>>"บริษัท หลุยส์ วิตตอง เอเชีย แปซิฟิค" จัดการแสดงแบบเปิดตัวคอลเลคชั่นล่าสุดของหลุยส์ วิตตอง ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2011-2012 (ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ) เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่ประเทศไทย โดยได้เชิญสื่อมวลชนจากทั่วภูมิภาคเข้าร่วมงานเพื่อชมความงดงามของคอลเลคชั่นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งจัดขึ้นที่วิลล่า วินอตโต้ (Villa Vinotto)
สำหรับบรรยากาศภายในงาน ทางหลุยส์ วิตตองได้แปลงโฉมวิลล่า วินอตโต้ ให้ดูหรูหราอลังการเพื่อให้เข้ากับ คอนเซ็ปท์ของคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ โดยภายในวิลล่า วินอตโต้ ได้ถูกแบ่งเป็นห้องๆ เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เครื่องประดับสำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ กระเป๋าถือและเครื่องหนังชิ้นเล็ก ไปจนถึงนาฬิกาเรือนหรูและจิวเวอร์รี่ชั้นสูง
สำหรับเสื้อผ้าสุภาพสตรีคอลเลคชั่นล่าสุดของหลุยส์ วิตตอง ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2011-2012 ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์อย่าง มาร์ค จาคอบส์ (Marc Jacobs) ได้นำเสน่ห์อันเร้นลับของสตรีมาผสมผสานกับความเป็นแฟชั่น โดยมาร์คได้กล่าวว่า “จริงๆแล้ว ความยั่วยวนและเสน่ห์อันเร้นลับ (Fetish - เฟทิช ) ก็มีด้านดีอยู่ไม่น้อย เพราะสิ่งนี้ก่อให้เกิดพลังและความหลงใหลที่ดูลึกลับ และยังรวมไปถึงความทุ่มเทและความจริงจัง” ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ก็คือคอลเลคชั่นเสื้อผ้าอันทรงพลัง เป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบร้อยและความเย้ายวน ความมีเหตุผลและความไร้เหตุผล ถึงแม้จะฟังดูขัดแย้ง แต่ก็สามารถพิสูจน์ความลงตัวได้ด้วยโครงเสื้อที่เด่นชัดและรายละเอียดอันเต็มเปี่ยม
อีกหนึ่งไฮไลท์ของคอลเคลชั่นล่าสุดนี้ก็คือกระเป๋าอมตะอย่างรุ่นล็อกคิท (Lockit) ซึ่งมีมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2501 (ค.ศ.1958) โดยได้ถูกนำมาปรับโฉมใหม่ด้วยวัสดุหรูหราหลากหลายประเภทในฤดูกาลนี้ อาทิ ผ้าใบโมโนแกรมเคลือบมันวาว ขนสัตว์ หนังเคลือบยางแวววาว หนังแก้วเฉดสีสด และผ้าไนลอนที่หูหิ้วกระเป๋าทำจากเรซิน นอกจากนี้สุดยอดไฮไลท์คงเป็นการนำเอาเอกลักษณ์แม่กุญแจของกระเป๋ารุ่นล็อกคิทมาเป็นลูกเล่น ดังเห็นได้จากกระเป๋าราตรีที่ประดับด้วยทอง 18 กะรัต และกระเป๋าราตรีหนังจระเข้ประดับด้วยกุญแจและโซ่คล้องข้อมือทองคำขาวฝังเพชรแบบจิกไข่ปลา
หากจะบรรยายถึงคอลเลคชั่นล่าสุดที่เป็นการรวมสไตล์อย่างเหลือเชื่อของอามิชและเดวิด ลินช์นั้น คงจะกล่าวได้ว่า พอล เฮลเบอร์ได้หวนย้อนกลับไปถึงสไตล์การแต่งกายในช่วงค้นพบประเทศอเมริกา โดยคอลเลคชั่นนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการตัดเย็บและโครงสร้าง อันเป็นสาเหตุที่ทำให้คอลเลคชั่นนี้เต็มไปด้วยสีดำ เพียงเพราะต้องการที่จะเน้นถึงรูปทรงและเทคนิค อาทิ เสื้อแจ๊กเก็ตที่เป็นทรงตรง อีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจของคอลเลคชั่นก็คือ การผสมผสานวัสดุที่ขัดแย้งกันได้อย่างสวยงามลงตัว เช่น เสื้อโค้ตกันฝนตัดเย็บจากผ้ากันน้ำแมคอินทอชเคลือบยางแบบด้านและตกแต่งด้วยหนังงูเคลือบแมทาลิค ที่เข้าคู่กับกางเกงลูกฟูกลายทางกว้างฟอกสีซีด
คอลเลคชั่นนี้อยู่ภายใต้โทนสีดำเป็นหลัก แต่ก็มีสีสดใสอย่างสีแดงสดทั้งด้านและมัน แม้กระทั่งกางเกงผ้าเดนิมก็ต้องผ่านการย้อมสีดำพิเศษรวมไปถึงช่วงตะเข็บและรอยเย็บต่างเพื่อความเนี้ยบ นอกจากนี้ก็ยังมีผ้าลายตารางแบบใหม่ ที่ดูนุ่มนวลโดยนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อโค้ต
ส่วนคอลเลคชั่นรองเท้าก็นับว่าเป็นการหักมุมของนิยามความหรูหรา โดยนำวัสดุต่างๆ มาผสมผสานตัดเย็บเข้าด้วยกัน ซึ่งนำเอาหนังจระเข้มาไว้ด้านในรองเท้า แล้วนำหนังแก้วมาประดับที่ส้น และยังตั้งใจไม่ขลิบหนังบริเวณขอบพื้นรองเท้าเพื่อให้ดูหนาและดูดิบ
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net