By Lady Manager
หลังบอกถึงปัญหายอดฮิตบนใบหน้าไปแล้ว 3 จุด เราไม่รีรอชวนคุณมาตามต่อกันเลยค่ะ ว่าอีก 3 ปัญหาบนใบหน้าที่พบเจอได้บ่อยนั้นคืออะไร แล้วแนวทางแก้ไขล่ะ จะทำอย่างไรได้บ้าง
กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวหนัง นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และหัวหน้ากลุ่มงานศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง ที่มาบรรยายให้ความรู้ครบเครื่องเรื่องหน้าสวย ในการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง Anti Aging Solutions: Facial Analysis & Facial Design ซึ่งจัดโดยเครื่องสำอางคลีนิกข์ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนัง
เราก็ไม่พลาดที่จะนำความรู้ มาบอกกล่าวให้คุณๆ ได้ทราบกัน
ปัญหา->ริ้วรอยรอบริมฝีปาก
คุณหมอจินดาระบุว่า ปากถือเป็นส่วนที่โดดเด่นของใบหน้าส่วนล่าง หากปากสวยจะทำให้ใบหน้าส่วนล่างดูโดดเด่น และปากที่สวยจะต้องมีลักษณะไม่ใหญ่ หรือเล็กเกินไป เค้าโครงรูปริมฝีปากควรเป็นรูปตัว M ริมฝีปากบนจะต้องบางกว่าริมฝีปากล่างในอัตราส่วนประมาณ 1 ต่อ 1.3 ซึ่งลักษณะแบบนี้จะทำให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มสวยงาม
ส่วนปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับริมฝีปากคือ เมื่ออายุมากขึ้นมัก เกิดริ้วรอยรอบริมฝีปาก
“หากเกิดปัญหาริ้วรอยที่ริมฝีปาก เราอาจจะใช้การฉีดโบท็อกซ์สักนิด เพื่อคลายกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก หรือทำเลเซอร์รอบริมฝีปากเพื่อรักษาปัญหาดังกล่าว แต่ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่ออายุมาก ริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มก็จะเล็กแบน อันนี้ก็จะต้องเติมสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อให้ปากกลับมาเต่งตึง”
ปัญหา->รูปหน้าไม่กระชับ
สำหรับปัญหารูปหน้าที่พบเจอได้บ่อยนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระบุว่า คือ การที่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น รูปหน้าที่เคยเป็นรูปตัว V สวยงาม ก็กลับกลายเป็นรูปตัว U เพราะความหย่อนคล้อยของผิว ทว่าทางการแพทย์ก็มีแนวทางแก้ไขค่ะ
“การแก้ไขการหย่อนคล้อย หนึ่งก็ต้องดูว่าไขมันเยอะมั้ย ดูความยืดหยุ่นของผิว ถ้าไขมันไม่เยอะ ความยืดหยุ่นผิวยังดี เราอาจจะใช้โบท็อกซ์ หรืออาจจะทำการกระชับผิวด้วยเลเซอร์ (Laser) หรือใช้คลื่น RF
ถ้าความยืดหยุ่นเริ่มไม่ค่อยดี แต่ไม่มีไขมันเยอะ อาจจะใช้ RF หรือเลเซอร์ยกกระชับสักนิดก่อนก็ได้
แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไขมันก็เยอะ ความยืดหยุ่นก็ไม่มี อันนี้คงไม่ต้องทำให้เสียเวลา ต้องไปปรึกษาศัลยแพทย์ อาจจะต้องใช้การดูดไขมันแล้วก็ผ่าตัดซ้ำ”
ปัญหา->กรามใหญ่ - หน้าเหลี่ยม
ส่วนปัญหากรามใหญ ที่ทำให้รูปหน้าเทอะทะไม่เรียวเล็กนั้น รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้รายละเอียดการแก้ไขปัญหานี้มาว่า
“กรามใหญ่ต้องไปดูว่าปัญหามันเกิดจากอะไร เกิดจากกล้ามเนื้อ คือ มันมีกล้ามเนื้อมัดหนึ่ง เป็นกล้ามเนื้อเคี้ยว คนที่ชอบเคี้ยวข้าวเหนียว เคี้ยวปลากหมึก เคี้ยวหมากฝรั่ง จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อมัดนี้เป็นอย่างดี ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น พอใหญ่ขึ้นกล้ามเนื้อก็จะทำให้หน้าเป็นรูปเหลี่ยมๆ หรือบางครั้ง การที่รูปหน้ากว้าง อาจจะเกิดจากกระดูกที่ใหญ่เองแต่กำเนิด หรืออาจจะเกิดจากไขมันที่แก้มเยอะมันเลยทำให้หน้าไม่เรียว
นั่นคือ การจะรักษาต้องประเมินก่อนว่า คนนี้หน้าไม่เรียวเพราะอะไร ถ้าเป็นเพราะกล้ามเนื้อ ก็จะใช้โบท็อกซ์ฉีด พอฉีดเข้าไป มันจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง พอกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง กล้ามเนื้อมันจะค่อยๆ แฟบลง ผมอยากให้นึกถึงคนที่แขนหัก แล้วใส่เฝือก 2 เดือน ถอดเฝือกมาแขนลีบเลย ตรงนี้ใช้หลักการเดียวกัน คือ ฉีดโบท็อกซ์เข้าไป ทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง 2 เดือนผ่านไป กล้ามเนื้อก็จะเล็กลง รูปหน้าก็จะเรียวขึ้น อันนี้เป็นวิธีที่เขานำมาประยุกต์ใช้ แต่ต้องเรียนก่อนว่า ยังไม่มีการศึกษาไหน บอกถึงความปลอดภัยระยะยาวนะครับ FDA ยังไม่ได้ระบุให้นำมาใช้ในรูปแบบนี้ หรือหากดูแล้วพบว่ากรามใหญ่เพราะกระดูกอันนี้ต้องไปทุบกระดูกให้หายไปก่อน หรือถ้าดูแล้วเห็นว่าหน้าใหญ่เพราะไขมัน ก็ต้องดูดไขมัน” คุณหมอจินดาอธิบายปิดท้าย
เก็บตกมาฝาก
ภาพบรรยากาศ การบรรยายทางวิชาการเรื่อง Anti Aging Solutions: Facial Analysis & Facial Design ที่จัดโดยเครื่องสำอางคลีนิกข์ และสถาบันโรคผิวหนัง
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
หลังบอกถึงปัญหายอดฮิตบนใบหน้าไปแล้ว 3 จุด เราไม่รีรอชวนคุณมาตามต่อกันเลยค่ะ ว่าอีก 3 ปัญหาบนใบหน้าที่พบเจอได้บ่อยนั้นคืออะไร แล้วแนวทางแก้ไขล่ะ จะทำอย่างไรได้บ้าง
กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวหนัง นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และหัวหน้ากลุ่มงานศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง ที่มาบรรยายให้ความรู้ครบเครื่องเรื่องหน้าสวย ในการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง Anti Aging Solutions: Facial Analysis & Facial Design ซึ่งจัดโดยเครื่องสำอางคลีนิกข์ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนัง
เราก็ไม่พลาดที่จะนำความรู้ มาบอกกล่าวให้คุณๆ ได้ทราบกัน
ปัญหา->ริ้วรอยรอบริมฝีปาก
คุณหมอจินดาระบุว่า ปากถือเป็นส่วนที่โดดเด่นของใบหน้าส่วนล่าง หากปากสวยจะทำให้ใบหน้าส่วนล่างดูโดดเด่น และปากที่สวยจะต้องมีลักษณะไม่ใหญ่ หรือเล็กเกินไป เค้าโครงรูปริมฝีปากควรเป็นรูปตัว M ริมฝีปากบนจะต้องบางกว่าริมฝีปากล่างในอัตราส่วนประมาณ 1 ต่อ 1.3 ซึ่งลักษณะแบบนี้จะทำให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มสวยงาม
ส่วนปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับริมฝีปากคือ เมื่ออายุมากขึ้นมัก เกิดริ้วรอยรอบริมฝีปาก
“หากเกิดปัญหาริ้วรอยที่ริมฝีปาก เราอาจจะใช้การฉีดโบท็อกซ์สักนิด เพื่อคลายกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก หรือทำเลเซอร์รอบริมฝีปากเพื่อรักษาปัญหาดังกล่าว แต่ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่ออายุมาก ริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มก็จะเล็กแบน อันนี้ก็จะต้องเติมสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อให้ปากกลับมาเต่งตึง”
ปัญหา->รูปหน้าไม่กระชับ
สำหรับปัญหารูปหน้าที่พบเจอได้บ่อยนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระบุว่า คือ การที่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น รูปหน้าที่เคยเป็นรูปตัว V สวยงาม ก็กลับกลายเป็นรูปตัว U เพราะความหย่อนคล้อยของผิว ทว่าทางการแพทย์ก็มีแนวทางแก้ไขค่ะ
“การแก้ไขการหย่อนคล้อย หนึ่งก็ต้องดูว่าไขมันเยอะมั้ย ดูความยืดหยุ่นของผิว ถ้าไขมันไม่เยอะ ความยืดหยุ่นผิวยังดี เราอาจจะใช้โบท็อกซ์ หรืออาจจะทำการกระชับผิวด้วยเลเซอร์ (Laser) หรือใช้คลื่น RF
ถ้าความยืดหยุ่นเริ่มไม่ค่อยดี แต่ไม่มีไขมันเยอะ อาจจะใช้ RF หรือเลเซอร์ยกกระชับสักนิดก่อนก็ได้
แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไขมันก็เยอะ ความยืดหยุ่นก็ไม่มี อันนี้คงไม่ต้องทำให้เสียเวลา ต้องไปปรึกษาศัลยแพทย์ อาจจะต้องใช้การดูดไขมันแล้วก็ผ่าตัดซ้ำ”
ปัญหา->กรามใหญ่ - หน้าเหลี่ยม
ส่วนปัญหากรามใหญ ที่ทำให้รูปหน้าเทอะทะไม่เรียวเล็กนั้น รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้รายละเอียดการแก้ไขปัญหานี้มาว่า
“กรามใหญ่ต้องไปดูว่าปัญหามันเกิดจากอะไร เกิดจากกล้ามเนื้อ คือ มันมีกล้ามเนื้อมัดหนึ่ง เป็นกล้ามเนื้อเคี้ยว คนที่ชอบเคี้ยวข้าวเหนียว เคี้ยวปลากหมึก เคี้ยวหมากฝรั่ง จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อมัดนี้เป็นอย่างดี ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น พอใหญ่ขึ้นกล้ามเนื้อก็จะทำให้หน้าเป็นรูปเหลี่ยมๆ หรือบางครั้ง การที่รูปหน้ากว้าง อาจจะเกิดจากกระดูกที่ใหญ่เองแต่กำเนิด หรืออาจจะเกิดจากไขมันที่แก้มเยอะมันเลยทำให้หน้าไม่เรียว
นั่นคือ การจะรักษาต้องประเมินก่อนว่า คนนี้หน้าไม่เรียวเพราะอะไร ถ้าเป็นเพราะกล้ามเนื้อ ก็จะใช้โบท็อกซ์ฉีด พอฉีดเข้าไป มันจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง พอกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง กล้ามเนื้อมันจะค่อยๆ แฟบลง ผมอยากให้นึกถึงคนที่แขนหัก แล้วใส่เฝือก 2 เดือน ถอดเฝือกมาแขนลีบเลย ตรงนี้ใช้หลักการเดียวกัน คือ ฉีดโบท็อกซ์เข้าไป ทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง 2 เดือนผ่านไป กล้ามเนื้อก็จะเล็กลง รูปหน้าก็จะเรียวขึ้น อันนี้เป็นวิธีที่เขานำมาประยุกต์ใช้ แต่ต้องเรียนก่อนว่า ยังไม่มีการศึกษาไหน บอกถึงความปลอดภัยระยะยาวนะครับ FDA ยังไม่ได้ระบุให้นำมาใช้ในรูปแบบนี้ หรือหากดูแล้วพบว่ากรามใหญ่เพราะกระดูกอันนี้ต้องไปทุบกระดูกให้หายไปก่อน หรือถ้าดูแล้วเห็นว่าหน้าใหญ่เพราะไขมัน ก็ต้องดูดไขมัน” คุณหมอจินดาอธิบายปิดท้าย
เก็บตกมาฝาก
ภาพบรรยากาศ การบรรยายทางวิชาการเรื่อง Anti Aging Solutions: Facial Analysis & Facial Design ที่จัดโดยเครื่องสำอางคลีนิกข์ และสถาบันโรคผิวหนัง
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net