By Lady Manager
นวัตกรรมแต่งเสริมเติมสวยในปัจจุบันมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ทั้งเลเซอร์, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์, เทอร์มาจ ฯลฯ แค่ได้ยินชื่อหลายคนเป็นต้องมึนตึ๊บ! อะไรเป็นอะไร สิ่งไหนจะมาช่วยบรรเทาปัญหาผิว และริ้วรอยบนใบหน้าของเดี๊ยนได้บ้างหนอ?
เพื่อให้คุณสาวๆ ได้รู้ลึกถึงความงาม (บนใบหน้า) ที่แท้จริงว่าควรจะเป็นอย่างไร จนสามารถนำมาประเมินถึงจุดบกพร่อง และรู้ถึงแนวทางแก้ไขสารพัดปัญหาความงามบนใบหน้าของตนเองได้อย่างเหมาะสม
เครื่องสำอางคลีนิกข์ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนังจัดการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง Anti Aging Solutions: Facial Analysis & Facial Design โดยมีกูรูด้านผิวหนังระดับแนวหน้าของเมืองไทย นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และหัวหน้ากลุ่มงานศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง มาให้รายละเอียดแบบเจาะลึก เพื่อให้คุณสาวๆ ได้มีข้อมูลเก็บไว้วิเคราะห์ หาแนวทางการแต่งเสริมเติมสวยได้อย่างปลอดภัยแถมคุ้มค่าสุดๆ
“เทรนด์ (trend) ในการดูแลตัวเอง กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลความสวยความงามให้กับตัวเอง ซึ่งการดูแลตัวเองนี้ หากคนไข้รู้ว่าตัวเองมีปัญหาอะไร อยากจะไปรักษาอะไรมันก็ตรงประเด็น แต่บางครั้งคนไข้ไม่รู้ คือ รู้สึกแค่ว่าอยากทำให้ตัวเราเองดีขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่จุดไหนดี ไม่รู้ว่าจุดไหนเป็นปัญหาหลัก ซึ่งหากแก้ไขแล้วจะทำให้ตัวเขาดูดีขึ้น
และปัญหาที่สองก็คือ ปัจจุบันมีทรีตเมนต์ (treatment) หลากหลาย มีโฆษณากันเยอะไปหมด อันนู้นก็ดี อันนี้ก็ดี บางครั้งใน 1 ปัญหา มีถึง 5 การรักษาให้เราเลือก ผู้บริโภคก็อาจจะสับสนว่า แล้ววิธีไหนล่ะที่มันดีที่สุด คุ้มค่า คุ้มเงิน และปลอดภัยที่สุด” นพ.จินดาเกริ่นนำ ถึงปัญหาที่สาวเรามักพบเจอ
คุณหมออธิบายต่อว่า ก่อนจะหาแนวทางการรักษา หรือแก้ไขใบหน้าให้สวยสมใจได้ ต้องรู้เสียก่อน ว่าความงามที่แท้จริงเป็นแบบไหน เพื่อนำมาวิเคราะห์เทียบกับใบหน้าของตนเอง ว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร กระทั่งหาวิธีแก้ไขได้อย่างตรงจุด
“ถ้าเราแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วน ก็จะได้เป็นใบหน้าส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่าง ใบหน้าที่สวยสดงดงามจะต้องมี 3 ส่วนนี้เท่ากัน ส่วนบน จะเริ่มตั้งแต่ไรผม มาจนถึงหน้าผาก ขอบคิ้ว, ใบหน้าส่วนกลาง ได้แก่ ขอบคิ้วมาจนถึงปลายจมูก, ใบหน้าส่วนล่าง ก็จะเริ่มจากปลายจมูก มาถึงคาง ท่านที่มีรูปหน้าสวยสดงดงาม ใบหน้าทั้ง 3 ส่วนนี้ จะต้องมีสัดส่วนที่เท่ากัน”
ไม่รอช้าแล้วหล่ะ มาดูกันดีกว่า ว่าปัญหาบนใบหน้า ที่สาวเรามักพบเจอมีอะไรกันบ้าง และในวงการแพทย์ผิวหนังจะมีแนวทางแต่งเติม แก้ไขให้ใบหน้าแต่ละส่วนให้สวยสดงดงามได้อย่างไร
ปัญหา->รอยย่นบนหน้าผาก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง อธิบายว่าปัญหาหลักของใบหน้าส่วนบนที่พบได้บ่อยคือ หน้าผากย่น
“องค์ประกอบสำคัญของใบหน้าส่วนบนก็คือ หน้าผาก ท่านที่มีหน้าผากสวยสดงดงาม โหงวเฮ้งก็จะดี เปล่งประกาย ส่วนปัญหาของหน้าผากที่พบได้บ่อยคือ เกิดรอยย่นเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะท่านที่เวลาพูดแล้วชอบแสดงสีหน้าเยอะๆ เลิกคิ้ว ยักคิ้ว จะมีเรื่องของรอยย่นบริเวณหน้าผากได้ง่าย”
คุณหมออธิบายต่อว่า การเยียวยารอยย่นหน้าผากนั้น สามารถใช้ Botulinum toxin หรือที่เราคุ้นชื่อว่า โบท็อกซ์ (Botox) ฉีดเข้าไป เพื่อให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและขยับได้น้อยลง ริ้วรอยบริเวณนั้นก็จะดีขึ้น
“หากเราทาแต่ครีมบำรุงผิวอย่างเดียว มันจะช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะครีมจะช่วยปรับโครงสร้างของผิวได้บ้าง แต่ครีมไม่สามารถไปยับยั้งรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นหากมีการขยับร่างกายเยอะๆ ริ้วรอยก็ยังคงปรากฏอยู่ เพราะฉะนั้นเราจึงมีการฉีดสาร Botulinum toxin หรือที่เราคุ้นชื่อว่า โบท็อกซ์ ซึ่งฮิตมากโดยเฉพาะนำมาใช้บริเวณหน้าผาก”
ปัญหา->ริ้วรอยรอบดวงตา - หนังตาหย่อน
“ถ้าอายุมากขึ้นเรามักจะพบปัญหาหนังตาหย่อน บางท่านมีไขมันมาสะสมบนหนังตา ทำให้หนังตาดูหนาขึ้น หนังตาล่างก็เช่นกัน จะมีไขมันมาสะสม มีเนื้อที่หย่อนมากขึ้น แล้วเวลายิ้มจะมีรอยตีนการ่วมด้วย ซึ่งการมีไขมันสะสมแบบนี้ทำให้มีความรู้สึกว่า หน้าตาไม่สดชื่น”
คุณหมออธิบายแนวทางแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตามาว่า
“การแก้ไขหนังตาหย่อนมีหลายวิธี เช่น ใช้สารโบท็อกซ์ ฉีดเข้าไปเล็กน้อย เพื่อปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ หนังตา และคิ้วก็จะยกขึ้นได้ นอกจากนั้นเรามีวิธีอื่นอีกเช่น การกระชับผิวด้วยคลื่น RF (Radio Frequency) หรือคลื่นวิทยุความถี่สูง หรือเทอร์มาจ (Thermage) ที่หลายท่านอาจจะคุ้นชื่อ ก็อยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน”
แต่หากสาวท่านใดมีปัญหารอบดวงตาค่อนข้างมาก แถมผิวเริ่มเสื่อมสภาพ แบบนี้คุณหมอจินดาแนะว่า อาจต้องใช้การศัลยกรรมเข้าช่วยค่ะ
“คนไข้ที่เหมาะจะใช้เครื่องกระชับผิว จะต้องเป็นคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหารุนแรงมาก นั่นคือ หนังตาหย่อน มันมีตั้งแต่หย่อนน้อยๆ จนถึงหย่อนเยอะๆ ถ้าคนไหนหนังตาหย่อนไม่มาก และริ้วรอยไม่มากนัก สภาพผิวยังดีอันนี้ใช้ได้ แต่หากสภาพผิวบาง ผิวแห้งเกินไป แบบนี้ก็ไม่สามารถที่จะใช้เครื่องกระชับผิวเหล่านี้ได้แล้ว
รวมถึงคนที่อายุมากๆ เช่น อายุเกิน 60 ขึ้นไป เราเชื่อว่า กลไกการซ่อมแซมตัวเองของผิวจะลดลง การสร้างคอลลาเจน (Collagen) จะลดลง ซึ่งเจ้าเครื่องกระชับผิวจะอาศัยหลักการใช้ความร้อน ไปกระชับใยผิว ใยคอลลาเจน แต่ถ้าใครต้นทุนผิวไม่ดี คอลลาเจนน้อยลงแล้ว การรักษาด้วยเครื่องพวกนี้จะไม่ค่อยตอบสนอง ดังนั้นการรักษาในช่วงกรอบคิ้วรอบดวงตา เราจะแบ่งคนไข้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก กลุ่มนี้เราอาจจะใช้โบท็อกซ์ยกคิ้วยกหางตานิดหน่อย และเราอาจจะใช้เครื่องกระชับผิวเพิ่มอีกนิด มันก็จะทำให้ได้ผลการรักษาที่ดี แต่ถ้าอายุมากๆ มีไขมันที่หนังตาเยอะ การรักษาด้วยโบท็อกซ์ หรือเครื่องกระชับผิวต่างๆ จะไม่ได้ผล ก็ต้องไปทำศัลยกรรมจะดีกว่า”
ปัญหา->จมูกแบน
กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของเราให้ความรู้ต่อว่า ‘จมูก’ เป็นจุดเด่นของใบหน้าส่วนกลางอีกอย่าง จมูกที่สวยงาม จะต้องมีความกว้างของจมูกเท่ากับความกว้างของลูกตา
ส่วนปัญหาที่พบเจอกันบ่อยก็คือ จมูกไม่โด่ง ทำให้หน้าดูไร้มิติ ซึ่งเรื่องนี้นวัตกรรมทางการแพทย์ก็มีแนวทางแก้ไข ด้วยการใช้สาร ไฮยาลูรอนิค แอสิด (Hyaluronic acid) หรือที่เรียกกันติดปากว่า Filler เติมเต็มเข้าไป
“หากคนไข้จมูกแบนไปนิด เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมสารไฮยาลูรอนิค แอสิด เข้าไป และเติมปลายหยดน้ำนิดๆ ที่ปลายจมูก ก็จะทำให้จมูกดูโด่ง และได้รูปมากขึ้น ซึ่งการเติมแนะนำว่า ควรใช้เป็นสารเติมเต็มที่อยู่ได้ชั่วคราว แบบนั้นจะค่อนข้างปลอดภัย เพราะหากไม่ชอบ 6 เดือนเดี๋ยวสารเหล่านี้ก็สลายไปเอง” นายแพทย์จินดากล่าว
พรุ่งนี้มาติดตามต่อ กับอีก 3 ปัญหาบนใบหน้าที่พบเจอกันได้บ่อย ทั้งปากไม่อวบอิ่ม, รูปหน้าหย่อนคล้อย และกรามใหญ่ทำให้หน้าเหลี่ยม ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้อย่างไร ไม่อยากให้พลาดจิ๊ง...จริง ^_^
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
นวัตกรรมแต่งเสริมเติมสวยในปัจจุบันมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ทั้งเลเซอร์, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์, เทอร์มาจ ฯลฯ แค่ได้ยินชื่อหลายคนเป็นต้องมึนตึ๊บ! อะไรเป็นอะไร สิ่งไหนจะมาช่วยบรรเทาปัญหาผิว และริ้วรอยบนใบหน้าของเดี๊ยนได้บ้างหนอ?
เพื่อให้คุณสาวๆ ได้รู้ลึกถึงความงาม (บนใบหน้า) ที่แท้จริงว่าควรจะเป็นอย่างไร จนสามารถนำมาประเมินถึงจุดบกพร่อง และรู้ถึงแนวทางแก้ไขสารพัดปัญหาความงามบนใบหน้าของตนเองได้อย่างเหมาะสม
เครื่องสำอางคลีนิกข์ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนังจัดการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง Anti Aging Solutions: Facial Analysis & Facial Design โดยมีกูรูด้านผิวหนังระดับแนวหน้าของเมืองไทย นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และหัวหน้ากลุ่มงานศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง มาให้รายละเอียดแบบเจาะลึก เพื่อให้คุณสาวๆ ได้มีข้อมูลเก็บไว้วิเคราะห์ หาแนวทางการแต่งเสริมเติมสวยได้อย่างปลอดภัยแถมคุ้มค่าสุดๆ
“เทรนด์ (trend) ในการดูแลตัวเอง กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลความสวยความงามให้กับตัวเอง ซึ่งการดูแลตัวเองนี้ หากคนไข้รู้ว่าตัวเองมีปัญหาอะไร อยากจะไปรักษาอะไรมันก็ตรงประเด็น แต่บางครั้งคนไข้ไม่รู้ คือ รู้สึกแค่ว่าอยากทำให้ตัวเราเองดีขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่จุดไหนดี ไม่รู้ว่าจุดไหนเป็นปัญหาหลัก ซึ่งหากแก้ไขแล้วจะทำให้ตัวเขาดูดีขึ้น
และปัญหาที่สองก็คือ ปัจจุบันมีทรีตเมนต์ (treatment) หลากหลาย มีโฆษณากันเยอะไปหมด อันนู้นก็ดี อันนี้ก็ดี บางครั้งใน 1 ปัญหา มีถึง 5 การรักษาให้เราเลือก ผู้บริโภคก็อาจจะสับสนว่า แล้ววิธีไหนล่ะที่มันดีที่สุด คุ้มค่า คุ้มเงิน และปลอดภัยที่สุด” นพ.จินดาเกริ่นนำ ถึงปัญหาที่สาวเรามักพบเจอ
คุณหมออธิบายต่อว่า ก่อนจะหาแนวทางการรักษา หรือแก้ไขใบหน้าให้สวยสมใจได้ ต้องรู้เสียก่อน ว่าความงามที่แท้จริงเป็นแบบไหน เพื่อนำมาวิเคราะห์เทียบกับใบหน้าของตนเอง ว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร กระทั่งหาวิธีแก้ไขได้อย่างตรงจุด
“ถ้าเราแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วน ก็จะได้เป็นใบหน้าส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่าง ใบหน้าที่สวยสดงดงามจะต้องมี 3 ส่วนนี้เท่ากัน ส่วนบน จะเริ่มตั้งแต่ไรผม มาจนถึงหน้าผาก ขอบคิ้ว, ใบหน้าส่วนกลาง ได้แก่ ขอบคิ้วมาจนถึงปลายจมูก, ใบหน้าส่วนล่าง ก็จะเริ่มจากปลายจมูก มาถึงคาง ท่านที่มีรูปหน้าสวยสดงดงาม ใบหน้าทั้ง 3 ส่วนนี้ จะต้องมีสัดส่วนที่เท่ากัน”
ไม่รอช้าแล้วหล่ะ มาดูกันดีกว่า ว่าปัญหาบนใบหน้า ที่สาวเรามักพบเจอมีอะไรกันบ้าง และในวงการแพทย์ผิวหนังจะมีแนวทางแต่งเติม แก้ไขให้ใบหน้าแต่ละส่วนให้สวยสดงดงามได้อย่างไร
ปัญหา->รอยย่นบนหน้าผาก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง อธิบายว่าปัญหาหลักของใบหน้าส่วนบนที่พบได้บ่อยคือ หน้าผากย่น
“องค์ประกอบสำคัญของใบหน้าส่วนบนก็คือ หน้าผาก ท่านที่มีหน้าผากสวยสดงดงาม โหงวเฮ้งก็จะดี เปล่งประกาย ส่วนปัญหาของหน้าผากที่พบได้บ่อยคือ เกิดรอยย่นเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะท่านที่เวลาพูดแล้วชอบแสดงสีหน้าเยอะๆ เลิกคิ้ว ยักคิ้ว จะมีเรื่องของรอยย่นบริเวณหน้าผากได้ง่าย”
คุณหมออธิบายต่อว่า การเยียวยารอยย่นหน้าผากนั้น สามารถใช้ Botulinum toxin หรือที่เราคุ้นชื่อว่า โบท็อกซ์ (Botox) ฉีดเข้าไป เพื่อให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและขยับได้น้อยลง ริ้วรอยบริเวณนั้นก็จะดีขึ้น
“หากเราทาแต่ครีมบำรุงผิวอย่างเดียว มันจะช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะครีมจะช่วยปรับโครงสร้างของผิวได้บ้าง แต่ครีมไม่สามารถไปยับยั้งรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นหากมีการขยับร่างกายเยอะๆ ริ้วรอยก็ยังคงปรากฏอยู่ เพราะฉะนั้นเราจึงมีการฉีดสาร Botulinum toxin หรือที่เราคุ้นชื่อว่า โบท็อกซ์ ซึ่งฮิตมากโดยเฉพาะนำมาใช้บริเวณหน้าผาก”
ปัญหา->ริ้วรอยรอบดวงตา - หนังตาหย่อน
“ถ้าอายุมากขึ้นเรามักจะพบปัญหาหนังตาหย่อน บางท่านมีไขมันมาสะสมบนหนังตา ทำให้หนังตาดูหนาขึ้น หนังตาล่างก็เช่นกัน จะมีไขมันมาสะสม มีเนื้อที่หย่อนมากขึ้น แล้วเวลายิ้มจะมีรอยตีนการ่วมด้วย ซึ่งการมีไขมันสะสมแบบนี้ทำให้มีความรู้สึกว่า หน้าตาไม่สดชื่น”
คุณหมออธิบายแนวทางแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตามาว่า
“การแก้ไขหนังตาหย่อนมีหลายวิธี เช่น ใช้สารโบท็อกซ์ ฉีดเข้าไปเล็กน้อย เพื่อปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ หนังตา และคิ้วก็จะยกขึ้นได้ นอกจากนั้นเรามีวิธีอื่นอีกเช่น การกระชับผิวด้วยคลื่น RF (Radio Frequency) หรือคลื่นวิทยุความถี่สูง หรือเทอร์มาจ (Thermage) ที่หลายท่านอาจจะคุ้นชื่อ ก็อยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน”
แต่หากสาวท่านใดมีปัญหารอบดวงตาค่อนข้างมาก แถมผิวเริ่มเสื่อมสภาพ แบบนี้คุณหมอจินดาแนะว่า อาจต้องใช้การศัลยกรรมเข้าช่วยค่ะ
“คนไข้ที่เหมาะจะใช้เครื่องกระชับผิว จะต้องเป็นคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหารุนแรงมาก นั่นคือ หนังตาหย่อน มันมีตั้งแต่หย่อนน้อยๆ จนถึงหย่อนเยอะๆ ถ้าคนไหนหนังตาหย่อนไม่มาก และริ้วรอยไม่มากนัก สภาพผิวยังดีอันนี้ใช้ได้ แต่หากสภาพผิวบาง ผิวแห้งเกินไป แบบนี้ก็ไม่สามารถที่จะใช้เครื่องกระชับผิวเหล่านี้ได้แล้ว
รวมถึงคนที่อายุมากๆ เช่น อายุเกิน 60 ขึ้นไป เราเชื่อว่า กลไกการซ่อมแซมตัวเองของผิวจะลดลง การสร้างคอลลาเจน (Collagen) จะลดลง ซึ่งเจ้าเครื่องกระชับผิวจะอาศัยหลักการใช้ความร้อน ไปกระชับใยผิว ใยคอลลาเจน แต่ถ้าใครต้นทุนผิวไม่ดี คอลลาเจนน้อยลงแล้ว การรักษาด้วยเครื่องพวกนี้จะไม่ค่อยตอบสนอง ดังนั้นการรักษาในช่วงกรอบคิ้วรอบดวงตา เราจะแบ่งคนไข้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก กลุ่มนี้เราอาจจะใช้โบท็อกซ์ยกคิ้วยกหางตานิดหน่อย และเราอาจจะใช้เครื่องกระชับผิวเพิ่มอีกนิด มันก็จะทำให้ได้ผลการรักษาที่ดี แต่ถ้าอายุมากๆ มีไขมันที่หนังตาเยอะ การรักษาด้วยโบท็อกซ์ หรือเครื่องกระชับผิวต่างๆ จะไม่ได้ผล ก็ต้องไปทำศัลยกรรมจะดีกว่า”
ปัญหา->จมูกแบน
กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของเราให้ความรู้ต่อว่า ‘จมูก’ เป็นจุดเด่นของใบหน้าส่วนกลางอีกอย่าง จมูกที่สวยงาม จะต้องมีความกว้างของจมูกเท่ากับความกว้างของลูกตา
ส่วนปัญหาที่พบเจอกันบ่อยก็คือ จมูกไม่โด่ง ทำให้หน้าดูไร้มิติ ซึ่งเรื่องนี้นวัตกรรมทางการแพทย์ก็มีแนวทางแก้ไข ด้วยการใช้สาร ไฮยาลูรอนิค แอสิด (Hyaluronic acid) หรือที่เรียกกันติดปากว่า Filler เติมเต็มเข้าไป
“หากคนไข้จมูกแบนไปนิด เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมสารไฮยาลูรอนิค แอสิด เข้าไป และเติมปลายหยดน้ำนิดๆ ที่ปลายจมูก ก็จะทำให้จมูกดูโด่ง และได้รูปมากขึ้น ซึ่งการเติมแนะนำว่า ควรใช้เป็นสารเติมเต็มที่อยู่ได้ชั่วคราว แบบนั้นจะค่อนข้างปลอดภัย เพราะหากไม่ชอบ 6 เดือนเดี๋ยวสารเหล่านี้ก็สลายไปเอง” นายแพทย์จินดากล่าว
พรุ่งนี้มาติดตามต่อ กับอีก 3 ปัญหาบนใบหน้าที่พบเจอกันได้บ่อย ทั้งปากไม่อวบอิ่ม, รูปหน้าหย่อนคล้อย และกรามใหญ่ทำให้หน้าเหลี่ยม ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้อย่างไร ไม่อยากให้พลาดจิ๊ง...จริง ^_^
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
