข็มเพื่อให้หน้าใส เราจะฝังที่ หัวคิ้ว, ขมับ, และใต้โหนกแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่จะกระตุ้นให้เลือดบนใบหน้าไหลเวียนดี เพราะการที่ดูหน้าใสก็เพราะเลือดไปเลี้ยงหน้าได้ดีขึ้น หน้าเราก็จะเปล่งปลั่ง
การฝังเข็มเพื่อช่วยให้หน้าใส ส่วนใหญ่ฝังไปประมาณ 10 ครั้ง ถึงจะเห็นผลชัดเจน แต่บางคนฝังไป 4-5 ครั้งก็จะเริ่มรู้สึกแล้วว่าหน้าใสขึ้น
ส่วนความถี่ในการฝังคือ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ตัวคนไข้เองด้วย ว่าพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ สุขภาพร่างกายโดยรวมนั้น เราดูแลตัวเองดีหรือไม่” ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มแห่งปราณณารา อธิบาย
ตามดูปฏิบัติการจิ้มจึ้กบนใบหน้า
โอกาสนี้เราพา นางแบบใจสู้ ผู้ไม่กลัวเข็ม ไม่กลัวเจ็บ มาทดลองฝังเข็มบนใบหน้าเพื่อรักษาฝ้ารักษาสิว และกระตุ้นโลหิตบนใบหน้าให้หน้าขาวใสซะหน่อย!
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการฝังเข็ม คุณหมอแผนจีน เธอว่าจะต้องทำการตรวจร่างกายคนไข้โดยระเอียด ทั้งจับชีพจร, ตรวจตา, ตรวจลิ้น, ดมกลิ่น ซึ่งการดมกลิ่นนี้ คุณหมอว่าการดม สามารถสังเกตถึงอาการผิดปกติบางอย่างเช่น หากคนไข้ระบบขับถ่ายไม่ดี แค่พูดก็จะได้กลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว ..หลังตรวจอาการเรียบร้อยผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็ม จึงบอกเล่าอาการ และแนวทางการรักษานางแบบสาวนางนี้มาว่า
“คนไข้รายนี้ ตามผิวพรรณและใบหน้า อาการไม่ค่อยชัดเจน เนื่องจากคนไข้ผิวพรรณค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่จะมีปัญหาฝ้าและสิวเล็กน้อย ดังนั้นในรายนี้ เราจะรักษาตามอาการที่เป็น นั่นคือ ฝังเข็มตามจุดที่มีฝ้าคือ บริเวณโหนกแก้ม และสิวบริเวณใต้คาง รวมถึงจะฝังเข็มกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนบนใบหน้าได้ดีขึ้น เพื่อให้หน้าใส ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น”
อธิบายเสร็จสรรพ คุณหมอแผนจีนเธอไม่รอช้า จัดการจิ้มเข็มลงบนใบหน้า เพื่อล่าฝันหน้าใสไร้สิว-ฝ้า ให้กับนางแบบที่นอนหลับตาพริ้ม.. โดยเริ่มจากการเช็ดแอลกอฮอล์ (alcohol) ที่บริวเวณจุดที่จะฝังเข็ม แล้วบรรจงฝังเข็มตามจุดที่คุณหมออธิบายไว้ข้างต้น นั่นคือ ฝังกระตุ้นโลหิตที่หัวคิ้ว, ขมับ, ใต้โหนกแก้ม ฝังบริเวณโดยรอบของฝ้า และบริเวณโคนสิว
ระหว่างที่ฝังเข็มเราไม่ได้ยินเสียงนางแบบร้องบอกว่าเจ็บสักแอะ กระทั่งหลังผ่านไป 30 นาที หลังคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม นำเข็มออก เรารี่เข้าไปสอบถามความรู้สึกระหว่างที่เข็มจิ้มใบหน้า จึงได้ความมาว่า
“ตอนฝังเข็มไม่เจ็บนะคะ ตอนที่แทงเข้าไปรู้สึกนิดเดียวว่าเหมือนมดกัด แต่รู้สึกหวาดเสียวมากกว่า เพราะเรารู้สึกว่ามีอะไรมาจิ้มที่หน้าเรา” เธอตอบพร้อมยิ้มสบายใจ
ด้านคุณหมอแผนจีนอธิบายให้ทราบว่า “สาเหตุที่ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ เพราะการฝังเข็มบนใบหน้าจะใช้เข็มที่เล็กและบางมาก นอกจากนี้การที่ใช้เข็มขนาดเล็กยังส่งผลดีคือ คนไข้ไม่ค่อยเกิดรอยแดงหลังการฝังเข็ม แต่อาจมีรอยเขียวเล็กๆ ที่ใบหน้าได้บ้าง เนื่องเข็มไปเกี่ยวที่เส้นเลือด เพราะเราเลี่ยงเส้นเลือดที่ผิวหนังไม่ได้ทั้งหมด”
เกร็ดน่ารู้การฝังเข็มที่ใบหน้า
- ก่อนรับบริการฝังเข็ม ควรล้างหน้าให้สะอาด แต่หากไม่สะดวกล้างหน้า หมอจะใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ เช็ดให้บริเวณที่จะฝังเข็ม
- ก่อนฝังเข็มที่ใบหน้าหากมีแผล ควรรักษาแผลสดบนใบหน้าให้หายเสียก่อน
- การฝังเข็ม นำมาใช้เกี่ยวกับความงามได้อีกหลากหลาย อาทิ ร่องแก้มลึก, รูขุมขนกว้าง, หนังตาตก, ใต้ตาคล้ำ, ลดริ้วรอยให้ตื้นขึ้น
- ปัญหาผิวพรรณที่การฝังเข็มช่วยไม่ได้ เช่น กระลึก (ช่วยให้สีจางลง แต่ไม่หายไป), แก้ไขรูปหน้า ที่ผิดปกติเนื่องจากกระดูกผิดรูป, แผลเป็นดึงรั้ง, ปานแดง, ปานดำ
- หลังฝังเข็ม สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ (ไม่มีข้อห้ามในการแต่งหน้า) ทว่าผลข้างเคียง คือ เข็มอาจจะไปสะกิดโดนเส้นเลือดฝอยทำให้เกิดรอยช้ำได้ แต่รอยช้ำนั้นจะหายได้ตามธรรมชาติภายใน 3-7 วัน
- ผู้ป่วยโรคเลือดออกแล้วหยุดยาก หญิงตั้งครรภ์ไม่เหมาะที่จะฝังเข็ม
ชมคลิป->เข็มจิ้มจะจะ!!!
ขอบคุณ! ปราณณารา ถ.ชิดลม โทร 083-1151135