>>เมื่อเอ่ยชื่อ "สุขุม เฉลยทรัพย์" เราคงนึกถึง "สวนดุสิตโพล" ที่สร้างชื่อจนทำให้หลายคนมอบฉายา"เจ้าพ่อสวนดุสิตโพล" เป็นเครื่องหมายการค้า แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งอาจารย์สุขุมไม่ได้เป็นเพียงนักวิชาการ นักสำรวจความคิดเห็นของสังคม แต่ยังเป็นผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ สะสมสิ่งของที่เกี่ยวกับอารยธรรมประเทศต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก ความคลั่งไคล้ที่เพื่อนสนิทหลายคนถามเขาเป็นเสียงเดียวกันว่า "ประสาทแ_กหรือเปล่า!?"
แต่นอกจากบทบาททางวิชาการแล้ว “รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์” ยังมีอีกมุมหนึ่งที่เขาทำมาตลอดระยะเวลาเกือบสามสิบปี นั่นคือ การสะสมของที่ระลึก และของเก่าที่สะท้อนประวัติศาสตร์และอารยธรรมของดินแดนต่างๆจากทั่วทุกมุมโลก และเมื่อจำนวนของที่สะสมมากขึ้นไปตามวันเวลา สิ่งที่ผุดมาในหัวเจ้าพ่อสวนดุสิตโพลคนนี้ไม่ใช่การมองหาโกดังเก็บของแต่เขาคิดจะสร้างปราสาทที่เป็นทั้งบ้านตากอากาศและพิพิทธภัณฑ์ส่วนตัว!!
“ตอนที่ผมตัดสินใจมองหาที่แถวเขาใหญ่เพื่อทำบ้านปราสาทเพื่อตกแต่งด้วยของสะสมที่ผมมีก็มีเพื่อนหลายคนบอกว่าผมเพี้ยนบ้าง หรือบางคนก็ถามว่า ประสาทแ_กหรือเปล่า!? ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะผมเชื่อว่าเราทุกคนก็มีมุมนี้กันทั้งนั้นที่จะสร้างความสุขให้กับมุมผ่อนคลายของตัวเอง สำหรับผมไม่ใช่คนประเภทหาของมาแล้วเก็บอย่างเดียว แต่ผมอยากสัมผัส อยากชื่นชมของที่ตัวเองได้มาอยู่เรื่อยๆ”
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ จัดการเนรมิตพื้นที่หนึ่งไร่ในอำเภอมวกเหล็กให้กลายเป็นปราสาทยุโรปโบราณขนาดสี่ชั้น และห้องต่างๆ ก็ถูกตกแต่งให้อยู่ในคอนเซ็ปต์อารยธรรมต่างๆ ถึง 14 วัฒนธรรม
:: สำรวจปราสาท 14 อารยธรรม
ตัวปราสาทสี่ชั้นถูกแบ่งโซนไว้ตามประโยชน์ใช้สอย และคอนเซ็ปต์การตกแต่ง เริ่มต้นที่ชั้นใต้ดินจะเป็นห้องโถงกว้างสำหรับรับแขก ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่อาจารย์สุขุมจะตกแต่งด้วยของจากประเทศต่างๆ ที่เคยไปเยือนมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการสะสมที่ผ่านมาของตนเอง เรียกว่า รวมชิ้นเด่นๆ จากหลายๆประเทศเป็นการเรียกน้ำย่อยของผู้มาเยือน
ขึ้นมาที่ชั้นแรกก็จะพบห้องที่ตกแต่งตามเอกลักษณ์ของอารยธรรมสำคัญต่างๆ ของโลกไว้ในชั้นนี้ผ่านแต่ละห้อง ไม่ว่าจะเป็น อียิปต์ แอฟริกา สเปน และโรมัน(อิตาลี)
ต่อไปในชั้นที่สองนั้นถูกเนรมิตให้เป็นโซนของเอเซีย จะรวมไปด้วยห้องไทยบ่งบอกเอกลักษณ์และตัวตนของความเป็นไทย ห้องญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ตามลำดับ
ชั้นบทสุดถูกแบ่งเป็นสองฟากฟากหนึ่งจะเป็นโซนของมหาอำนาจแห่งยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส ส่วนอีกฟากหนึ่งก็จะเป็นเรื่องราวของสหรัฐอเมริกา ที่แยกย่อยให้เห็นทั้งรูปแบบยุคอเมริกันชนสมัยใหม่ ยุคคาวบอย และอินเดียนแดง
:: เจาะลึกรายละเอียด
แต่ละห้องที่ถูกกำหนดให้สะท้อนภาพของแต่ละอารยธรรมนั้น ไม่เพียงแค่การประดับด้วยของสะสมจากประเทศนั้นๆ เพียงอย่างเดียว แต่อาจารย์สุขุมก็ลงลึกถึงรายละเอียด ตั้งแต่เรื่องวัสดุ รูปทรง เฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งเมื่อเปิดเข้าไปแต่ละห้องนั้นก็จะมีการบรรเลงเพลง และภาพยนตร์ประจำชาติหรืออารยธรรมนั้นๆ จากเครื่องเล่นที่ติดตั้งเอาไว้เฉพาะแต่ละห้องอีกด้วย แม้กระทั่งของใช้ชิ้นเล็กหรือของใช้ในห้องน้ำ อาจารย์สุขุมก็ยังเลือกเสาะหา ของที่มาจากประเทศนั้นๆ เรียกว่า สบู่ ยาสระผม หวี รองเท้าแตะก็จะมาในแนวโอท็อปของแต่ละอารยธรรมกันเลยทีเดียว ซึ่งเราจะลองยกตัวอย่างบางห้องให้คุณได้ลองสัมผัส ถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมต่างๆ ไปพร้อมกัน
ห้องสไตล์สเปน - สเปนนอกจากเป็นศูนย์กลางการพักผ่อนแล้ว ยังเป็นดินแดนของนักระบำฟลามิงโก กีฬาสู้วัวกระทิง และศิลปะของแขกมัวร์ ถูกถ่ายทอดผ่าน ภาพวาด ลายชุดเครื่องนอน รูปปั้น และเครื่องประดับฝาผนัง ที่พิเศษคือเตียงที่สั่งต่อขึ้นโดยเฉพาะด้วยการทำลวดลายหัวเตียงให้เป็นตราสัญลักษณ์ของประเทศสเปน รวมทั้งเพดานที่ขึงด้วยโซ่ ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของปราสาทโบราณในสเปนโดยเฉพาะ
ห้องสไตล์อียิปต์ - ปีรามิดที่เป็นสัญลักษณ์ของอียิปต์ ถูกนำมาสร้างเป็นสัญลักษณ์ด้วยลวดลายฝาผนังห้องโดยเฉพาะบริเวณหัวนอนที่ทำพื้นสีตัดกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ประดับด้วยภาพวาดอียิปต์ โบราณ์ รวมทั้งบรรดารูปปั้นของฟาโรห์ และเทพเจ้าสำคัญๆ
ห้องสไตล์อินเดีย - ถอดรหัสมากจากสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างทัชมาฮาล ด้วยการเลือกบุผนังและพื้นห้องเป็นหินอ่อนสีขาว พร้อมออกแบบให้ตัวห้องเป็นทรงโค้ง รวมถึงขอบประตู ก็ทำให้เป็นลายโค้งเช่นเดียวกับหลังคาของ ทัชมาฮาล
ห้องสไตล์อิตาลี - อิตาลี ต้นกำเนิดของศิลปินชื่อก้องโลกหลายคน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรโรมันอันเกรียงไกร ในห้องจะโดดเด่นด้วยภาพเพนต์บนผนังที่มีเรื่องราวบ่งบอกถึงความเป็นศูนย์กลางของศิลปะและสถาปัตยกรรม รวมทั้งการใช้ลูกเล่นของเสาโรมันในมุมต่างๆ ของห้อง และปลุกอารมณ์ของนักรบโรมันด้วยภาพเพนต์โคลีเซียมบริเวณหัวนอน
ห้องสไตล์ญี่ปุ่น - ความโดดเด่นของการเลือกใช้ไม้สีอ่อนในการตกแต่ง พร้อมเจาะเป็นช่องตารางสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกับประตูญี่ปุ่นที่เราคุ้นตา เสริมด้วยการนำภาพวาดสาวญี่ปุ่น ตุ๊กตาญี่ปุ่น รวมทั้งชุดเครื่องนอนที่เป็นลวดลายของภูเขาไฟฟูจิ และดอกซากูระ ที่สำคัญ ยังมีรองเท้าเกี๊ยะไว้ให้สวมใส่สำหรับผู้ที่เข้ามานอนพักในห้องนี้โดยเฉพาะ
ห้องสไตล์อเมริกัน - โดดเด่นด้วยการประดับผนังของกระเบื้องโมเสกออกแบบเป็นลวดลาย และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่สื่อถึงประเทศมหาอำนาจของโลก อาทิ รูปแผนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาบริเวณหัวนอน หรือลายธงชาติบริเวณโซฟาและขอบกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง
:: จำได้ ทุกชิ้น ทุกรายละเอียด
ปราสาทแห่งอารยธรรมหลังนี้ สำหรับอาจารย์สุขุมแล้วมันไม่ใช่เพียงแค่ สถานที่เก็บของที่ระลึกที่สะสามมายาวนานเกือบสามสิบปีแต่มันคือความสุขที่ไม่ได้เก็บไว้เพียงคนเดียว แต่ยังได้ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราว ให้ผู้คนรอบข้างได้สัมผัส “ความสุขของการสะสมสำหรับผมไม่ใช่ ซื้อมาเก็บ แต่ผมจะมีความสุขมากถ้าได้ชื่นชมสิ่งของนั้น และจัดกลุ่มของแต่ละชิ้นให้เกิดเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกันไป อย่างของทุกชิ้นที่มาอยู่ในปราสาทหลังนี้ ผมก็จำได้ทุกชิ้น ให้มาชี้ชิ้นไหนผมก็ยังจำได้ว่าชิ้นนั้นมาจากไหน เรื่องราวเป็นอย่างไร“
:: มุมโปรดของเจ้าพ่อสวนดุสิตโพล
แน่นอนว่าปราสาททั้งหลังเกิดขึ้นได้เพราะความชอบ ความคลั่งไคล้ในประวัติศาสตร์อารยธรรม แต่มุมที่อาจารย์สุขุมชื่นชอบ และมักจะใช้เวลาอยู่นานที่สุดนั้นมีอยู่สองห้อง นั่นคือ ห้องโถงชั้นใต้ดิน และห้อง อียิปต์ “ห้องโถงชั้นใต้ดินมันเหมือนศูนย์กลางเรื่องราวการเดินทางทั้งหมดของผม และชิ้นเด็ดๆ ที่ผมได้มาก็จะอยู่ที่นี่เป็นหลัก ส่วนห้องอียิปต์ ผมชอบเพราะเป็นประเทศที่ผมอยากไปอีกบ่อยๆ เพราะอารยธรรมของเขามีเรื่องราวอะไรให้ศึกษาเยอะ แน่นอนรวมไปถึงสิ่งของที่ระลึกก็มีมากเช่นกัน”
:: รูปคู่ภรรยา ก้าวต่อไปของความสุข
อาจารย์สุขุมพูดถึงปราสาทอายุ 12 ปีหลังนี้ว่า เป็นปราสาทที่เติมเต็มความสุขส่วนตัวของเขาได้อย่างเต็มอิ่มแล้ว ก้าวต่อไปที่เขาคิดคือ การเดินทางไปยัดินแดนของ 14 อารยธรรมนี้อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายว่าทุกครั้งจะต้องเป็นการถ่ายรูปคู่กับภรรยาสุดที่รักเพื่อจำนำมาใส่กรอบวางไว้ในแต่ละห้องที่ทำไว้นั่นเอง
:: Castle Fact
ปราสาทแฝดของ รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 4ปีเศษ โดยขั้นตอนการกำหนดโครงสร้างสถาปัตยกรรม และก่อสร้างตัวปราสาทใช้เวลาประมาณปีเศษ ที่เหลือจากนั้นเป็นเรื่องของการตกแต่งภายในที่อาจารย์สุขุมเป็นผู้ควบคุมทุกขั้นตอนด้วยตัเอง ส่วนห้องที่ใช้เวลาตกแต่งนานที่สุดคือห้องอังกฤษ และห้องฝรั่งเศส
ส่วนคำถามว่าทำไมต้องเป็น 14 อารยธรรมนี้ อาจารย์สุขุมบอกว่าแม้ท่านจะเดินทางไปมาหลายประเทศมากกว่า 14 ประเทศ แต่ก็จะเลือกเอาอารยธรรมที่มีประวิติศาสตร์ มีเรื่องราว และความโดดเด่น เรียกว่าเป็นอารยธรรมสำคัญที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้
ตลอดระยะเวลา12ปี ปราสาทหลังนี้ไม่ใช่แค่เพียงบ้านพักตากอากาศ หรือพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว แต่อาจารย์สุขุมยังเปิดโอกาสให้เพื่อนสนิท หรือลูกศิษย์บางคน มาพักเพื่อใช้สร้างแรงบันดาลใจก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปยังต่างประเทศ “เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีลูกศิษย์มาขอนอนที่ห้องสเปน เพราะเขาต้องเดินทางไปสเปน เขาเข้าไปนอนก็จะซึมซับเอาบรรยากาศ วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ เรียกว่า บิลด์อารมณ์ก่อนไปเจอของจริง” :: Text by FLASH :: Picture by บ้านในฝัน
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition