By Lady Manager@Bitchy
ด้วยความเป็นผู้หญิง เราจึงมีปัญหาเยอะกว่าผู้ชาย และด้วยความขี้อาย สิ่งที่ไม่กล้าบอกใคร ปรึกษาก็ไม่ได้ในเรื่องต่อไปนี้ จึงเป็นปัญหาของหัวอกลูกผู้หญิงยิ่งนัก!
ปัญหาแรก
->น้องหนูกลิ่นเหม็นอึบ!
"โอ้โห ช่องคลอดของฉันมีกลิ่นแรงมาก ถอด กกน.ออกมาที แทบจะกรี๊ดสลบเพราะเหม็นขึ้นจมูกจนขมคอ! ล้างก็แล้ว เช็ดก็แล้ว กลิ่นนี่ไม่ไหวจะเคลียร์เลยค่ะ"
อย่าซีเรียส กังวลทำไมคะหนู ผู้หญิง ทุกคนต่างมีกลิ่นเฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับสารเคมีในร่างกายของเธอ ซึ่งอาจมีทั้งกลิ่นหวานๆ ไปจนถึงกลิ่นคาวๆ เล็กน้อย อย่างไรก็ตามถ้ากลิ่นของคุณค่อนข้างรุนแรงจริงๆ คุณควรปรึกษาเรื่องนี้กับแพทย์ทางนรีเวช มันเป็นไปได้ว่าคุณอาจติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ซึ่งแพทย์สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
แต่ถ้าคุณไม่ได้ติดเชื้อใน ช่องคลอด การมีเหงื่อค่อนข้างมากในพื้นที่ใต้เข็มขัดอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นที่รุนแรง ได้ ลองใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบบอ่อนๆ และปราศจากกลิ่น ล้างพื้นที่ส่วนตัวให้สะอาดแล้วใช่ผ้าซับให้แห้งสนิท
ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะไปทำให้กรดด่างในช่องคลอดเสียสมดุล แถมมันไม่ทำให้กลิ่นเปลี่ยนไปแต่อย่างใดด้วย แค่กลบเกลื่อนกลิ่นไปได้ชั่วคราวเท่านั้น
ปัญหา อีกอย่างที่อาจทำให้กลิ่นของคุณแรงขึ้นได้ก็คือเรื่องอาหารการกินค่ะ ลองหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ ควบคู่ไปด้วย ก็อาจช่วยได้เช่นกัน
ปัญหาสอง
->สิวขึ้นอวัยวะเพศ
"หนูเป็นคนซกมกหรือป่าวคะ สิวมันขึ้นที่น้องสาวของหนูบริเวณหัวหน่าว หนูควรบีบหนองออก หรือปล่อยตามยถากรรมดี ถ้าแฟนเห็นต้องหาว่า หนูสกปรกซกมกแน่ๆเลย อายจัง"
ไม่ต้องอายค่ะหนู การดูแลสุขลักษณะบริเวณจุดซ่อนเร้นอาจจะไม่ดีพอ เช่น มีคราบเหงื่อไคลบริเวณนี้มาก ช่วงมีประจำเดือนปล่อยจนเลือดประจำเดือนชุ่มอยู่นาน อย่างกผ้าอนามัยนะคะ ควรเปลี่ยนวันละ 3- 4 แผ่น ไม่ใช่แผ่นเดียวทั้งวัน จะทำให้อับชื้น และการสวมใส่กางเกงที่รัดฟิตกระชับน้องทำให้อึดอัดน้องหายใจลำบากด้วยค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีประจำเดือน ต้องหมั่นล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ห้ามเด็ดขาดล้างเสร็จแล้วลุกเลย เพราะจะทำให้จุดซ่อนเร้นเปียกแฉะ แถมชุ่มฉ่ำกว่าเดิมเพราะผ้าอนามัยซับน้ำเอาไว้
หรือผู้หญิงที่ออกกำลังกายเป็นประจำจนเหงื่อออกชุ่ม แต่ไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ต่อทั้งที่ร่างกายยังอับชื้นจากคราบเหงื่อไคล เหล่านี้ทำให้เกิดผดผื่น และสิวขึ้นได้ง่าย
และในคุณผู้หญิงที่มีรูปร่างค่อนข้างท้วมหรืออวบอ้วน ควรลดน้ำหนัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นขาให้มีขนาดเล็กลงด้วย มิฉะนั้นสิวผด สิวหนอง อาจมาเยือนโดยง่าย
ปัญหาสาม
->ขาหนีบ-ก้น ดำปี๋
"จะมีอะไรกันทั้งทีหนูต้องปิดไฟตลอดคะ แสงสว่างนี่ไปไกลๆเลย จะเพราะอะไรล่ะ ขาหนีบหนูดำตับเป็ดขนาดนั้น แถมก้นหนูยังดำแถมด้านได้ใจอีกซะด้วย ใครจะกล้าโชว์ล่ะคะ"
ปกติเม็ดสีบริเวณขาหนีบ และก้นมักจะเยอะกว่าผิวหนังส่วนอื่นอยู่แล้ว แต่บางคนผอมมากก็ดำได้นะ เพราะเนื้อตรงผิวหนังช่วงที่เป็นกระดูกตรงก้น จะมีปริมาณน้อย จึงทำให้เกิดการเสียดสีมาก และทำให้ดำ จนกลายเป็นวงๆ เหมือนกระดูกตรงบริเวณก้นที่เสียดสีนั้นเลยยิ่งมีการเสียดสี เช่น ใส่กางเกงรัดๆ ยิ่งเป็นยีนส์ยิ่งเสียดสีเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าค่อนข้างหนา หรือสวมกางเกงในฟิต
และความอ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยเพราะจะทำให้ผิวหนังเสียดสีมากกว่าคนน้ำหนักปกติ บางรายที่อ้วนมาก ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ รักษาไปอาจจะทรงๆ อยู่ แต่ความดำไม่หายไปก็มีนะ
ขัดบ้าง สครับบ้าง และทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น หรือกลุ่ม Whittening จะช่วยลดความหมองคล้ำลงได้จ้า ทว่า...เมื่อถึงเวลาเข้าได้เข้าเข็ม อย่าไปมัวอายอยู่เลยหนู คุณผู้ชายเค้าคงไม่จ้องขาหนีบจนตาเขม็งหรือหมดอารมณ์เอาดื้อๆหรอกค่ะ
ปัญหาสี่
->ปวดฉี่ขณะมีเซ็กซ์
"หนูปวดฉี่มากเลยค่ะ เวลาโดนสอดใส่แบบลึกล้ำอธิปไตยสุดๆ บางครั้งก็กลัวจะฉี่รดที่นอน ต้องขออนุญาตคุณสามีไปห้องน้ำด่วน มีใครเป็นบ้างมั้ยคะ"
ท่าทางในการร่วมเพศหลายท่าสามารถ กระตุ้นความรู้สึกข้างใน ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนกลัวว่าจะฉี่รดที่นอนได้ ความรู้สึกนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่อวัยวะเพศของเขาไปเบียดกระเพาะ ปัสสาวะ แต่อย่างที่คุณสงสัยนั่นแหละ มันอาจเป็นสัญญาณส่เขากำลังกระตุ้นจีสปอตของคุณก็ได้ เพื่อหาว่าอะไรทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะฉี่ เข้าห้องน้ำก่อนที่คุณจะเริ่มทำเรื่องอย่างว่า ถ้าความรู้สึกปวดฉี่คืบคลานเข้ามาระหว่างเข้าด้ายเข้าเข็มกัน ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำซะ ถึงแม้มันอาจจะขัดจังหวะไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าที่จะปล่อยให้ความรู้สึกกังวลครอบงำจนหมดอารมณ์
ถ้าคุณฉี่แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกปวดฉี่อีกเมื่อกลับไปจู๋จี๋กันต่อ ก็อาจแสดงว่าเขาจี้จุดจีของคุณเข้าอย่างจังแล้ว คุณอาจรู้สึกอย่างนี้ได้มากกว่าเวลาที่มีเซ็กซ์ในท่าเข้าข้างหลัง หรือเวลาที่คุณอยู่ข้างบน และเวลาที่คุณนอนหงายและยกช่วงเชิงกรานขึ้นเล็กน้อย เมื่อจีสปอตถูกกระตุ้นจนมันพองตัวขึ้น ความรู้สึกเหมือนปวดฉี่จะหายไป แล้วเมื่อมันถูกกระตุ้นต่อไป ก็สามารถทำให้เกดิออกัสซั่มอย่างรุนแรงได้
ปัญหาสุดท้าย
->จิ๋มตด
"เรื่องนี้ขอบอกเลยคะว่า อายแทบจะซุกเตียงหนี ขณะทำการสอดใส่อยู่นั้น ฉับพลันมีเสียง แปร๊ดดด!! ออกมาจากน้องสาวสุดรักของหนู เอ๊ะ!จะว่าตดก็ไม่ใช่เพราะคนละรู"
ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลหรืออับอายในเรื่องนี้เลย เสียงเหมือนผายลมนี้เป็นเพียงลมที่เล็ดรอดออกมาทางช่องคลอด ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก เนื่องจากในระหว่างมีเซ็กซืการเคลื่อนไหวเข้าๆ ออกๆ ของชายหนุ่มของคุณทำให้มีลมไปในช่องคลอดของคุณ ซึ่งขยายตัวขึ้นในระหว่างที่เกิดความตื่นตัวทางเพศ การรุกล้ำลึกๆ หรือการเปลี่ยนตำแหน่งของร่างกาย อาจเป็นสาเหตุให้ลมถูกปล่อยออกมา และเกิดเป็นเสียงเหมือนผายลมขึ้นได้
คุณสามารถพยายามป้องกันไม่ให้ลมเข้าไปในตัวคุณได้ ด้วยการให้แฟนของคุณทำการเข้าออกในลักษณะสั้นและตื้น หรือคุณอาจใช้ท่าไหนก้ตามที่ไม่ต้องยกเชิงกรานขึ้นมาสูงนัก เนื่องงจากท่าที่ต้องยกช่วงเชิงกรานให้สูงขึ้น อย่างเช่นท่าด็อกกี้ อาจทำให้มีโอกาสเกิดเสียงผายลมที่ว่านี้ได้มากขึ้นนะจ๊ะ ลองดู!
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ด้วยความเป็นผู้หญิง เราจึงมีปัญหาเยอะกว่าผู้ชาย และด้วยความขี้อาย สิ่งที่ไม่กล้าบอกใคร ปรึกษาก็ไม่ได้ในเรื่องต่อไปนี้ จึงเป็นปัญหาของหัวอกลูกผู้หญิงยิ่งนัก!
ปัญหาแรก
->น้องหนูกลิ่นเหม็นอึบ!
"โอ้โห ช่องคลอดของฉันมีกลิ่นแรงมาก ถอด กกน.ออกมาที แทบจะกรี๊ดสลบเพราะเหม็นขึ้นจมูกจนขมคอ! ล้างก็แล้ว เช็ดก็แล้ว กลิ่นนี่ไม่ไหวจะเคลียร์เลยค่ะ"
อย่าซีเรียส กังวลทำไมคะหนู ผู้หญิง ทุกคนต่างมีกลิ่นเฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับสารเคมีในร่างกายของเธอ ซึ่งอาจมีทั้งกลิ่นหวานๆ ไปจนถึงกลิ่นคาวๆ เล็กน้อย อย่างไรก็ตามถ้ากลิ่นของคุณค่อนข้างรุนแรงจริงๆ คุณควรปรึกษาเรื่องนี้กับแพทย์ทางนรีเวช มันเป็นไปได้ว่าคุณอาจติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ซึ่งแพทย์สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
แต่ถ้าคุณไม่ได้ติดเชื้อใน ช่องคลอด การมีเหงื่อค่อนข้างมากในพื้นที่ใต้เข็มขัดอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นที่รุนแรง ได้ ลองใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบบอ่อนๆ และปราศจากกลิ่น ล้างพื้นที่ส่วนตัวให้สะอาดแล้วใช่ผ้าซับให้แห้งสนิท
ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะไปทำให้กรดด่างในช่องคลอดเสียสมดุล แถมมันไม่ทำให้กลิ่นเปลี่ยนไปแต่อย่างใดด้วย แค่กลบเกลื่อนกลิ่นไปได้ชั่วคราวเท่านั้น
ปัญหา อีกอย่างที่อาจทำให้กลิ่นของคุณแรงขึ้นได้ก็คือเรื่องอาหารการกินค่ะ ลองหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ ควบคู่ไปด้วย ก็อาจช่วยได้เช่นกัน
ปัญหาสอง
->สิวขึ้นอวัยวะเพศ
"หนูเป็นคนซกมกหรือป่าวคะ สิวมันขึ้นที่น้องสาวของหนูบริเวณหัวหน่าว หนูควรบีบหนองออก หรือปล่อยตามยถากรรมดี ถ้าแฟนเห็นต้องหาว่า หนูสกปรกซกมกแน่ๆเลย อายจัง"
ไม่ต้องอายค่ะหนู การดูแลสุขลักษณะบริเวณจุดซ่อนเร้นอาจจะไม่ดีพอ เช่น มีคราบเหงื่อไคลบริเวณนี้มาก ช่วงมีประจำเดือนปล่อยจนเลือดประจำเดือนชุ่มอยู่นาน อย่างกผ้าอนามัยนะคะ ควรเปลี่ยนวันละ 3- 4 แผ่น ไม่ใช่แผ่นเดียวทั้งวัน จะทำให้อับชื้น และการสวมใส่กางเกงที่รัดฟิตกระชับน้องทำให้อึดอัดน้องหายใจลำบากด้วยค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีประจำเดือน ต้องหมั่นล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ห้ามเด็ดขาดล้างเสร็จแล้วลุกเลย เพราะจะทำให้จุดซ่อนเร้นเปียกแฉะ แถมชุ่มฉ่ำกว่าเดิมเพราะผ้าอนามัยซับน้ำเอาไว้
หรือผู้หญิงที่ออกกำลังกายเป็นประจำจนเหงื่อออกชุ่ม แต่ไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ต่อทั้งที่ร่างกายยังอับชื้นจากคราบเหงื่อไคล เหล่านี้ทำให้เกิดผดผื่น และสิวขึ้นได้ง่าย
และในคุณผู้หญิงที่มีรูปร่างค่อนข้างท้วมหรืออวบอ้วน ควรลดน้ำหนัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นขาให้มีขนาดเล็กลงด้วย มิฉะนั้นสิวผด สิวหนอง อาจมาเยือนโดยง่าย
ปัญหาสาม
->ขาหนีบ-ก้น ดำปี๋
"จะมีอะไรกันทั้งทีหนูต้องปิดไฟตลอดคะ แสงสว่างนี่ไปไกลๆเลย จะเพราะอะไรล่ะ ขาหนีบหนูดำตับเป็ดขนาดนั้น แถมก้นหนูยังดำแถมด้านได้ใจอีกซะด้วย ใครจะกล้าโชว์ล่ะคะ"
ปกติเม็ดสีบริเวณขาหนีบ และก้นมักจะเยอะกว่าผิวหนังส่วนอื่นอยู่แล้ว แต่บางคนผอมมากก็ดำได้นะ เพราะเนื้อตรงผิวหนังช่วงที่เป็นกระดูกตรงก้น จะมีปริมาณน้อย จึงทำให้เกิดการเสียดสีมาก และทำให้ดำ จนกลายเป็นวงๆ เหมือนกระดูกตรงบริเวณก้นที่เสียดสีนั้นเลยยิ่งมีการเสียดสี เช่น ใส่กางเกงรัดๆ ยิ่งเป็นยีนส์ยิ่งเสียดสีเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าค่อนข้างหนา หรือสวมกางเกงในฟิต
และความอ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยเพราะจะทำให้ผิวหนังเสียดสีมากกว่าคนน้ำหนักปกติ บางรายที่อ้วนมาก ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ รักษาไปอาจจะทรงๆ อยู่ แต่ความดำไม่หายไปก็มีนะ
ขัดบ้าง สครับบ้าง และทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น หรือกลุ่ม Whittening จะช่วยลดความหมองคล้ำลงได้จ้า ทว่า...เมื่อถึงเวลาเข้าได้เข้าเข็ม อย่าไปมัวอายอยู่เลยหนู คุณผู้ชายเค้าคงไม่จ้องขาหนีบจนตาเขม็งหรือหมดอารมณ์เอาดื้อๆหรอกค่ะ
ปัญหาสี่
->ปวดฉี่ขณะมีเซ็กซ์
"หนูปวดฉี่มากเลยค่ะ เวลาโดนสอดใส่แบบลึกล้ำอธิปไตยสุดๆ บางครั้งก็กลัวจะฉี่รดที่นอน ต้องขออนุญาตคุณสามีไปห้องน้ำด่วน มีใครเป็นบ้างมั้ยคะ"
ท่าทางในการร่วมเพศหลายท่าสามารถ กระตุ้นความรู้สึกข้างใน ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนกลัวว่าจะฉี่รดที่นอนได้ ความรู้สึกนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่อวัยวะเพศของเขาไปเบียดกระเพาะ ปัสสาวะ แต่อย่างที่คุณสงสัยนั่นแหละ มันอาจเป็นสัญญาณส่เขากำลังกระตุ้นจีสปอตของคุณก็ได้ เพื่อหาว่าอะไรทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะฉี่ เข้าห้องน้ำก่อนที่คุณจะเริ่มทำเรื่องอย่างว่า ถ้าความรู้สึกปวดฉี่คืบคลานเข้ามาระหว่างเข้าด้ายเข้าเข็มกัน ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำซะ ถึงแม้มันอาจจะขัดจังหวะไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าที่จะปล่อยให้ความรู้สึกกังวลครอบงำจนหมดอารมณ์
ถ้าคุณฉี่แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกปวดฉี่อีกเมื่อกลับไปจู๋จี๋กันต่อ ก็อาจแสดงว่าเขาจี้จุดจีของคุณเข้าอย่างจังแล้ว คุณอาจรู้สึกอย่างนี้ได้มากกว่าเวลาที่มีเซ็กซ์ในท่าเข้าข้างหลัง หรือเวลาที่คุณอยู่ข้างบน และเวลาที่คุณนอนหงายและยกช่วงเชิงกรานขึ้นเล็กน้อย เมื่อจีสปอตถูกกระตุ้นจนมันพองตัวขึ้น ความรู้สึกเหมือนปวดฉี่จะหายไป แล้วเมื่อมันถูกกระตุ้นต่อไป ก็สามารถทำให้เกดิออกัสซั่มอย่างรุนแรงได้
ปัญหาสุดท้าย
->จิ๋มตด
"เรื่องนี้ขอบอกเลยคะว่า อายแทบจะซุกเตียงหนี ขณะทำการสอดใส่อยู่นั้น ฉับพลันมีเสียง แปร๊ดดด!! ออกมาจากน้องสาวสุดรักของหนู เอ๊ะ!จะว่าตดก็ไม่ใช่เพราะคนละรู"
ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลหรืออับอายในเรื่องนี้เลย เสียงเหมือนผายลมนี้เป็นเพียงลมที่เล็ดรอดออกมาทางช่องคลอด ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก เนื่องจากในระหว่างมีเซ็กซืการเคลื่อนไหวเข้าๆ ออกๆ ของชายหนุ่มของคุณทำให้มีลมไปในช่องคลอดของคุณ ซึ่งขยายตัวขึ้นในระหว่างที่เกิดความตื่นตัวทางเพศ การรุกล้ำลึกๆ หรือการเปลี่ยนตำแหน่งของร่างกาย อาจเป็นสาเหตุให้ลมถูกปล่อยออกมา และเกิดเป็นเสียงเหมือนผายลมขึ้นได้
คุณสามารถพยายามป้องกันไม่ให้ลมเข้าไปในตัวคุณได้ ด้วยการให้แฟนของคุณทำการเข้าออกในลักษณะสั้นและตื้น หรือคุณอาจใช้ท่าไหนก้ตามที่ไม่ต้องยกเชิงกรานขึ้นมาสูงนัก เนื่องงจากท่าที่ต้องยกช่วงเชิงกรานให้สูงขึ้น อย่างเช่นท่าด็อกกี้ อาจทำให้มีโอกาสเกิดเสียงผายลมที่ว่านี้ได้มากขึ้นนะจ๊ะ ลองดู!
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net