By Lady Manager
เชื่อว่าคนไทยเกินล้านเปลี่ยนสีผม เพราะหันซ้ายแลขวามองไปทางไหนทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ชายปลอม หญิงไม่แท้ ล้วนเปลี่ยนสีผมกันทั่วมุมเมือง จนกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว เพราะการเปลี่ยนสีผมช่วยทำให้หน้าตาสว่าง มีราศีขึ้นนั่นเอง เปลี่ยนโฉม สลัดคราบเก่าได้อย่างดีเยี่ยม!
นั่นเป็นที่มาของการ Try & Test เดือนนี้ เราจึงขอทำการทดสอบประสิทธิภาพ ครีมเปลี่ยนสีผม ยี่ห้อไหนจะชนะเลิศ กลบสีผมเดิมมิด ประกายผมเงางามอิ่มสุดขีดไปดูกันเล้ย!!
เราได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ครีมเปลี่ยนสีผม มาแรงในท้องตลาด ทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ L’OREAL Excellence Creame, Liese Bubble Hair Color, Schwarzkopf, และ Dcash
L'OREAL Excellence Creame
สีน้ำตาลอ่อนประกายทองเข้มเหลือบทอง (Dark Golden Copper)
คุณสมบัติ ปกป้องและมอบความมีชีวิตชีวาให้เส้นผมด้วยโปรเคราติน(Pro-Keratin) ปกปิดผมขาวได้แนบสนิท ฟื้นบำรุงให้ผมดูเข็งแรงและปกป้องเส้นผม ให้สีผมอิ่มสวยมีชีวิตชีวา
ราคา 335 บาท
ลองแล้ว ด้วยความที่ขึ้นชื่อว่า L'OREAL ค่อนข้างดูผู้ดีมีระดับ เน้นวัยผู้ใหญ่วัยทำงาน สีผมที่ได้จึงไม่แรงมาก ดูเบาๆ ยิ่งคนผมสีเข้มด้วยแล้ว อาจจะติดยาก เพราะสีผมที่ได้จะออกมาดูเป็นผู้ดีมีอันจะกินมาก ต่างจากสีผมเด็กสก๊อยเด็กเเว๊นซ์ทั้งหลาย ภายในประกอบด้วยเซรั่มปกป้องสีผมก่อนการทำสี 1 หลอด ดีเวลลอปเปอร์ครีม พร้อมหัวแปรงปลายหวี 1 ขวด ครีมเปลี่ยนสีผมสูตรปกป้อง 1 หลอด คอนดิชันเนอร์สูตรปกป้องเส้นผม 1 ขวด แผ่นพับวิธีใช้ค่อนข้างละเอียด
จะเล็งเห็นได้ว่าทาง L'OREAL เขาจะเน้นการบำรุงเส้นผมเป็นพิเศษ นั่นทำหลังทำสีผมจึงนิ่มน่าสัมผัส แต่สีที่ได้ไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ เรียกว่า ไม่ถูกใจวัยโจ๋วัยจ๊าบ แต่วัยผู้ใหญ่ถึงกับยกนิ้วให้กลิ่นไม่ฉุน ทำเองได้ค่อนข้างง่ายเนื่องจากมาพร้อมหัวแปรงปลายหวี
เหมาะกับ วัยผู้ใหญ่ไม่ต้องการสีผมแฟชั่น เน้นการบำรุง อยากทำสีผม แต่ไม่อยากผมเสีย ปิดหงอกผมขาวได้ดั่งใจ ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ดังนั้นเด็กวัยรุ่นนักศึกษาที่รักแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจอาจหมางเมินไปซบยี่ห้ออื่น
Liese Bubble Hair Color
สีเบจประกายเงิน (Platinum Beige)
คุณสมบัติ Liese-Bubble Hair Color ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชนิดโฟม วิธีเปลี่ยนสีผมใหม่ง่ายสุดๆ เพียงชโลมโฟมเนื้อนุ่ม นวดให้ชุ่มทั่วศีรษะ เนื้อโฟมจะซึมลึกเข้าถึงเส้นผมแต่ละเส้นได้ผลลัพธ์สีสวยและสม่ำเสมอ ไว้เว้นแม้แต่ส่วนที่ยากต่อการมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นด้านหลังศีรษะ ผมชั้นใน หรือโคนผม และแล้วการเปลี่ยนสีผมด้วยตัวคุณเองก็กลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับคุณ
ราคา 329 บาท
ลองแล้ว ภายในกล่องประกอบด้วย คัลเลอร์โซลูชั่น 1 พี 12 แพลตตินั่มเบจ 1 ขวด ดีเวลลอปเปอร์ โซลูชั่น ขวด 2 ลีฟออนโลชั่น ถุงมือ 1 คู่ และเอกสารคู่มือการใช้ ขอบอกว่าละเอียดมาก อ่านเสร็จเข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง ส่วนขั้นตอนไม่ยุ่งยาก คล้ายการสระผมในขณะผมแห้ง กิ๊บเก๋ด้วยการมีแผ่นเทสต์แนบมาในกล่องเพื่อทำการทดสอบผิวหนังว่ามีอาการแพ้ต่อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมหรือไม่ก่อนการใช้ 48 ชั่วโมง
ขอย้ำว่า ต้องใช้กับผมที่แห้งเท่านั้น! ห้ามอาบน้ำระหว่างทำ ใช้ในห้องอุณหภูมิปกติเพราะอุณหภูมิที่สูง ต่ำมากเกินไป จะทำให้น้ำยาออกมาเหลวไม่เป็นโฟม อย่าบีบเนื้อโฟมจากขวดลงบนเส้นผมโดยตรงอาจไหลเข้าตา หรือเปรอะเปื้อนรอบข้างได้
กลิ่นฉุนปานกลาง หากเป็นคนทำสีผมอยู่แล้ว จะติดได้ง่าย แต่ถ้าไม่เคยมาก่อนสีจะออกยากเล็กน้อย หลังจากล้างผมสระผม ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างพอใจ สีผมติดสม่ำเสมออาจไม่คล้ายรูปบนกล่องมากแต่โดยรวมถือว่าปลื้ม แต่รู้สึกว่าเส้นผมแห้ง หยาบกระด้าง เพราะพื้นฐานเป็นคนทำสีผมบ่อย แห้งแตกปลายอยู่แล้ว โฟมเปลี่ยนสีผมใช้ครั้งเดียวสีผมไม่หลุดลอกออกหลังจากสระครั้งแรกเพราะไม่ใช่การเคลือบสีผม แต่หากสระผมไปเรื่อยๆ นานร่วมเดือน สีจะค่อยๆ หลุดตามครั้งที่ถูกน้ำชำระล้าง โฟมเปลี่ยนสีผมจะไม่ติดทนนานเหมือนกับครีมเปลี่ยนสีผม
เหมาะกับ ผู้ไม่ค่อยมีเวลาว่างมากไปนั่งทำที่ร้าน เพราะสะดวกทำเองได้ง่าย อยากลองของใหม่ และผู้ที่มีผมสีอ่อนอยู่แล้ว ไม่เหมาะกับคนที่อยากปิดหงอก ผมขาวอย่างยิ่ง และสีผมเดิมเป็นสีเข้ม รวมถึงเส้นผมที่มีลักษณะย้อมยาก เช่น ผมเเข็ง ผมเส้นใหญ่ อย่าได้แตะ!
Schwarzkopf Freshlight
สีน้ำตาลเทา (Clear Ash)
คุณสมบัติ ให้ประกายสีเจิดจ้าเงางาม อุดมด้วยน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื่นเส้นผมถึง 8 ชนิด บำรุงเส้นผม ล้ำลึก และอาฟเตอร์คัลเลอร์ทรีตเมนท์ให้ความชุ่มชื่้นและประกายเงางาม พร้อมกลิ่นหอมสดชื่น
ราคา 269 บาท
ลองแล้ว แค่แพกเกจตุ๊กตาน้องบลายด์ก็ทำเอาคนแก่แต่ใจละอ่อน คันไม้คันมืออยากลองใช้ซะแล้ว เพราะแพกเกจช่างน่ารักเหลือเกิน สีน้ำตาลเทาดูเป็นสาวคมเข้มดีจัง ภายในกล่องประกอบด้วยครีมเปลี่ยนสีผม ครีมดีเวลลอปเปอร์ อาฟเตอร์คัลเลอร์ ทรีตเมนท์ ที่ไว้เสียบกับขวดผสมสี ถุงมือ แผ่นพับวิธีใช้ หลังจากลองแล้วพบว่า กลิ่นฉุนเล็กน้อยแต่ค่อนข้างดีกว่ายี่ห้ออื่น สีผมที่ได้ค่อนข้างชัด สวยตรงตามกล่อง แต่ไม่ออกเทาสักเท่าไหร่ มีกลิ่นหอมแตะจมูกเล็กน้อย หลังสระเป่าผมให้แห้ง ผมไม่เสียมากเท่าที่ควร สีสวยติดทน ทั่วหัว ผมไม่กระด้างมากนัก
มีสีผมให้เลือกหลากสีอารมณ์สไตล์สาวญี่ปุ่น เพียงแต่สีน้ำตาลเทาที่เลือกมานี้เป็นสีที่ดูนุ่มๆ ไม่แรงมากเท่านั้นเอง แถมไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ แต่คอนดิชันเนอร์หลังทำสีผมไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่ แต่โดยรวมถือว่าเวิร์ก แค่เห็นสีชัด กลิ่นไม่แรง ไม่ฉุน ถือได้ว่าหอมแล้วสำหรับกลิ่นน้ำยาทำสีผมแล้วจ้า แต่สะดวกทำเองแค่สำหรับคนผมสั้นเท่านั้น ผมยาวจะลำบากหน่อยอาจไม่ทั่วหัว
เหมาะกับ ผู้ต้องการปิดหงอก แต่รักแฟชั่น ชอบการทำสีผม เพราะยี่ห้อนี้มีให้เลือกเยอะ สีน่าโกรกผมทั้งนั้นสไตล์สาวแดนซามูไร ราคาปานกลาง 269 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สามารถดึงเงินออกจากกระเป๋าตังค์โดยไม่ต้องอิดออดมากนัก
Dcash Master Mass Color Cream
สีน้ำตาลทองอ่อน (Light Golden Brown)
คุณสมบัติ เปลี่ยนบุคลิกสะกดทุกสายตา ให้สีผมเด่นชัดและสม่ำเสมอ ปิดผมขาวได้แนบสนิท พร้อมการบำรุงอย่างล้ำลึก ให้สภาพเส้นผมแข็งแรง นุ่มสลวยและเงางาม 95% ของผู้ใช้พอใจในผลลัพธ์ และประสิทธิภาพตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส
ราคา 66 บาท
ลองแล้ว ถึงกับจั่วหัวข้างกล่องกันเลยว่า 95% ของผู้ใช้พอใจในผลลัพธ์ และประสิทธิภาพตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส มันจะจริงรึ งั้นเรามาลองดู ภายในกล่องประกอบด้วย ครีมย้อมผม 1 หลอด และ Mildroxy soft cream 1 ขวด ผสมกวนคนกันตามอัธยาศัยด้วยภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ แอบใจดีให้
ถุงมือมาด้วยเพื่อไม่ให้เลอะเทอะกับราคา 66 บาท เราถือว่าเป็นกันเองกับผู้บริโภคยิ่งนักทาเนื้อครีมลงบนผมให้ทั่วและชุ่มทั่วศีรษะ แต่ขอแนะนำอย่าทำเอง ให้ไปทำที่ร้านเถอะ ลำบากลำบนเหลือเกินยิ่งคนผมยาวด้วยแล้ว ยอมเสียเงินให้ช่างทำผมแถวบ้าน แต่เอาครีมเปลี่ยนสีผมไปเอง เสียแต่ค่าแรง จะเยี่ยมกว่า
จากนั้นล้างออก ผลลัพธ์ทีได้เรียกว่า สีแฟชั่นตามกล่องกันเลยทีเดียว สีออกได้ดั่งใจ แต่..เมื่อสระออกหลายน้ำ นานวันเข้า สีผมที่ได้จะยิ่งอ่อนลงๆ หากโกรกน้ำตาลทอง นานวันจะกลายเป็นแดง สีผมหลุดค่อนข้างเร็ว แต่หากไม่แคร์สื่อ แต่แคร์กระเป๋าตังค์ งั้นจัดเต็ม! เพราะถือว่าผมไม่ได้แห้งเสียมากกว่าที่ใจคิดไว้ตั้งแต่ข้างต้น เน้นบำรุง อบไอน้ำเข้าหน่อย สุขภาพเส้นผมอาจพอฟัดพอเหวี่ยงกับครีมเปลี่ยนสีผมชนิดแพง! แถมขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ในกล่องมีแค่ 2 ขวด ครีมบำรุงไม่ต้องแต่เอาสีผมหมัด สีจี๊ดกระชากใจกันเลยทีเดียว แถมไม่ต้องมีแผ่นพับวิธีใช้อะไรกันมากมาย ภูมิปัญญาชาวบ้านกันเลยเชียว
เหมาะกับ ผู้ต้องการปกปิดผมขาว หงอก ปิดได้เนี้ยบ ราคาย่อมเยา เด็กวัยรุ่นที่อยากเปรี้ยวแซ่บไม่กล้าขอเงินคุณพ่อคุณแม่เพื่อมาทำสีผม ดูไร้สาระ ก็สามารถเก็บเงินค่าขนมซื้อเองได้จ้า อ๋อ! มันมีที่มาที่ไปอย่างนี้นี่เอง ร้านทำผมในซอยแถวบ้านจึงนิยมใช้ Dcash โกรกผมให้ลูกค้านั่นเอง
->เกร็ดต้องรู้
- สระผมก่อนทำสี แต่กรุณาอย่าสระแบบเการะวังอย่าให้เกิดบาดแผลบริเวณหนังศีรษะ เพราะเวลาสารเคมีสี ไฮโดรเย่นโดนหนังศีรษะอาจเกิดอาการแสบจี๊ดยุบยิบได้ ควรชำระล้างผมให้สะอาดเพื่อขจัดความสกปรกบนหนังศีรษะ หรือน้ำมันบนเส้นผม เพื่อให้แน่ใจว่า สีผมจะซึมถึงเส้นผม อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมเย็น จนแห้งหมาดๆ แบ่งผมออกเป็นช่อๆ
- เปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเลือกแบบที่สามารถถอดออกจากด้านหน้าและเลอะได้ จากนั้นพันผ้าคลุม หรือผ้าขนหนูรอบคอ
- หวีผม อย่าให้ผมพันกัน
- หากทาครีมบำรุงผิวหน้าบนใบหน้า หน้าผาก ไรผม ใบหู ต้นคอ แขน เป็นต้น จงระวังไม่ให้ครีมบำรุงติดเส้นผม เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการเปลี่ยนสีผมลดลง
- ไม่เกา หรือแกะหนังศีรษะจนเป็นแผล หรือรอยถลอกก่อนทำสีผม รอจนกว่าสภาพหนังศีรษะจะเป็นปกติ จึงค่อยเปลี่ยนสีผม
- ถอดแว่นตา คอนเเทคเลนส์ ต่างหู แหวน สร้อยคอ ออก
- ปูกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อป้องกันน้ำยาโกรกผมเลอะเทอะ กรณีทำเองที่บ้าน
- อย่าใช้หวี หรือกิ๊บที่ทำจากโลหะ
- สวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันน้ำยาสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรง
- จับผมที่แบ่งไว้เป็นช่อๆ ดึงขึ้นด้านบน แล้วทาน้ำยาเปลี่ยนสีผมจากโคนผมถึงปลายผม ในทิศทางออกนอกตัว ห้ามขยี้ หรือถูน้ำยาบนหนังศีรษะแรงๆ และเว้นการทาน้ำยาห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1 นิ้ว จนกระทั่งครบทั้งศีรษะ สุดท้ายค่อยหันกลับ มาทาน้ำยาเปลี่ยนสีผม บริเวณโคนที่เว้นไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์นั้นๆ
- ใช้ก้อนสำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดทำความสะอาดน้ำยาเปลี่ยนสีผม ที่เลอะบนผิวหนังออกให้หมด
- ล้างผมด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด โดยใช้มือนวดศีรษะเบาๆ สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูทั่วไป หรือน้ำยาปรับสภาพเส้นผม ที่บรรจุมาในกล่องผลิตภัณฑ์ประมาณ 2 ครั้ง เช็ดผมให้แห้ง และเป่าไดร์ตามปกติ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
เชื่อว่าคนไทยเกินล้านเปลี่ยนสีผม เพราะหันซ้ายแลขวามองไปทางไหนทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ชายปลอม หญิงไม่แท้ ล้วนเปลี่ยนสีผมกันทั่วมุมเมือง จนกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว เพราะการเปลี่ยนสีผมช่วยทำให้หน้าตาสว่าง มีราศีขึ้นนั่นเอง เปลี่ยนโฉม สลัดคราบเก่าได้อย่างดีเยี่ยม!
นั่นเป็นที่มาของการ Try & Test เดือนนี้ เราจึงขอทำการทดสอบประสิทธิภาพ ครีมเปลี่ยนสีผม ยี่ห้อไหนจะชนะเลิศ กลบสีผมเดิมมิด ประกายผมเงางามอิ่มสุดขีดไปดูกันเล้ย!!
เราได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ครีมเปลี่ยนสีผม มาแรงในท้องตลาด ทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ L’OREAL Excellence Creame, Liese Bubble Hair Color, Schwarzkopf, และ Dcash
L'OREAL Excellence Creame
สีน้ำตาลอ่อนประกายทองเข้มเหลือบทอง (Dark Golden Copper)
คุณสมบัติ ปกป้องและมอบความมีชีวิตชีวาให้เส้นผมด้วยโปรเคราติน(Pro-Keratin) ปกปิดผมขาวได้แนบสนิท ฟื้นบำรุงให้ผมดูเข็งแรงและปกป้องเส้นผม ให้สีผมอิ่มสวยมีชีวิตชีวา
ราคา 335 บาท
ลองแล้ว ด้วยความที่ขึ้นชื่อว่า L'OREAL ค่อนข้างดูผู้ดีมีระดับ เน้นวัยผู้ใหญ่วัยทำงาน สีผมที่ได้จึงไม่แรงมาก ดูเบาๆ ยิ่งคนผมสีเข้มด้วยแล้ว อาจจะติดยาก เพราะสีผมที่ได้จะออกมาดูเป็นผู้ดีมีอันจะกินมาก ต่างจากสีผมเด็กสก๊อยเด็กเเว๊นซ์ทั้งหลาย ภายในประกอบด้วยเซรั่มปกป้องสีผมก่อนการทำสี 1 หลอด ดีเวลลอปเปอร์ครีม พร้อมหัวแปรงปลายหวี 1 ขวด ครีมเปลี่ยนสีผมสูตรปกป้อง 1 หลอด คอนดิชันเนอร์สูตรปกป้องเส้นผม 1 ขวด แผ่นพับวิธีใช้ค่อนข้างละเอียด
จะเล็งเห็นได้ว่าทาง L'OREAL เขาจะเน้นการบำรุงเส้นผมเป็นพิเศษ นั่นทำหลังทำสีผมจึงนิ่มน่าสัมผัส แต่สีที่ได้ไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ เรียกว่า ไม่ถูกใจวัยโจ๋วัยจ๊าบ แต่วัยผู้ใหญ่ถึงกับยกนิ้วให้กลิ่นไม่ฉุน ทำเองได้ค่อนข้างง่ายเนื่องจากมาพร้อมหัวแปรงปลายหวี
เหมาะกับ วัยผู้ใหญ่ไม่ต้องการสีผมแฟชั่น เน้นการบำรุง อยากทำสีผม แต่ไม่อยากผมเสีย ปิดหงอกผมขาวได้ดั่งใจ ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ดังนั้นเด็กวัยรุ่นนักศึกษาที่รักแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจอาจหมางเมินไปซบยี่ห้ออื่น
Liese Bubble Hair Color
สีเบจประกายเงิน (Platinum Beige)
คุณสมบัติ Liese-Bubble Hair Color ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชนิดโฟม วิธีเปลี่ยนสีผมใหม่ง่ายสุดๆ เพียงชโลมโฟมเนื้อนุ่ม นวดให้ชุ่มทั่วศีรษะ เนื้อโฟมจะซึมลึกเข้าถึงเส้นผมแต่ละเส้นได้ผลลัพธ์สีสวยและสม่ำเสมอ ไว้เว้นแม้แต่ส่วนที่ยากต่อการมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นด้านหลังศีรษะ ผมชั้นใน หรือโคนผม และแล้วการเปลี่ยนสีผมด้วยตัวคุณเองก็กลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับคุณ
ราคา 329 บาท
ลองแล้ว ภายในกล่องประกอบด้วย คัลเลอร์โซลูชั่น 1 พี 12 แพลตตินั่มเบจ 1 ขวด ดีเวลลอปเปอร์ โซลูชั่น ขวด 2 ลีฟออนโลชั่น ถุงมือ 1 คู่ และเอกสารคู่มือการใช้ ขอบอกว่าละเอียดมาก อ่านเสร็จเข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง ส่วนขั้นตอนไม่ยุ่งยาก คล้ายการสระผมในขณะผมแห้ง กิ๊บเก๋ด้วยการมีแผ่นเทสต์แนบมาในกล่องเพื่อทำการทดสอบผิวหนังว่ามีอาการแพ้ต่อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมหรือไม่ก่อนการใช้ 48 ชั่วโมง
ขอย้ำว่า ต้องใช้กับผมที่แห้งเท่านั้น! ห้ามอาบน้ำระหว่างทำ ใช้ในห้องอุณหภูมิปกติเพราะอุณหภูมิที่สูง ต่ำมากเกินไป จะทำให้น้ำยาออกมาเหลวไม่เป็นโฟม อย่าบีบเนื้อโฟมจากขวดลงบนเส้นผมโดยตรงอาจไหลเข้าตา หรือเปรอะเปื้อนรอบข้างได้
กลิ่นฉุนปานกลาง หากเป็นคนทำสีผมอยู่แล้ว จะติดได้ง่าย แต่ถ้าไม่เคยมาก่อนสีจะออกยากเล็กน้อย หลังจากล้างผมสระผม ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างพอใจ สีผมติดสม่ำเสมออาจไม่คล้ายรูปบนกล่องมากแต่โดยรวมถือว่าปลื้ม แต่รู้สึกว่าเส้นผมแห้ง หยาบกระด้าง เพราะพื้นฐานเป็นคนทำสีผมบ่อย แห้งแตกปลายอยู่แล้ว โฟมเปลี่ยนสีผมใช้ครั้งเดียวสีผมไม่หลุดลอกออกหลังจากสระครั้งแรกเพราะไม่ใช่การเคลือบสีผม แต่หากสระผมไปเรื่อยๆ นานร่วมเดือน สีจะค่อยๆ หลุดตามครั้งที่ถูกน้ำชำระล้าง โฟมเปลี่ยนสีผมจะไม่ติดทนนานเหมือนกับครีมเปลี่ยนสีผม
เหมาะกับ ผู้ไม่ค่อยมีเวลาว่างมากไปนั่งทำที่ร้าน เพราะสะดวกทำเองได้ง่าย อยากลองของใหม่ และผู้ที่มีผมสีอ่อนอยู่แล้ว ไม่เหมาะกับคนที่อยากปิดหงอก ผมขาวอย่างยิ่ง และสีผมเดิมเป็นสีเข้ม รวมถึงเส้นผมที่มีลักษณะย้อมยาก เช่น ผมเเข็ง ผมเส้นใหญ่ อย่าได้แตะ!
Schwarzkopf Freshlight
สีน้ำตาลเทา (Clear Ash)
คุณสมบัติ ให้ประกายสีเจิดจ้าเงางาม อุดมด้วยน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื่นเส้นผมถึง 8 ชนิด บำรุงเส้นผม ล้ำลึก และอาฟเตอร์คัลเลอร์ทรีตเมนท์ให้ความชุ่มชื่้นและประกายเงางาม พร้อมกลิ่นหอมสดชื่น
ราคา 269 บาท
ลองแล้ว แค่แพกเกจตุ๊กตาน้องบลายด์ก็ทำเอาคนแก่แต่ใจละอ่อน คันไม้คันมืออยากลองใช้ซะแล้ว เพราะแพกเกจช่างน่ารักเหลือเกิน สีน้ำตาลเทาดูเป็นสาวคมเข้มดีจัง ภายในกล่องประกอบด้วยครีมเปลี่ยนสีผม ครีมดีเวลลอปเปอร์ อาฟเตอร์คัลเลอร์ ทรีตเมนท์ ที่ไว้เสียบกับขวดผสมสี ถุงมือ แผ่นพับวิธีใช้ หลังจากลองแล้วพบว่า กลิ่นฉุนเล็กน้อยแต่ค่อนข้างดีกว่ายี่ห้ออื่น สีผมที่ได้ค่อนข้างชัด สวยตรงตามกล่อง แต่ไม่ออกเทาสักเท่าไหร่ มีกลิ่นหอมแตะจมูกเล็กน้อย หลังสระเป่าผมให้แห้ง ผมไม่เสียมากเท่าที่ควร สีสวยติดทน ทั่วหัว ผมไม่กระด้างมากนัก
มีสีผมให้เลือกหลากสีอารมณ์สไตล์สาวญี่ปุ่น เพียงแต่สีน้ำตาลเทาที่เลือกมานี้เป็นสีที่ดูนุ่มๆ ไม่แรงมากเท่านั้นเอง แถมไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ แต่คอนดิชันเนอร์หลังทำสีผมไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่ แต่โดยรวมถือว่าเวิร์ก แค่เห็นสีชัด กลิ่นไม่แรง ไม่ฉุน ถือได้ว่าหอมแล้วสำหรับกลิ่นน้ำยาทำสีผมแล้วจ้า แต่สะดวกทำเองแค่สำหรับคนผมสั้นเท่านั้น ผมยาวจะลำบากหน่อยอาจไม่ทั่วหัว
เหมาะกับ ผู้ต้องการปิดหงอก แต่รักแฟชั่น ชอบการทำสีผม เพราะยี่ห้อนี้มีให้เลือกเยอะ สีน่าโกรกผมทั้งนั้นสไตล์สาวแดนซามูไร ราคาปานกลาง 269 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สามารถดึงเงินออกจากกระเป๋าตังค์โดยไม่ต้องอิดออดมากนัก
Dcash Master Mass Color Cream
สีน้ำตาลทองอ่อน (Light Golden Brown)
คุณสมบัติ เปลี่ยนบุคลิกสะกดทุกสายตา ให้สีผมเด่นชัดและสม่ำเสมอ ปิดผมขาวได้แนบสนิท พร้อมการบำรุงอย่างล้ำลึก ให้สภาพเส้นผมแข็งแรง นุ่มสลวยและเงางาม 95% ของผู้ใช้พอใจในผลลัพธ์ และประสิทธิภาพตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส
ราคา 66 บาท
ลองแล้ว ถึงกับจั่วหัวข้างกล่องกันเลยว่า 95% ของผู้ใช้พอใจในผลลัพธ์ และประสิทธิภาพตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส มันจะจริงรึ งั้นเรามาลองดู ภายในกล่องประกอบด้วย ครีมย้อมผม 1 หลอด และ Mildroxy soft cream 1 ขวด ผสมกวนคนกันตามอัธยาศัยด้วยภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ แอบใจดีให้
ถุงมือมาด้วยเพื่อไม่ให้เลอะเทอะกับราคา 66 บาท เราถือว่าเป็นกันเองกับผู้บริโภคยิ่งนักทาเนื้อครีมลงบนผมให้ทั่วและชุ่มทั่วศีรษะ แต่ขอแนะนำอย่าทำเอง ให้ไปทำที่ร้านเถอะ ลำบากลำบนเหลือเกินยิ่งคนผมยาวด้วยแล้ว ยอมเสียเงินให้ช่างทำผมแถวบ้าน แต่เอาครีมเปลี่ยนสีผมไปเอง เสียแต่ค่าแรง จะเยี่ยมกว่า
จากนั้นล้างออก ผลลัพธ์ทีได้เรียกว่า สีแฟชั่นตามกล่องกันเลยทีเดียว สีออกได้ดั่งใจ แต่..เมื่อสระออกหลายน้ำ นานวันเข้า สีผมที่ได้จะยิ่งอ่อนลงๆ หากโกรกน้ำตาลทอง นานวันจะกลายเป็นแดง สีผมหลุดค่อนข้างเร็ว แต่หากไม่แคร์สื่อ แต่แคร์กระเป๋าตังค์ งั้นจัดเต็ม! เพราะถือว่าผมไม่ได้แห้งเสียมากกว่าที่ใจคิดไว้ตั้งแต่ข้างต้น เน้นบำรุง อบไอน้ำเข้าหน่อย สุขภาพเส้นผมอาจพอฟัดพอเหวี่ยงกับครีมเปลี่ยนสีผมชนิดแพง! แถมขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ในกล่องมีแค่ 2 ขวด ครีมบำรุงไม่ต้องแต่เอาสีผมหมัด สีจี๊ดกระชากใจกันเลยทีเดียว แถมไม่ต้องมีแผ่นพับวิธีใช้อะไรกันมากมาย ภูมิปัญญาชาวบ้านกันเลยเชียว
เหมาะกับ ผู้ต้องการปกปิดผมขาว หงอก ปิดได้เนี้ยบ ราคาย่อมเยา เด็กวัยรุ่นที่อยากเปรี้ยวแซ่บไม่กล้าขอเงินคุณพ่อคุณแม่เพื่อมาทำสีผม ดูไร้สาระ ก็สามารถเก็บเงินค่าขนมซื้อเองได้จ้า อ๋อ! มันมีที่มาที่ไปอย่างนี้นี่เอง ร้านทำผมในซอยแถวบ้านจึงนิยมใช้ Dcash โกรกผมให้ลูกค้านั่นเอง
->เกร็ดต้องรู้
- สระผมก่อนทำสี แต่กรุณาอย่าสระแบบเการะวังอย่าให้เกิดบาดแผลบริเวณหนังศีรษะ เพราะเวลาสารเคมีสี ไฮโดรเย่นโดนหนังศีรษะอาจเกิดอาการแสบจี๊ดยุบยิบได้ ควรชำระล้างผมให้สะอาดเพื่อขจัดความสกปรกบนหนังศีรษะ หรือน้ำมันบนเส้นผม เพื่อให้แน่ใจว่า สีผมจะซึมถึงเส้นผม อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมเย็น จนแห้งหมาดๆ แบ่งผมออกเป็นช่อๆ
- เปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเลือกแบบที่สามารถถอดออกจากด้านหน้าและเลอะได้ จากนั้นพันผ้าคลุม หรือผ้าขนหนูรอบคอ
- หวีผม อย่าให้ผมพันกัน
- หากทาครีมบำรุงผิวหน้าบนใบหน้า หน้าผาก ไรผม ใบหู ต้นคอ แขน เป็นต้น จงระวังไม่ให้ครีมบำรุงติดเส้นผม เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการเปลี่ยนสีผมลดลง
- ไม่เกา หรือแกะหนังศีรษะจนเป็นแผล หรือรอยถลอกก่อนทำสีผม รอจนกว่าสภาพหนังศีรษะจะเป็นปกติ จึงค่อยเปลี่ยนสีผม
- ถอดแว่นตา คอนเเทคเลนส์ ต่างหู แหวน สร้อยคอ ออก
- ปูกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อป้องกันน้ำยาโกรกผมเลอะเทอะ กรณีทำเองที่บ้าน
- อย่าใช้หวี หรือกิ๊บที่ทำจากโลหะ
- สวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันน้ำยาสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรง
- จับผมที่แบ่งไว้เป็นช่อๆ ดึงขึ้นด้านบน แล้วทาน้ำยาเปลี่ยนสีผมจากโคนผมถึงปลายผม ในทิศทางออกนอกตัว ห้ามขยี้ หรือถูน้ำยาบนหนังศีรษะแรงๆ และเว้นการทาน้ำยาห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1 นิ้ว จนกระทั่งครบทั้งศีรษะ สุดท้ายค่อยหันกลับ มาทาน้ำยาเปลี่ยนสีผม บริเวณโคนที่เว้นไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์นั้นๆ
- ใช้ก้อนสำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดทำความสะอาดน้ำยาเปลี่ยนสีผม ที่เลอะบนผิวหนังออกให้หมด
- ล้างผมด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด โดยใช้มือนวดศีรษะเบาๆ สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูทั่วไป หรือน้ำยาปรับสภาพเส้นผม ที่บรรจุมาในกล่องผลิตภัณฑ์ประมาณ 2 ครั้ง เช็ดผมให้แห้ง และเป่าไดร์ตามปกติ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net