ปีกระต่ายน้ำเพิ่งลอยคอผ่านพ้นไปอย่างเปียกปอนและชุ่มโชกไปตามๆกัน หลายคนคงสนุกสนานกับการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีมังกรอย่างรื่นเริงหลังจากที่ต้องตกอยู่ในภาวะเครียดจากมหาอุทกภัยสึนามิน้ำจืดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ว่ากันว่าปีนี้หลายคนคงต้องนั่งลุ้นอีกแล้วว่ามังกรทองจะมาไล่น้ำหรือเล่นน้ำให้เปียกอีกกันแน่!!
หลายคนคงต้องลุ้นกับตุ๊บๆต่อมๆว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเป็นเช่นไรเพราะถ้าเศรษฐกิจดีคนกินดีอยู่ดีทุกอย่างก็ไปได้สวย ไม่เว้นแม้แต่วงการไฮโซบ้านเราที่ว่าเกิดมาบนกองเงินกองทองไม่น่าเดือดร้อนอะไรก็ยังต้องลุ้นเหมือนกันว่าปีนี้แวดวงอีเวนท์อันเป็นงานที่จะทำให้หนุ่มสาวไฮโซเมืองไทยมีแหล่งสังสรรค์เม้าท์มอยกันตามประสาคนมีอันจะกินหรือไม่
เพื่อเป็นการประเดิมศักราชใหม่ โต๊ะข่าวสังคมไฮโซ/หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน จึงขันอาสาพาผู้อ่านทุกท่านไปล้วงลึกถึงวงการอีเวนท์เมืองไทยในปีนี้ว่าจะเป็นเช่นไร หนุ่มสาวสังคมคนไหนจะรุ่งหรือร่วงในปีมังกรทอง
**ออร์กาไนเซอร์มือทองฟันธง
ในสายตาของนักจัดงานสังคมระดับแถวหน้าของเมืองไทยหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทิศทางการจัดงานสังคมในปีมังกรทองจะต้องเช็คอาการทุกๆ 3 เดือนกันทีเดียว เพราะอย่าเห็นว่าเป็นแค่งานสังคมลั๊ลลาปาร์ตี้นะ งานเก๋ ๆ อย่างนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่างๆทั้งเศรษฐกิจ การเมืองด้วยเหมือนกัน
ฟังธงจากนักจัดอีเว่นต์ทุกคนเห็นตรงกันว่าช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คนในแวดวงอาชีพงานสังคมจะได้ยิ้มแก้มแตกแน่นอนเนื่องจากเจ้าของสินค้าส่งสัญญาณลุยใช้งบที่เหลือจากตอนน้ำท่วมให้หมด เพราะเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วน้ำท่วมส่งผลกระทบโดยตรงทำให้งานสังคมทุกงานต้องเลื่อน-ลด-งดจัดงานกันเป็นแถว เรียกว่าทุกอย่างอั้นเอาไว้เพื่อมาปลดปล่อยเอาต้นปีนี้
ตือ-สมบัษร ถิระสาโรช เจ้าแม่ออร์กาไนเซอร์มือทอง ผู้คร่ำหวอดในวงการจัดงานสังคมหรูหราในเมืองไทยมากว่า 10 ปี บอกว่า เนื่องจากเมื่อปลายปีที่ผ่านประเทศไทยต้องประสบภัยน้ำท่วมบรรดางานเปิดตัวสินค้าต่างๆ จึงถูกอั้นไว้เหมือนโดนบิ๊กแบกกั้น ฉนั้นพอมาถึงต้นปีนี้งานสังคมจึงชุกตลอด แต่รูปแบบการจัดงานนั้นอาจไม่หวือหวาตูมตามถึงขนาดหว่านเชิญแขกและสื่อเหมือนก่อน หากแต่จะเน้นจัดงานให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น
ส่วน ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล อีกหนึ่งนักจัดงานอีเวนต์สังคมเสริมว่าเนื่องจากสภาพเมืองไทยกำลังเศร้าโศกเพราะเพิ่งผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมใหญ่มา ดังนั้นเจ้าของสินค้าหลายคนจึงขอเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานแบบปาร์ตี้ลั๊ลลามาเป็รงานสังคมที่เน้นเพื่อการกุศลช่วยสังคม
ขณะที่เจ้าแม่บริษัทพีอาร์ชื่อดัง จีน่า- สนิทพิมพ์ เอกชัย มีความเห็นสอดคล้องว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้การจัดงานสังคมจะเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยพิษน้ำท่วมที่ผ่านมาลูกค้าจึงต้องประหยัดงบในการโปรโมทสินค้าจึงต้องการเน้นการจัดงานที่ให้ประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันลูกค้าส่วนใหญ่ก็ขอเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานมาเป็น Marketing Event เรียกง่ายๆ คือจัดงานอีเว้นต์พ่วงขายของไปด้วย
นอกจากนี้ จีน่ายังตั้งข้อสังเกตว่า เทรนด์ของโซเชียลเน็ตเวิร์คจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการพีอาร์และอีเว้นต์งานสังคมมากยิ่งขึ้น อย่างที่ผ่านมาลูกค้าหลายรายนอกจากจัดงานสังคมแล้วยังต้องขึ้นในFacebook ทวิตเตอร์ และไอแพดทันทีเพื่อให้แฟนเพจได้อัปเดทข่าวสารต่างๆ ได้ทันท่วงที ดังนั้นใครที่คิดว่าวงการสังคมไฮโซนั้นโลว์เทคของให้คิดใหม่ได้แล้ว
**เซเลบยังเป็น”แม่เหล็ก” ของงานสังคม
“ดอกไม้” คู่กับ “อิสตรี” ฉันใด งานสังคมก็ต้องควงคู่มากับ “เซเลบฯ” ฉันนั้น เพราะเซเลบ นั้นถือเป็นสีสันให้กับงาน แถมบางคนยังเป็น ”แม่เหล็ก” ดึงดูดให้ ดังนั้นเมื่องานอีเว้นต์จัดกันเยอะขึ้น บรรดาเซเลบที่มาร่วมงานก็ต้องมีงานเยอะตามไปด้วย จึงไม่แปลกใจว่าเซเลบเมืองไทยนั้นเป็นมนุษย์สายพันธุ์ที่อึดมากสามารถวิ่งรอกออกงานเยอะที่สุดในโลก ประมาณวันละ 2 - 3 งานนั้นถือเป็นสถิติปกติ จะมีชะงักเพียงแค่ช่วงน้ำท่วม 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งบรรดาเซเลบรับจ้างออกงานต่างบ่นกันเป็นแถวว่าขาดรายได้ไปเยอะทีเดียว
ถึงแม้เซเลบจะมีเยอะจนแทบจะเหยียบตาตุ่มกันในงานอยู่แล้ว แต่ถ้าขานชื่อเซเลบระดับคุณภาพหรือที่เรียกว่า a list คือโปร์ไฟล์ดี-มีเงินเยอะกลับมีน้อยมาก ๆ อาทิ แก๊งค์คุณหญิงต้น-ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ปุ๊ง-ดารณี อยู่วิทยา จุฑาทิยพ์ ไกรฤกษ์ กรรณิการ์ วิโรจน์วัธน์ เป็นต้น แม้เซเลบกลุ่มนี้จะเป็นที่ต้องการของบรรดาเจ้าของสินค้าเพื่อจะทำให้งานสังคมดูดีมีระดับไปด้วย แต่เซเลบกลุ่มนี้ค่อนข้างจะเลือกงานสังคมที่จะไปเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าใครสามารถเชิญใครคนหนึ่งในก๊วนนี้มาได้ก็จะได้มาทั้งแก๊งค์ทีเดียว
ขณะที่เซเลบหน้าเก่า ๆ ก็ออกงานจนช้ำและเยินจนคนดูก็เริ่มเบื่อแล้วเช่นกัน ดังนั้นพอมีหน้าใหม่ ๆ เข้ามาก็มักจะถูกดึงไปออกงานสังคมอยู่เป็นประจำ และพอ1 - 2 ปี เซเลบหน้าใหม่ก็จะเริ่มเข้าสู่วงจรหน้าช้ำอีกแล้ว วัฎจักรนี้จะวนเวียนแบบเกิด แก่และตายไปเรื่อย ๆ
ดังนั้นหน้าที่อีกอย่างของบรรดาบริษัทพีอาร์เอเจนซี่ และคนรับเชิญแขกก็คือการเฟ้นหา “เซเลบหน้าใหม่” เข้าสู่วงการ เมื่อก่อนอาจจะมองลูก ๆ ในตระกูลร่ำรวยหรือราชนิกุล แต่ปัจจุบันสังคมเปิดกว้างแล้ว กลุ่มYoung Executive คือคนทำงานดีโปร์ไฟล์ดี หน้าตาดี ก็มีสิทธิ์เดินเข้ามาเป็นเซเลบได้ เช่น พิมดาว พานิชสมัย พิมเลิศ ใบหยก จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล เป็นต้น แถมบางทีเดินแถวเข้าสู่วงการทั้งครอบครัวเลย อย่างเช่น แพท-สุธาสินี พุทธินันน์ ที่เข้ามาเป็นเซเลบเมื่อหลายปีก่อน แต่ช่วงนี้เริ่มหายหน้าไปพอดีกับน้องสาวคือ พีช -สิดารัศมิ์ พุทธินันท์ หรือ แต่อย่างไรก็ตามนับวันเซเลบรุ่นใหม่จะมีอายุน้อยลงไปเรื่อย ๆ ขณะที่รุ่นเก่าหลายคนอาจจะเริ่มอิ่มตัวกับงานสังคมจึงเริ่มหายหน้ากันไปจากวงการ
และอีกกลุ่มที่ได้ชื่อว่า “เซเลบไม้ประดับ” พวกนี้เป็นคนหน้าใหม่โปร์ไฟล์ธรรมดา ๆ อาศัยชอบแต่งตัวเก๋ ๆ ขยันออกงานเยอะ ๆ หาโอกาสขึ้นกล้องบ่อย ๆ เพื่อถีบตัวเองขึ้นมาเป็นเซเลบแถวหน้าบ้าง โดยกลุ่มนี้มีเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะการทำตัวเป็นเซเลบเดินข้ามาในงานนั้นค่อนข้างง่ายดาย แถมเมื่อติดกลุ่มเซเลบฯแถวหน้าแล้วโอกาสทางธุรกิจก็จะตามมาให้เลือกอีกมากมาย
แนวโน้มของเซเลบในปีนี้จึงยังคงวนเวียนอยู่กับหน้าเดิม ๆ แม้ว่าทั้งคนจัดก็เบื่อ นักข่าวก็เบื่อ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะเซเลบใหม่ ๆ ดี ๆ ขาดแคลนจริง ๆ
