เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนมีโอกาสไปตะลุยฮอยอัน เมืองมรดกโลกของเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ภาคกลาง นอกจากเสน่ห์ของบ้านเมืองเก่าๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมหลากหลายแล้ว บรรดาอาหารเวียดนามตั้งแต่ริมถนนไปถึงร้านอาหารหรูๆ ยังป็นสีสันที่ชวนให้คนชอบกินตื่นเต้นไปหมด
พอกลับมากรุงเทพฯได้มีโอกาสไปกินอาหารเวียดนามของแท้ที่ ร้าน เลอ ฮานอย และได้รับความรู้เรื่องอาหารจาก ลีนา เหวียน เจ้าของร้านที่เป็นคนเวียดนามทางเหนือคือฮานอย แต่มาเปิดร้านอาหารเวียดนาม เพราะอยากเผยแพร่วัฒนธรรมดั้งเดิมของอาหารชาติตัวเอง ให้คนไทยได้รู้จักบ้าง
คุณลีนาบอกว่า ทางเหนือจะกินอาหารรสจืดไม่เข้มข้นเหมือนโฮจิมินซิตี้ ซึ่งรสชาติจะถูกปากคนไทยมากกว่า เพราะทางเหนือได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน ดังนั้น จึงเป็นอาหารประเภทแกงจืดและผัด
จานแรกที่ผู้เขียนข้องใจมาตั้งแต่ฮอยอันแล้ว จึงสั่งมาทดสอบดูคือ “เฝอ” (ไก่ 100 บาท/เนื้อ 120 บาท) หรือ ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม เพราะสั่งเฝอมากินไม่ต่ำกว่า 5 ชาม ตลอดเวลาที่เที่ยวฮอยอัน แต่ไม่อร่อยสักร้าน เพราะใส่ผงชูรสและน้ำตาลกรวดจนหวานเจี๊ยบ เฝอร้านนี้เสิร์ฟชามโต น้ำแกงใสน่ากินมาก ลองซดน้ำแกงดูปรากฏว่า หอมหวานน้ำต้มกระดูกหมู เส้นของเฝอคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก แต่มีความนุ่มและเหนียวกว่า แช่ในน้ำซุปนานๆ ก็ไม่อืด คุณลีนาบอกว่า อาหารทางร้านไม่ใส่ผงชูรส จะเคี่ยวน้ำซุปด้วยกระดูกหมูหรือไก่ จนหวานหอม เครื่องปรุงเฝอมีมะนาวสด พริกขี้หนูเท่านั้น แนะนำให้ใส่แล้วจะทำให้รสชาติถูกปากยิ่งขึ้น
ปอเปี๊ยะสด แป้งที่ใช้ห่อนั้นบางเฉียบจนเห็นเนื้อกุ้งสีส้มสดที่ห่ออยู่ข้างใน ชวนให้อยากลิ้มลองมาก ข้างในก็มีผักสดต่างๆ โดยมีน้ำจิ้มรสหวานเปรี้ยว มีไชเท้ากับแครอทหั่นฝอยใส่มาด้วย
ปอเปี๊ยะทอดฮานอย (100 บาท) จานนี้ผิดจาก spring rolls ที่ทอดขายกันทั่วไป เพราะแป้งที่ห่อนั้นเป็นของแท้จากเวียดนาม จึงบางมาก เวลากัดลงไปจะกรอบนุ่มไม่ใช่กรอบแข็ง ไส้ข้างในอัดไปด้วยหมูสับ กุ้งสับ เห็ดหูหนู เห็ดหอม มันแกว เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้อิทธิพลวัฒนธรรมเส้น อาทิ หมูห่อใบชะพลู (100 บาท ) ย่างใหม่ๆ จะหอมกลิ่นใบชะพลูกัดเข้าไปข้างในเป็นหมูสับปรุงรส ให้กลิ่นหอมเข้ากันได้ดี ต้องกินกับเส้นขนมจีน และที่ขาดไม่ได้คือ น้ำจิ้มรสเปรี้ยวหวาน
บั๋นฮ๋อย (100 บาท) เป็นอาหารประจำถิ่นเวียดนามใต้ ใช้หมูสามชั้นที่เลือกมันน้อยๆ มาต้มจนเปื่อยแล้วหั่นบางๆ กินคู่กับเส้นหมี่ลวกสุก และผักสดๆ พร้อมน้ำจิ้ม
ส่วนอาหารยอดนิยมอื่นๆ ที่คนไทยชอบกินที่อยากแนะนำคือ แหนมเนือง (180 บาท) ร้านนี้ทำได้ “งอนหลำ” หรือแปลเป็นไทยว่า”อร่อยมาก” โดยเฉพาะ หมูแหนมเนือง ที่เหนียวนุ่มปรุงรสกลมกล่อม อร่อยกว่าหลายเจ้าที่กัดลงไปแล้วเหนียวบ้าง บางเจ้าก็เละ เครื่องก็มีไม่มากให้เวียนหัว อย่าง กล้วยดิบ มะม่วง กระเทียม พริกขี้หนู แตงกวา ห่อกับแผ่นแป้งของแท้จากเวียดนาม ที่ไม่ต้องแช่น้ำก็กินได้ เพราะบางนุ่ม ส่วนน้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อมกำลังดี
ถ้ายังไม่อิ่มมากนัก ขอแนะนำให้สั่ง น่องไก่ยัดไส้ อันเป็นสูตรเมนูเด็ดของร้านที่ได้รับรางวัล World BBQ ที่เซ็นทรัลเวิล์ด เห็นหน้าตาแล้วน่ากินมากๆ คุณลีน่าบอกว่าใช้น่องไก่มาถอดกระดูกและคว้านเนื้อออก นำหมูบด เห็ดหอมปรุงรสแล้วยัดใส่กลับไปในน่องไก่ จากนั้นจึงนำไปย่างจนเหลืองน่ากิน รสชาติเหมือนกินไก่ย่างกับแหนมเนืองผสมกัน งอนหลำอีกเหมือนกัน
อีกเมนูคือ ขนมเบื้องญวน ชื่อก็บอกว่าเป็นของกินเล่นของคนเวียดนาม แป้งขนมเบื้องนั้นบางกรอบอร่อยไส้ข้างในก็ใส่แบบจัดเต็ม ส่วนน้ำจิ้มแปลกหน่อย เราจะคุ้นกับอาจาดใส่แตงกวารสหวานเปรี้ยวด้วยน้ำส้มและน้ำตาล แต่ของเวียดนามจะเป็นสีอาจาดสีเข้มด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาล
เลอ ฮานอย เป็นร้านเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ในห้องแถว 2 ห้อง ตกแต่งแบบโปร่งโล่งสบายตา แฝงด้วยกลิ่นอายของเวียดนามสมัยใหม่ มีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเป็นขาประจำอยู่ตลอด นอกจากอาหารแล้วยังมีกาแฟเวียดนามที่ขึ้นชื่อ ซึ่งชงแบบคลาสสิก คือใช้หม้อสแตนเลสเป็นแบบหยด กาแฟเวียดนามจะใส่นมข้นหวานซึ่งหวานจัดมาก เหมาะกับการกินแบบกาแฟเย็นมากกว่า
ใครสนใจแวะไปลิ้มลองได้ ร้านตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาฯ จำง่ายๆ อยู่ระหว่างโรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เปิดบริการตั้งแต่ 12.00-24.00 น. ทุกวัน โทร. 0-2692-7069, 08-1644-1764
Text by : ปราณ ชีวิน
Photo by : วรงค์กร ดินไทย