By Lady Manager
การมีบุคลิกดีช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้คนรอบข้างชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ยืน เดิน นอกจากนี้การนอนและเสียง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดเสียไม่ได้
ทว่าลักษณะต่างๆ เหล่านี้ยังบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยได้อีกด้วยแน่ะ
“โหงว แปลว่า 5 ตามภาษาจีน โหงวเฮ้ง หมายถึง สิ่งบ่งบอกลักษณะทั้ง 5 จะมีตั้งแต่รูปร่างหน้าตา การเดิน การยืน การนอน เสียง” อ.ชัญญ่า วิทยา หมอดูไพ่ยิปซี ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์โหงวเฮ้งด้วย กล่าว
งั้นเราเริ่มไล่เรียงจากท่านั่งก่อนเลยค่ะ ว่าสาวคนไหนที่นั่ง ยืน เดิน นอน ส่งเสียงกันท่าไหน บ่งบอกถึงนิสัยด้วยท่วงท่าอย่างไรบ้าง ท่าใดสมควรทำ ท่าใดไม่ควรปฏิบัติ เพราะจะทำให้ชีวิตมัวหมองด้วยท่าทางซะงั้น!
->ท่านั่ง
นั่งตัวตรง เป็นคนมีสติ แล้วเป็นคนที่ทำอะไร คิดอะไรรอบคอบมากกว่า บุคลิกดีมีสง่า เป็นคนไม่ค่อยง้อคน หยิ่งในศักดิ์ศรี ถูกว่าถูกตามนั้น ผิดว่าผิด
นั่งตัวงอ หมายถึงคนที่ขี้เกียจ เหมือนเป็นคนที่ท้อแท้ไม่สู้ชีวิต ไม่ค่อยมีจุดมุ่งหมายในชีวิต
นั่งเอียง เป็นคนโลเล นั่งเอียงดูเสียบุคลิก เป็นคนโลเลไม่มีจุดหมาย นั่งแบบนี้บ่อยๆจะมีการเคลื่อนที่ของกระดูก
นั่งเท้าคาง ใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา เป็นคนขี้เหงา เก็บตัว ช่างฝัน เป็นคนใช้ความคิดตลอดเวลา บางคนเครียดหรือกำลังคิดโปรเจกต์อะไรก็ตาม เขาอาจจะนั่งใช้ความคิด ไม่ได้เรียกว่าดีหรือไม่ดี แต่เรียกว่าเป็นลักษณะของบุคลิกของพฤติกรรมกับความคิด ณ ช่วงขณะนั้น
บางคนโหงวเฮ้งดีบุคลิกดี แต่บังเอิญเขามีช่วงหรือกิจกรรมที่จะต้องคิดอะไรบางอย่างในช่วงนั้น เป็นเรื่องปกติ
นั่งกอดอก ใครก็ตามนั่งกอดอกคุยกับเรา เป็นการสื่อว่า เขาจะรู้สึกว่ามีอะไรมากั้นตรงกลาง มีอะไรที่คอยกั้นเราอยู่ มีความไม่ไว้วางใจใคร เมื่อเขากอดอก แสดงว่าเขาเริ่มไม่ไว้วางใจในคู่สนทนา ไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยความเป็นตัวตนที่แท้จริงให้กับคู่สนทนา และบ่งบอกได้ถึงการวางอำนาจเหนือคู่สนทนา กันตัวเองว่า ฉันมาเหนือคุณ จะฟังไม่ฟังอยู่ที่ฉัน คุณพูดมาเลยแต่ว่าฉันขอพิจารณา
นั่งไขว่ห้าง เป็นท่าที่สบายนะ แต่นั่งบ่อยๆ กระดูกช่วงหลังจะเคลื่อนได้ คนที่นั่งไขว่ห้างเป็นคนที่จินตนาการสูง เป็นคนมั่นใจในตัวเอง จะซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้ายก็ตาม และเป็นคนที่เซ็กซี่ ช่างฝัน เสน่ห์แรง ติดเจ้าชู้ด้วย ส่วนใหญ่จะแต่งตัวเก่ง
นั่งกุมมือ เป็นคนที่ค่อนข้างยึดมั่น ขนบธรรมเนียมประเพณี และเป็นคนที่ไว้ตัววางตัว เพราะบางคนกระโปรงอาจจะสั้น จึงต้องเอามือมาปิดเอาไว้ เป็นคนที่ระแวดระวัง ดูแลตัวเองอย่างดี ระวังตัว
ทว่าการนั่งเราต้องดูกาละเทศะด้วย เช่น หากไปสัมภาษณ์งาน นั่งไขว่ห้างเปรียบเสมือนการผ่อนคลายจนเกินไป เหมือนกับการที่ใครก็ตามเห็นคุณครั้งแรกแล้วนั่งไขว่ห้างหาคุณเลย แสดงถึงการเป็นกันเอง เขาควรที่จะนั่งลักษณะตรง ไม่ควรจะไขว่ห้างในครั้งแรกที่เจอกัน
อ.ชัญญ่าเสริมด้วยว่า การนั่งต่อหน้าผู้ใหญ่ขาควรตรง หรือเฉียงก็ได้ข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ควรนั่งอ้า หรือไขว่ห้าง
->ท่ายืน
ยืนหน้าตั้ง คอตรง อกตึง เป็นคนบุคลิกดี ทำให้สุขภาพดีด้วย ท่ายืนหลังงอ สุขภาพก็ไม่ดี เพราะกระดูกจะคดได้ แต่ไม่ควรยืนตรงเหมือนเคารพธงชาติ เพราะการยืนแบบนั้น เป็นการยืนเฉพาะกิจอาจจะยืนได้ไม่นาน ควรหย่อนขาข้างใดข้างหนึ่งเพื่อเป็นการผ่อนคลายหย่อนเข่าลงมาบ้าง ขาอาจไม่ต้องชิดมาก เหลื่อมล้ำกันได้นิดหน่อย หรือห่างประมาณ 1 คืบ ลักษณะท่ายืนแบบนี้จะทำให้ยืนได้นาน
ยืนคอเอียง และยิ่งคอสั้น ผมหยิก ผิวคล้ำ จมูกเหยี่ยว ถ้าทุกอย่างมารวมกัน ยิ่งคบยาก ถ้าแววตาใครเล็ก ดุดัน ตาดำเล็ก เขาเรียกว่าตาเพชรฆาต ตาฆาตกร เเววตาบ่องบอก
บางคนตาแข็ง ตานิ่ง อันนั้นมีโอกาสเก็บกดสูง ฆ่าตัวตายสูง ฆ่าคนอื่นสูง เพราะตาจะเลือดเย็น ตาลอย คือ ตาอุบัติเหตุ ตายโหง ตาพอง จะมีปัญหาเรื่องความรัก เปลือกตาโปนออกมา ค่อนข้างมีปัญหากับความรัก
หลังค่อม ยืนเอียงข้างใดข้างหนึ่ง บางครั้งมันอยู่ที่อารมณ์ช่วงนั้นด้วย ไม่ได้หมายความว่า การยืนอย่างนั้นจะบ่งบอกนิสัยแบบนั้นเสมอไป มันอยู่ที่ว่าบางทีอยากจะยืนแบบผ่อนคลาย ลักษณะที่บอกหมายถึงการทำโดยเป็นเรื่องปกติของแต่ละคนจนเกินไป เช่น ต่อให้เจอใครจะต้องยืนแบบนั้นเสมอไป การที่ทำอะไรเป็นประจำนั่นคือ บุคลิกลักษณะของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นคนบุคลิกดีมาโดยตลอดแต่อยู่มาวันหนึ่งปวดหลัง ปวดขาขึ้นมาก็ทำให้ท่ายืนเปลี่ยนลักษณะบุคลิกไปได้แค่ชั่วคราว ไม่ได้แปลว่าคนนั้นจะมีนิสัยเปลี่ยน นิสัยคนเปลี่ยนไม่ได้
ถ้าอยู่ดีๆ เราเกิดหกล้มทำให้การยืนไม่ดีเหมือนเดิม อันนั้นไม่เรียกว่าเปลี่ยนนิสัย คือ ช่วงเวลาฉุกเฉินเฉพาะกิจ เมื่อวันหนึ่งที่คนๆ นั้นหายจาก สมมติกระดูกเขาไม่ดี ทำให้เขาต้องยืน เดิน นั่ง อีกอย่างหนึ่ง เสียรูปร่างลักษณะไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาหาย เขาก็กลับมานั่งเหมือนเดิม
ยืนกอดอด ยืดตัวตรง เป็นคนรอบคอบ เจ้าความคิด อารมณ์เย็น และรู้จักการไตร่ตรอง แต่มีความคิดฝันอยู่ในสมองเสมอมิได้ขาด อีกทั้งยังติดนิสัยเป็นคนวางท่าบ้างเล็กน้อย
ยืนเอามือไขว้หลัง เป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งถือตัว และมักเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย มีความอดทนอดกลั้นเป็นเลิศ แต่มักมีเล่ห์เหลี่ยม หรือรู้ทันคน ไม่เสียทีใครง่ายๆ
ยืนล้วงกระเป๋า เป็นคนมีลับลมคมใน คนทั่วไปมักให้ความเชื่อถือ แต่อดที่จะหวาดระแวงไม่ได้ มีจิตใจกว้างขวางชอบเข้าสังคม แต่มักปกปิดเรื่องของตนไม่อยากให้คนอื่นรู้มากนัก
ยืนก้มหน้า ก้มตา หลบสายตาผู้อื่น มักป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เข้าสังคมไม่เก่ง และขาดการเจรจาที่เป็นผลดีให้กับตัวเอง
->ท่าเดิน
เดินไม่มีเสียง ก้าวมั่นคง เป็นคนมีสติ พลิกแพลงอะไรได้เก่ง สับรางเก่ง บริหารเวลาได้
เดินปัดแขนปัดขาออก เรียกว่า ปัดโชคลาภเงินทองออกนอกตัว จะไม่มีกินไม่มีใช้ แกว่งมือได้ในลักษณะของสรีระ เเต่ถ้าเดินมือขาปัดออก ปัดโชคลาภออกหมดเลย
เดินลากแตะ ส่วนใครที่เดินแล้วได้ยินเสียง แต่ก แต่ก ลากแตะมาแต่ไกล เป็นคนทำอะไรไม่หนักแน่น ทำอะไรไม่เป็นชิ้นไม่เป็นอัน ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ เดินลากเท้าแบบนั้น เป็นคนที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้
เดินกระทืบเท้า เป็นคนมั่นใจในตัวเอง โกรธง่าย โมโหง่าย ไม่ค่อยฟังใคร ฟังแต่ตัวเอง ตัดสินใจอะไรไปแล้วเปลี่ยนความคิดยาก แต่ถ้าเดินลากแตะจะเป็นคนจับจด โลเล ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ หนักไม่เอาเบาไม่สู้
เดินเหย่ง เดินไม่เต็มเท้า เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ขี้น้อยใจ คิดมาก
เดินก้าวยาว เป็นคนค่อนข้างอยู่ในโลกของความจริง ไปตามจินตนาการของตัวเอง แต่ทำอะไรค่อนข้างช้าหน่อย
เดินสั้น เป็นคนทำอะไรเร็ว จุกจิกจู้จี้ วิตกกังวลเกินเหตุ
เดินเร็ว อยู่ที่ว่าตอนนั้นเขารีบหรือเขาไม่รีบด้วย ถ้าโดยปกติเดินเร็ว แสดงว่าเป็นคนใจร้อน อยากได้อะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น รอใครไม่เป็น
เดินช้า เอ้อระเหย ช่างฝัน ทำอะไรก็ช้า เป็นคนที่ไม่ค่อยไปตามจุดหมาย ไม่มีจุดหมาย
->ท่านอน
ท่านอนที่ดีที่สุดมี 2 ท่า คือ
นอนหงาย มือขนานลำตัวข้างหนึ่ง แล้วเอามืออีกข้างมาไว้บริเวณท้อง จะนอนสบาย หมอนไม่สูงต่ำจนเกินไป กำลังดีสำหรับคอของแต่ละคน ขาอ้านิดหน่อย ไม่ชิด ถ้าชิดมาเกินไปจะดูเกร็ง หากเอามือวางข้างลำตัวสองเขนเลยจะดูเกร็งเช่นกัน
นอนกอดหมอนข้าง แล้วขาข้างนอกเกี่ยวทับหมอนข้างไว้ ส่วนขาข้างในยืดตรง นี่คือท่านอนที่ดี ทว่า หากใครที่นอนกอดหมอนข้าง นอนหันข้าง เป็นคนที่ต้องการความอบอุ่น ชอบให้คนอื่นมาเข้าใจเขา ขี้เหงา ช่างฝัน ช่างจินตนาการ แต่ท่านี้จะเป็นท่าที่นอนสบายที่สุด
นอนคลุมโปง จะเป็นที่ชอบเก็บตัว เก็บความเครียด ทุกข์ อยู่กับตัวเอง ไม่ชอบบอกใคร ไม่ชอบเจอสังคม คนเยอะ เก็บเนื้อเก็บตัว บางครั้งรับกับความจริงไม่ได้ โลกส่วนตัวสูง
นอนแผ่ เป็นคนเปิดเผย จริงใจ เก็บความลับไม่อยู่ เป็นคนไม่มีระเบียบวินัย
นอนก่ายหน้าผาก อมทุกข์ เพราะคนที่เอามือก่ายหน้ผากจะเอามือก่ายโดยไม่รู้ตัว เป็นปฏิกิริยา เหมือนที่เราเดินแล้วมีอะไรมาตกใส่ขา ขาจะชักเข้ามาเองเลย เหมือนบางทีเครียดปั้บ มือก่ายหน้าผากเอง
นอนคว่ำ เป็นท่านอนที่ไม่ดี ทำให้มีปัญหาทางด้านปอด ระบบหายใจไม่ค่อยดี เพราะลักษณะการหายใจเข้าจะติดขัด มันเหมือนกับร่างกายเราไปกดทับปอดกับหัวใจอีก
->เสียง
เสียงแหบพร่า ดูเป็นคนไม่หนักแน่น เพ้อฝัน มักมีปัญหาเรื่องความรัก ถ้าเสียงแหบพร่าอย่างชัดเจน ฟังไม่ค่อยชัด จับใจความยาก หรือบางทีฟังแล้ว เอ้ เขาพูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง
เสียงแหลม คือ คนที่เจ้ากี้เจ้าการ ชอบสั่ง โวยวายง่าย ตกใจง่าย เป็นคนที่ไม่ค่อยฟังคนอื่นมั่นใจในตัวเองสูง
เสียงต่ำ เป็นคนหนักแน่น คิดช้า ทำอะไรช้า
อ.ชัญญ่าย้ำด้วยว่า เสียงใสเสียงดีไม่ได้หมายความว่าจะสมหวังเสมอไป บางคนเสียงปกติก็ผิดหวังในความรักได้ มันต้องดูวัน เดือน ปี เกิด เวลาตกฟากด้วย ไม่ใช่ว่าโหงวเฮ้งดี เสียงใส แต่เอาวันเดือนปีเกิดมาผูกดวงกันแล้ว ตกเกณฑ์ความรักเป็นวินาศ
ไม่ว่าจะอะไรก็ตามอยู่ที่กรรมปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าฟังเสียงนี้ปุ้บ ชัวร์ป้าบต้องผิดหวังในความรัก มันไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียวต้องดูหลายองค์ประกอบด้วยค่ะ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
การมีบุคลิกดีช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้คนรอบข้างชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ยืน เดิน นอกจากนี้การนอนและเสียง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดเสียไม่ได้
ทว่าลักษณะต่างๆ เหล่านี้ยังบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยได้อีกด้วยแน่ะ
“โหงว แปลว่า 5 ตามภาษาจีน โหงวเฮ้ง หมายถึง สิ่งบ่งบอกลักษณะทั้ง 5 จะมีตั้งแต่รูปร่างหน้าตา การเดิน การยืน การนอน เสียง” อ.ชัญญ่า วิทยา หมอดูไพ่ยิปซี ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์โหงวเฮ้งด้วย กล่าว
งั้นเราเริ่มไล่เรียงจากท่านั่งก่อนเลยค่ะ ว่าสาวคนไหนที่นั่ง ยืน เดิน นอน ส่งเสียงกันท่าไหน บ่งบอกถึงนิสัยด้วยท่วงท่าอย่างไรบ้าง ท่าใดสมควรทำ ท่าใดไม่ควรปฏิบัติ เพราะจะทำให้ชีวิตมัวหมองด้วยท่าทางซะงั้น!
->ท่านั่ง
นั่งตัวตรง เป็นคนมีสติ แล้วเป็นคนที่ทำอะไร คิดอะไรรอบคอบมากกว่า บุคลิกดีมีสง่า เป็นคนไม่ค่อยง้อคน หยิ่งในศักดิ์ศรี ถูกว่าถูกตามนั้น ผิดว่าผิด
นั่งตัวงอ หมายถึงคนที่ขี้เกียจ เหมือนเป็นคนที่ท้อแท้ไม่สู้ชีวิต ไม่ค่อยมีจุดมุ่งหมายในชีวิต
นั่งเอียง เป็นคนโลเล นั่งเอียงดูเสียบุคลิก เป็นคนโลเลไม่มีจุดหมาย นั่งแบบนี้บ่อยๆจะมีการเคลื่อนที่ของกระดูก
นั่งเท้าคาง ใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา เป็นคนขี้เหงา เก็บตัว ช่างฝัน เป็นคนใช้ความคิดตลอดเวลา บางคนเครียดหรือกำลังคิดโปรเจกต์อะไรก็ตาม เขาอาจจะนั่งใช้ความคิด ไม่ได้เรียกว่าดีหรือไม่ดี แต่เรียกว่าเป็นลักษณะของบุคลิกของพฤติกรรมกับความคิด ณ ช่วงขณะนั้น
บางคนโหงวเฮ้งดีบุคลิกดี แต่บังเอิญเขามีช่วงหรือกิจกรรมที่จะต้องคิดอะไรบางอย่างในช่วงนั้น เป็นเรื่องปกติ
นั่งกอดอก ใครก็ตามนั่งกอดอกคุยกับเรา เป็นการสื่อว่า เขาจะรู้สึกว่ามีอะไรมากั้นตรงกลาง มีอะไรที่คอยกั้นเราอยู่ มีความไม่ไว้วางใจใคร เมื่อเขากอดอก แสดงว่าเขาเริ่มไม่ไว้วางใจในคู่สนทนา ไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยความเป็นตัวตนที่แท้จริงให้กับคู่สนทนา และบ่งบอกได้ถึงการวางอำนาจเหนือคู่สนทนา กันตัวเองว่า ฉันมาเหนือคุณ จะฟังไม่ฟังอยู่ที่ฉัน คุณพูดมาเลยแต่ว่าฉันขอพิจารณา
นั่งไขว่ห้าง เป็นท่าที่สบายนะ แต่นั่งบ่อยๆ กระดูกช่วงหลังจะเคลื่อนได้ คนที่นั่งไขว่ห้างเป็นคนที่จินตนาการสูง เป็นคนมั่นใจในตัวเอง จะซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้ายก็ตาม และเป็นคนที่เซ็กซี่ ช่างฝัน เสน่ห์แรง ติดเจ้าชู้ด้วย ส่วนใหญ่จะแต่งตัวเก่ง
นั่งกุมมือ เป็นคนที่ค่อนข้างยึดมั่น ขนบธรรมเนียมประเพณี และเป็นคนที่ไว้ตัววางตัว เพราะบางคนกระโปรงอาจจะสั้น จึงต้องเอามือมาปิดเอาไว้ เป็นคนที่ระแวดระวัง ดูแลตัวเองอย่างดี ระวังตัว
ทว่าการนั่งเราต้องดูกาละเทศะด้วย เช่น หากไปสัมภาษณ์งาน นั่งไขว่ห้างเปรียบเสมือนการผ่อนคลายจนเกินไป เหมือนกับการที่ใครก็ตามเห็นคุณครั้งแรกแล้วนั่งไขว่ห้างหาคุณเลย แสดงถึงการเป็นกันเอง เขาควรที่จะนั่งลักษณะตรง ไม่ควรจะไขว่ห้างในครั้งแรกที่เจอกัน
อ.ชัญญ่าเสริมด้วยว่า การนั่งต่อหน้าผู้ใหญ่ขาควรตรง หรือเฉียงก็ได้ข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ควรนั่งอ้า หรือไขว่ห้าง
->ท่ายืน
ยืนหน้าตั้ง คอตรง อกตึง เป็นคนบุคลิกดี ทำให้สุขภาพดีด้วย ท่ายืนหลังงอ สุขภาพก็ไม่ดี เพราะกระดูกจะคดได้ แต่ไม่ควรยืนตรงเหมือนเคารพธงชาติ เพราะการยืนแบบนั้น เป็นการยืนเฉพาะกิจอาจจะยืนได้ไม่นาน ควรหย่อนขาข้างใดข้างหนึ่งเพื่อเป็นการผ่อนคลายหย่อนเข่าลงมาบ้าง ขาอาจไม่ต้องชิดมาก เหลื่อมล้ำกันได้นิดหน่อย หรือห่างประมาณ 1 คืบ ลักษณะท่ายืนแบบนี้จะทำให้ยืนได้นาน
ยืนคอเอียง และยิ่งคอสั้น ผมหยิก ผิวคล้ำ จมูกเหยี่ยว ถ้าทุกอย่างมารวมกัน ยิ่งคบยาก ถ้าแววตาใครเล็ก ดุดัน ตาดำเล็ก เขาเรียกว่าตาเพชรฆาต ตาฆาตกร เเววตาบ่องบอก
บางคนตาแข็ง ตานิ่ง อันนั้นมีโอกาสเก็บกดสูง ฆ่าตัวตายสูง ฆ่าคนอื่นสูง เพราะตาจะเลือดเย็น ตาลอย คือ ตาอุบัติเหตุ ตายโหง ตาพอง จะมีปัญหาเรื่องความรัก เปลือกตาโปนออกมา ค่อนข้างมีปัญหากับความรัก
หลังค่อม ยืนเอียงข้างใดข้างหนึ่ง บางครั้งมันอยู่ที่อารมณ์ช่วงนั้นด้วย ไม่ได้หมายความว่า การยืนอย่างนั้นจะบ่งบอกนิสัยแบบนั้นเสมอไป มันอยู่ที่ว่าบางทีอยากจะยืนแบบผ่อนคลาย ลักษณะที่บอกหมายถึงการทำโดยเป็นเรื่องปกติของแต่ละคนจนเกินไป เช่น ต่อให้เจอใครจะต้องยืนแบบนั้นเสมอไป การที่ทำอะไรเป็นประจำนั่นคือ บุคลิกลักษณะของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นคนบุคลิกดีมาโดยตลอดแต่อยู่มาวันหนึ่งปวดหลัง ปวดขาขึ้นมาก็ทำให้ท่ายืนเปลี่ยนลักษณะบุคลิกไปได้แค่ชั่วคราว ไม่ได้แปลว่าคนนั้นจะมีนิสัยเปลี่ยน นิสัยคนเปลี่ยนไม่ได้
ถ้าอยู่ดีๆ เราเกิดหกล้มทำให้การยืนไม่ดีเหมือนเดิม อันนั้นไม่เรียกว่าเปลี่ยนนิสัย คือ ช่วงเวลาฉุกเฉินเฉพาะกิจ เมื่อวันหนึ่งที่คนๆ นั้นหายจาก สมมติกระดูกเขาไม่ดี ทำให้เขาต้องยืน เดิน นั่ง อีกอย่างหนึ่ง เสียรูปร่างลักษณะไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาหาย เขาก็กลับมานั่งเหมือนเดิม
ยืนกอดอด ยืดตัวตรง เป็นคนรอบคอบ เจ้าความคิด อารมณ์เย็น และรู้จักการไตร่ตรอง แต่มีความคิดฝันอยู่ในสมองเสมอมิได้ขาด อีกทั้งยังติดนิสัยเป็นคนวางท่าบ้างเล็กน้อย
ยืนเอามือไขว้หลัง เป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งถือตัว และมักเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย มีความอดทนอดกลั้นเป็นเลิศ แต่มักมีเล่ห์เหลี่ยม หรือรู้ทันคน ไม่เสียทีใครง่ายๆ
ยืนล้วงกระเป๋า เป็นคนมีลับลมคมใน คนทั่วไปมักให้ความเชื่อถือ แต่อดที่จะหวาดระแวงไม่ได้ มีจิตใจกว้างขวางชอบเข้าสังคม แต่มักปกปิดเรื่องของตนไม่อยากให้คนอื่นรู้มากนัก
ยืนก้มหน้า ก้มตา หลบสายตาผู้อื่น มักป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เข้าสังคมไม่เก่ง และขาดการเจรจาที่เป็นผลดีให้กับตัวเอง
->ท่าเดิน
เดินไม่มีเสียง ก้าวมั่นคง เป็นคนมีสติ พลิกแพลงอะไรได้เก่ง สับรางเก่ง บริหารเวลาได้
เดินปัดแขนปัดขาออก เรียกว่า ปัดโชคลาภเงินทองออกนอกตัว จะไม่มีกินไม่มีใช้ แกว่งมือได้ในลักษณะของสรีระ เเต่ถ้าเดินมือขาปัดออก ปัดโชคลาภออกหมดเลย
เดินลากแตะ ส่วนใครที่เดินแล้วได้ยินเสียง แต่ก แต่ก ลากแตะมาแต่ไกล เป็นคนทำอะไรไม่หนักแน่น ทำอะไรไม่เป็นชิ้นไม่เป็นอัน ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ เดินลากเท้าแบบนั้น เป็นคนที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้
เดินกระทืบเท้า เป็นคนมั่นใจในตัวเอง โกรธง่าย โมโหง่าย ไม่ค่อยฟังใคร ฟังแต่ตัวเอง ตัดสินใจอะไรไปแล้วเปลี่ยนความคิดยาก แต่ถ้าเดินลากแตะจะเป็นคนจับจด โลเล ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ หนักไม่เอาเบาไม่สู้
เดินเหย่ง เดินไม่เต็มเท้า เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ขี้น้อยใจ คิดมาก
เดินก้าวยาว เป็นคนค่อนข้างอยู่ในโลกของความจริง ไปตามจินตนาการของตัวเอง แต่ทำอะไรค่อนข้างช้าหน่อย
เดินสั้น เป็นคนทำอะไรเร็ว จุกจิกจู้จี้ วิตกกังวลเกินเหตุ
เดินเร็ว อยู่ที่ว่าตอนนั้นเขารีบหรือเขาไม่รีบด้วย ถ้าโดยปกติเดินเร็ว แสดงว่าเป็นคนใจร้อน อยากได้อะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น รอใครไม่เป็น
เดินช้า เอ้อระเหย ช่างฝัน ทำอะไรก็ช้า เป็นคนที่ไม่ค่อยไปตามจุดหมาย ไม่มีจุดหมาย
->ท่านอน
ท่านอนที่ดีที่สุดมี 2 ท่า คือ
นอนหงาย มือขนานลำตัวข้างหนึ่ง แล้วเอามืออีกข้างมาไว้บริเวณท้อง จะนอนสบาย หมอนไม่สูงต่ำจนเกินไป กำลังดีสำหรับคอของแต่ละคน ขาอ้านิดหน่อย ไม่ชิด ถ้าชิดมาเกินไปจะดูเกร็ง หากเอามือวางข้างลำตัวสองเขนเลยจะดูเกร็งเช่นกัน
นอนกอดหมอนข้าง แล้วขาข้างนอกเกี่ยวทับหมอนข้างไว้ ส่วนขาข้างในยืดตรง นี่คือท่านอนที่ดี ทว่า หากใครที่นอนกอดหมอนข้าง นอนหันข้าง เป็นคนที่ต้องการความอบอุ่น ชอบให้คนอื่นมาเข้าใจเขา ขี้เหงา ช่างฝัน ช่างจินตนาการ แต่ท่านี้จะเป็นท่าที่นอนสบายที่สุด
นอนคลุมโปง จะเป็นที่ชอบเก็บตัว เก็บความเครียด ทุกข์ อยู่กับตัวเอง ไม่ชอบบอกใคร ไม่ชอบเจอสังคม คนเยอะ เก็บเนื้อเก็บตัว บางครั้งรับกับความจริงไม่ได้ โลกส่วนตัวสูง
นอนแผ่ เป็นคนเปิดเผย จริงใจ เก็บความลับไม่อยู่ เป็นคนไม่มีระเบียบวินัย
นอนก่ายหน้าผาก อมทุกข์ เพราะคนที่เอามือก่ายหน้ผากจะเอามือก่ายโดยไม่รู้ตัว เป็นปฏิกิริยา เหมือนที่เราเดินแล้วมีอะไรมาตกใส่ขา ขาจะชักเข้ามาเองเลย เหมือนบางทีเครียดปั้บ มือก่ายหน้าผากเอง
นอนคว่ำ เป็นท่านอนที่ไม่ดี ทำให้มีปัญหาทางด้านปอด ระบบหายใจไม่ค่อยดี เพราะลักษณะการหายใจเข้าจะติดขัด มันเหมือนกับร่างกายเราไปกดทับปอดกับหัวใจอีก
->เสียง
เสียงแหบพร่า ดูเป็นคนไม่หนักแน่น เพ้อฝัน มักมีปัญหาเรื่องความรัก ถ้าเสียงแหบพร่าอย่างชัดเจน ฟังไม่ค่อยชัด จับใจความยาก หรือบางทีฟังแล้ว เอ้ เขาพูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง
เสียงแหลม คือ คนที่เจ้ากี้เจ้าการ ชอบสั่ง โวยวายง่าย ตกใจง่าย เป็นคนที่ไม่ค่อยฟังคนอื่นมั่นใจในตัวเองสูง
เสียงต่ำ เป็นคนหนักแน่น คิดช้า ทำอะไรช้า
อ.ชัญญ่าย้ำด้วยว่า เสียงใสเสียงดีไม่ได้หมายความว่าจะสมหวังเสมอไป บางคนเสียงปกติก็ผิดหวังในความรักได้ มันต้องดูวัน เดือน ปี เกิด เวลาตกฟากด้วย ไม่ใช่ว่าโหงวเฮ้งดี เสียงใส แต่เอาวันเดือนปีเกิดมาผูกดวงกันแล้ว ตกเกณฑ์ความรักเป็นวินาศ
ไม่ว่าจะอะไรก็ตามอยู่ที่กรรมปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าฟังเสียงนี้ปุ้บ ชัวร์ป้าบต้องผิดหวังในความรัก มันไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียวต้องดูหลายองค์ประกอบด้วยค่ะ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
