xs
xsm
sm
md
lg

"โซเฟีย ลา" ผู้หญิงที่เฟกไม่เป็น! แต่ทำไมคนบันเทิง-ไฮโซถึงหมั่นไส้!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>> เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โซเฟีย ลา ก้าวเข้ามาในแวดวงสังคมไฮโซ โดดเด่นด้วยการแต่งตัว เสื้อผ้า ทรงผม เครื่องประดับแบบจัดเต็ม และภาษาไทยติดสำเนียงจีน แล้ววันหนึ่งเธอก็เงียบหายไปจากแวดวงนี้ พร้อมข่าวกอสสิปในแง่ลบอย่าง เธอเป็นไฮโซเก๊ ชอบไปร่วมงานโดยไม่มีใครเชิญ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ชื่อของเธอเงียบหายไปนาน เพราะเธอปรากฏตัวอีกครั้งในมาดนักแสดงอารมณ์ดีอยู่หน้าจอ ทั้งหนังและละครหลายๆเรื่อง...จากวันนั้นจนถึงวันนี้ชีวิตของสาวใหญ่คนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ในวัยใกล้ 60 โซเฟีย ลา ยังคงกระฉับกระเฉง แต่งหน้า ทำผมพร้อมเต็มที่ เพื่อมา Exclusive Interview กับเรา...หลายคนคงเคยติดตามข่าวสารและทราบเรื่องราวของเธอมาบ้าง แต่เราจะย้อนไปยังวันวานแบบย่อๆ จากปากของเธอว่าทำไมเธอถึงถูกตราหน้าว่าเป็น “ไฮโซตัวปลอม”

“ก่อนที่โซเฟียจะมาเล่นหนัง เวลาไปงานก็จะมีนักข่าวแห่มาสัมภาษณ์ใช่ไหม ก็เลยมีคนอิจฉา คนหมั่นไส้ เขาเลยไปบอกเจ้าของงานไม่ให้เชิญโซเฟีย เพราะเราไปงานไหนก็เด่นกว่าทุกคน หลังจากนั้นไม่มีใครเชิญเราไปงานอีก กลายเป็นว่าเด่นเกินไปก็เป็นภัย ...อ้าว จะไม่ให้เราแต่งตัวไปงานเหรอ เราก็ไม่ผิดนะ ใครๆก็อยากแต่งตัวสวย ไปงานทั้งนั้น แต่พี่ก็ไม่สนใจ จะไฮโซเก๊ ไม่เก๊ มันก็ไม่ผิดกฏหมาย

โซเฟียมีหลวงพ่อที่นับถือ เลยไปปรึกษาหลวงพ่อ เรื่องที่โดนคนเมาต์ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โซเฟียโมโหมากเลย หลวงพ่อเลยบอกว่า คนเม้าต์เราเพราะอิจฉา ก็เลยต้องพูดเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เราเลยโมโหใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็เข้าทางเขา เราเลยต้องไม่โมโหสิ ตั้งแต่นั้นมาโซเฟียก็เลยไม่สนใจ ไม่โกรธแล้ว”

ก่อนที่จะมาเป็นนักแสดงอย่างทุกวันนั้น อีกบทบาทหนึ่งที่ โซเฟีย เคยได้รับในชีวิตจริง ก็คือการเป็นอาจารย์ เธออุทิศเวลาวันอาทิตย์เป็นอาจารย์สอนภาษาจีนอยู่ที่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ ท่าพระจันทร์ โดยไม่คิดค่าสอน ซึ่งเธอทำอยู่ 5 ปี ก่อนจะเลิกไปเนื่องจากงานแสดงเข้ามามาก จนไม่มีเวลาไปสอน แต่เธอก็เล่าเรื่องประทับใจเรื่องหนึ่งสมัยเป็นอาจารย์ให้เราฟัง

“วันหนึ่งที่พี่กำลังสอนอยู่ มีนางพยาบาลคนหนึ่งนั่งตุ๊กตุ๊กมาหาถึงโรงเรียน เขามาพร้อมคำถามเป็นข้อๆ พอดีตอนนั้นที่โรงพยาบาลมีคนไข้ที่เป็นคนฮ่องกง พูดไทยไม่ได้ พูดอังกฤษก็ไม่ได้ สื่อสารไม่รู้เรื่อง ก็รักษาไม่ได้ เราเลยออกไปสอนเขา พออีกวันที่ไปสอน ทั้งหมอและพยาบาลก็ฝากกระเช้าผลไม้อันใหญ่มาขอบคุณเรา พี่ก็เลยเอาไปทำบุญกับหลวงพ่อที่วัด พี่ว่านี่แหละเป็นความสุข เวลามีคนมาเรียกเราว่าอาจารย์เราก็ภูมิใจ เวลาเราจะทำความดี เราต้องให้เขาก่อน ก่อนที่เราจะรับจากใคร”

แม้ว่าจะก้าวออกมาจากแวดวงสังคม แต่เพราะคาแรกเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ จึงทำให้ โซเฟีย ก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงได้ไม่ยาก “ที่เขาเลือกเราก็คงเห็นว่าเราไม่เหมือนใครมั้งคะ ทั้งๆ ที่ไฮโซก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมเขาถึงเลือกเราล่ะ พูดตรงๆ นะพี่เป็นคนไม่ถือตัว ไม่จองหอง ….ใครๆ ก็อยากดัง อยากรวย แต่ถ้าจะรวยก็ต้องรวยอย่างบริสุทธิ์นะ จะดังก็ต้องดังโดยมีชื่อเสียงดี แต่ถ้าเราเห็นใครได้ดี ก็อย่าอิจฉาเขานะ เราก็ต้องดูในส่วนที่ดีของเขา ว่าทำไมเขาถึงเป็นดัง แล้วเอาสิ่งดีๆ มาเป็นตัวอย่างดีกว่า ตอนนี้เจอนักแสดงรุ่นน้องก็จะคอยสอนพวกเขาว่า ดังแล้วอย่าหยิ่งนะ ถ้าหยิ่งเดี๋ยวเขาจะไม่เรียกมาเล่นหนังอีก เพราะเดี๋ยวนี้มีคนมาเข้าคิวอยากมาเป็นดารากันเยอะมาก”

บทบาทของ โซเฟีย ในโลกการแสดง มักจะอยู่ที่บทตลก คอยเรียกเสียงหัวเราะให้คนดูจนเราชินตา แต่เธอหวังลึกๆ ว่าจะมีโอกาสได้แสดงบทชีวิต ในหนังหรือละครที่สร้างจากเรื่องราวของตัวเธอเอง “พี่เคยไปบอกผู้กำกับว่า พี่อยากเล่นหนังที่เป็นเรื่องราวของชีวิตพี่เอง เพราะชีวิตเราไม่ธรรมดา เจอปัญหาตั้งหลายอย่างในชีวิต พี่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น เวลาเจอปัญหาเราจะเผชิญกับปัญหานั้นได้ยังไง ผู้หญิงสมัยนี้เจอผู้ชายทิ้งเยอะแยะ พี่อยากเล่นหนังที่ทำให้คนเห็นว่า ถ้าไปแย่งสามีคนอื่นแล้วจะเป็นยังไง เจอบาปกรรมอะไรบ้าง แล้วถ้าเราโดนสามีทิ้ง เราจะแก้ปัญหานั้นยังไง

และตอนนี้ไม่ได้สอนภาษาจีนแล้ว ก็อยากทำอะไรเพื่อสังคมอย่างอื่นบ้าง อยากให้คนรู้ว่าผู้หญิงอย่างโซเฟีย ผ่านปัญหาชีวิตต่างๆ มาได้ยังไง มีวันหนึ่งพี่ไปเดินห้าง มีน้องนักศึกษา เห็นโซเฟียก็เข้ามาหาแล้วบอกว่า เห็นเราไปออกรายการแล้วเขาร้องไห้เลย เพราะเขาถูกผู้ชายทิ้งเหมือนกัน ตอนนั้นอยากฆ่าตัวตาย เพราะทำใจไม่ได้ แต่พอเห็นเราออกรายการ เขาก็ไม่ฆ่าตัวตาย เขาเลยเข้ามาขอบคุณโซเฟียและบอกว่าเราทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น พอเจออย่างนี้ ก็เลยกลับมาคิดว่าที่เราได้ออกโทรทัศน์ เราก็ได้ช่วยเหลือคนเหมือนกัน”

ขนาดย้ายฟากมาอยู่ในแวดวงบันเทิง ก็ไม่พ้นเรื่องมีคนไม่ชอบหน้า โซเฟียสารภาพกับเราว่า เธอเคยถูกหมั่นไส้จากนักแสดงด้วยเหมือนกัน “บางครั้งก็เจอนักแสดงรุ่นเก่าไม่ชอบ เขาพูดขึ้นมาว่า เราจะแสดงได้เหรอ แต่เราก็ไม่สนหรอก เพราะเขาไม่รู้จักโซเฟีย เขาคงคิดว่าเป็นไฮโซ แล้วจะมาแสดงละครทำไม มันเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนตอนโดนไฮโซอิจฉา แล้วเอาเราไปเมาต์นั่นแหละ แต่ดารารุ่นน้อง รุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะน่ารักกับเรานะ บางคนก็เรียกเราว่าแม่โซเฟีย”

มาคุยกันเรื่องสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ โซเฟีย ลา กันดีกว่า...เพราะถึงแม้จะอยู่เมืองไทยมานาน แต่เธอ ก็ยังพูดภาษาไทยไม่ชัด อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซึ่งเธอก็บอกว่าคงจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป “เวลาแสดงหนัง เคยมีคนบอกให้พี่พูดชัดๆ เหมือนกัน แต่พอพูดชัดๆ มันก็ดูไม่เป็นธรรมชาติอีก แต่เราก็เล่นหนังได้นะ ก่อนเข้าฉากก็จะมีทีมงานมาบอกว่าต้องพูดยังไง เราก็เขียนเป็นคาราโอเกะภาษาจีนกลางเข้าไปแทน

ไม่ชัดอย่างนี้แหละดีแล้ว คนจำได้เพราะมีเอกลักษณ์ คนเราจะดังได้ เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเอกลักษณ์ด้วย ถึงโซเฟียพูดไทยไม่ชัด แต่ก็พูดภาษาจีนกลาง อังกฤษ ฝรั่งเศสได้ เดี๋ยวนี้เล่นหนังบางเรื่องก็ต้องพูดภาษาจีนกลางด้วย ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็อย่าอิจฉาโซเฟีย ไม่ต้องเม้าต์โซเฟียหรอก” และด้วยเอกลักษณ์เช่นนี้ เด่นจนมีคนนำไปล้อเลียน ซึ่งเธอกลับชอบด้วยซ้ำ

“มีรายการหนึ่งเคยสัมภาษณ์พี่กับคุณตุ๊ยตุ่ย (พุทธชาด พงศ์สุชาติ) พร้อมกันนะ ที่เขาเลียนเสียงพี่ไม่ว่าอะไรหรอก น่ารักดีออก แสดงว่าเราดีถึงมีมาคนมาเลียนแบบใช่ไหม และตุ๊ยตุ่ยก็น่ารัก เราก็รู้จักกันมานานแล้ว เขาเลียนเสียงเหมือนมากเลย พี่ชอบ”

สำหรับเรื่องชีวิตในอนาคต โซเฟีย คิดไว้ว่าจะรับเล่นหนัง เล่นละครน้อยลง เพราะอายุมากขึ้นเรื่อยๆ “พี่ก็อายุมากขึ้น เลยไม่อยากเล่นหนังมากเกินไป มันเหนื่อย เรื่องเงินเรื่องค่าตัวพี่ไม่ซีเรียสหรอก แต่สุขภาพเราต้องรักษาให้ดีๆ อย่างปีที่แล้วเล่นเยอะ ทั้งหนังทั้งละคร ตื่นตีสี่ตีห้า ร่างกายไม่ไหว เราไม่ได้เป็นนักแสดงอาชีพ ไม่ต้องเล่นเราก็มีเงินใช้ เราเล่นละครแก้เหงามากกว่า

ถ้าวันหนึ่งเราไม่มีงาน ก็ไม่เป็นไรหรอก พี่ว่าถ้าเราทำความดีนะ เดี๋ยวก็จะมีคนเห็นเอง และเราก็ไม่อยากดัง เพราะดังแล้วก็ไม่เห็นจะได้อะไร เวลาออกไปข้างนอกก็มีแต่คนรู้จักเรา มีอยู่วันหนึ่งไปช้อปปิ้ง แล้วมีคนเข้ามาขอถ่ายรูป แต่วันนั้นเราไม่ได้แต่งตัว ไม่สวย ก็เลยบอกไปว่าไม่ใช่ เขาไม่เชื่อนะ เพราะเขาจำเสียงเราได้ แต่จริงๆ แล้วก็ชอบ ได้เจอคนเข้ามาทักทาย ให้กำลังใจ เวลาไปซื้อของบางร้านก็ไม่คิดเงิน (หัวเราะ)”

และมาถึงคำถามสุดท้าย เมื่อเราถามว่า ระหว่างแวดวงสังคมไฮโซ กับ แวดวงบันเทิง เธอชอบที่ไหนมากกว่ากัน เธอตอบมาอย่างไม่ลังเลว่า “วงการบันเทิงดีกว่าวงการไฮโซเยอะเลย เล่นหนังสนุกกว่าเยอะ วงการไฮโซชอบอิจฉากัน ชอบเมาต์โซเฟียในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง”

วันนี้ของ โซเฟีย ลา...กับชีวิตที่มีความสุขมากกว่าเก่า เพราะได้ทำในสิ่งที่เธอชอบ ในวงการที่เธอรัก :: Text by FLASH





 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น