บุคคลที่ยิ่งใหญ่ ฮีโร่ในแบบฉบับของ "ปลาทู-ดิฐวัฒน์ อิสสระ"

>>“ปลาทู” ทายาทคนที่ 2 ของ “สงกรานต์-ศรีวรา อิสสระ” ซึ่งปัจจุบันได้ก้าวเข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ดูแลคอนโดมีเนียมหรูใจกลางเมือง ซึ่งเขากำลังทุ่มเทกับงานใหญ่ครั้งนี้อย่างเต็มที่

สำหรับความหมายของคำว่า ฮีโร่ ในนิยามของปลาทูไม่ได้เป็นบุคคลที่ต้องยิ่งใหญ่ หรือมีอิทธิพลต่อสังคมและโลกทั้งใบ แต่กลับเรียบง่ายและสามารถมองหาได้จากคนทั่วๆ ไป เพียงแค่เป็นคนที่ “รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและหาวิธีที่จะไปสู่จุดนั้นได้โดยไม่ทำร้ายคนอื่น” เท่านี้เขาก็ถือว่าเป็นฮีโร่ได้แล้ว

คุณพ่อกับคุณแม่คือบุคคลแรกๆ ที่ปลาทูนึกถึง “ฮีโร่ของผมก็คุณพ่อกับคุณแม่เลยครับ เพราะทั้งคู่มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จในขณะเดียวกันก็มีความสุขกับชีวิต ถึงจะทำงานหนักขนาดไหน แต่ทั้งสองท่านเอ็นจอยกับชีวิตมากเช่นกัน สามารถหาวิธีบาลานซ์ทั้ง 2 สิ่งนี้ได้ ถ้าเราไม่สามารถบาลานซ์ได้ ให้น้ำหนักกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เราท้อแท้ได้นะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ปลูกฝังผมมาตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ

แต่ทุกวันนี้ผมทุ่มเทให้กับงานเป็นอันดับแรก เพราะผมเพิ่งก้าวมาทำอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ถือว่าค่อยๆ เรียนรู้กันไป อาจมีท้อแท้บ้าง เพราะมันอาจจะไม่เกี่ยวกับงานด้านดีไซน์ที่ผมเรียนมาโดยตรง แต่ถ้าให้มองอีกแง่ถ้าเรามองว่า คอนโดมิเนียมก็เป็นโปรดักส์อย่างหนึ่งเหมือนกัน เราก็ได้ใช้แนวคิดที่เรียนนำมาปรับใช้กับงานนี้ได้ เพราะผมต้องคุมทุกอย่าง ตั้งแต่ภาพลักษณ์ เลย์เอาต์ และฟังก์ชั่น ซึ่งก็คล้ายๆ งานโปรดักส์ดีไซน์ ที่เราต้องรอบคอบ รีเสิร์ชและเซอร์เวย์ความต้องการของลูกค้าด้วยเช่นกัน”

ไม่เฉพาะพ่อแม่ของเขาเท่านั้น แต่ฮีโร่อีกคนที่เขาชื่นชม คือ “คุณอานนท์ ไพโรจน์” โปรดักส์ดีไซเนอร์ชาวไทย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก “ในฐานะที่ผมเรียนจบด้านโปรดักส์ดีไซน์มาเหมือนกัน จึงรู้สึกภูมิใจไปด้วยครับ เขาเรียนเมืองไทย จบที่เมืองไทย แต่มีความสามารถจนคนต่างชาติยอมรับ และสามารถสร้างตัวตนและเอกลักษณ์จากชิ้นงานของเขาได้ งานของเขาจะเป็นผลงานที่คิดนอกกรอบ กล้าคิดกล้าทำ แต่ก็สามารถนำมาใช้งานได้จริง”

“เมื่อ 7 ปีก่อนตอนผมเรียนอยู่ที่อังกฤษ ผมได้เดินทางไปเยอรมัน ไปดูงานแฟร์เกี่ยวกับโปรดักส์ดีไซน์ซึ่งเป็นงานใหญ่มาก และเมื่อมาถึงบูธเกี่ยวกับดีไซเนอร์ที่น่าจับตามอง ก็มีรายชื่อของคนไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็คือพี่อานนท์ ครั้งนั้นก็ได้เจอเขาและรู้สึกประทับใจ ภาคภูมิใจด้วยครับ” ปลาทูเล่าย้อนไปในช่วงเวลาที่เขาได้เจอฮีโร่

และจากการที่ได้รู้จักกันครั้งนั้นก็ทำให้ต่อมาปลาทูได้รับโอกาส ทำงานร่วมกับฮีโร่ของเขาด้วย “พอกลับมาเมืองไทย พี่อานนท์ก็ได้ชวนผมไปทำโปรเจ็กต์หนึ่งร่วมกัน เขาชวนผมไปออกแบบเฟอร์นิเจอร์เอาต์ดอร์ ตอนแรกก็สองจิตสองใจจะทำดีไหม? สุดท้ายก็ลองทำดู ซึ่งงานของผมที่ออกแบบเป็นเก้าอี้อะลูมีเนียม แหวกแนวหน่อยๆ เพราะมันออกมาเหมือนงานปั้นมากกว่า แต่ก็ใช้งานได้นะครับ”
ตอนนี้ปลาทูกำลังทุ่มเทกับงานใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่วันหนึ่งเขาก็หวังว่าจะได้กลับมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นรูปแบบเป็นศิลปะ จัดเต็มแบบไม่มีกฏเกณฑ์ ไม่เน้นการใช้งาน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า “ถึงขายไม่ออกก็ไม่เป็นไร” อย่างที่ตั้งใจไว้ด้วยเหมือนกัน

:: เวลาที่นึกถึง “ในหลวง”คุณนึกถึงอะไร?

“ทุกครั้งที่นึกถึง “ในหลวง” ผมจะนึกถึงความรัก ความทุ่มเท ที่ท่านทรงมอบให้คนไทยทั้งชาติ เป็นความภูมิใจที่หาได้ยากในประเทศอื่นๆ ประเทศเรายังมีพระมหากษัตริย์และมีพระราชวงศ์อยู่ ซึ่งหลายประเทศไม่มีแล้ว ผมไม่เคยเข้าวังท่านนะครับ แต่ทราบมาว่าในวังของท่านเป็นเหมือนศูนย์วิจัยที่ท่านทรงทดลองอะไรต่างๆ มากมาย เพื่อนำสิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ มาให้คนไทย

ในขณะเดียวกันผมก็นึกถึงความรักที่คนไทยมีต่อในหลวง ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยรักกัน ถึงแม้ทุกวันนี้เราจะปฏิเสธไม่ได้ว่าในประเทศมีเรื่องราวให้ต้องแตกแยกกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่า ความรักที่คนไทยมีต่อในหลวงจะทำให้เรารักกันเหมือนเดิม

เวลาผมเห็นท่านทรงงาน ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ผมต้องทุ่มเททำงานของผมให้ดี ให้เต็มที่ และทำอย่างสุจริต เหมือนที่ท่านทำเพื่อคนไทยทุกคนครับ” :: Text by FLASH