>> “ฟิกเกอร์สเก็ต” กีฬาที่คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคย แต่คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า กีฬาชนิดนี้ซึ่งผสมผานทั้งความแข็งแกร่ง ความอ่อนช้อย ดนตรี การเต้น แฟชั่น และการแสดง เข้าด้วยกัน มีสเน่ห์น่าดึงดูดใจ ที่เพียงใครได้พบเห็นก็ต้องหยุดชื่นชมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับชมทางโทรทัศน์ หรือการได้เห็นด้วยลีลาอันงดงามด้วยตาตนเอง เหมือนอย่างที่เราเห็นสาวน้อย “ชนกพร สงวนทรัพย์” คนนี้โลดแล่นอยู่บนลานสเก็ตน้ำแข็งในนเซ็นทรัลเวิลด์
ฟิกเกอร์สเก็ต หรือสเก็ตน้ำแข็งแบบลีลาคือกีฬาที่ต้องผสมผสานเอาความแข็งแกร่งของร่างกายเข้ากับความอ่อนช้อยสวยงามของศิลปะของบัลเลต์ ยิมนาสติก เข้าไว้ให้ได้อย่างลงตัว และคงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมสำหรับนักกีฬาที่สามารถคว้าแชมป์ได้ไม่ว่ารายการใดก็ตาม และเป็นเรื่องที่น่ายกย่องขึ้นไปอีกหากนักกีฬาคนนั้นมีความคิดความตั้งใจจะสอนให้เด็กๆ หลายคนได้เล่น ฟิกเกอร์สเก็ตอย่างถูกต้อง
“ชนกพร สงวนทรัพย์” หรือ “แนน” สาวไทยที่เกิดและเติบโต ในสหรัฐอเมริกา แม้จะอายุเพียงแค่ 18 ปี แต่วันนี้เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่เด็กสาวนักศึกษามหาลัยเพียงอย่างเดียว แต่เธอมีทั้งตำแหน่งแชมป์ฟิกเกอร์สเก็ตระดับท้องถิ่นจากสหรัฐอเมริกา และตอนนี้ได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย เธอยังคงเป็นครูผู้ฝึกสอนสเก็ตน้ำแข็งให้กับ “เดอะ ริงก์” (The Rink) ลานสเก็ตน้ำแข็งใจกลางเซ็นทรัลเวิลด์อีกด้วย
สัมผัสแรกอย่างจริงจังบนลานสเก็ตน้ำแข็งของชนกพรเริ่มต้นเมื่อเธอมีอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น ชนกพรเล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตพร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราว่า เหตุผลแรกที่ทำให้เธอกลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งลานสเก็ตได้ นั่นก็เพราะความเป็นเด็กอะเลิร์ต ซุกซน และมีพลังเหลือเฟือในวัยเด็กจนทำให้พ่อแม่ต้องหากิจกรรมให้ลุกสาวคนโปรด และเปิดโอกาสให้เธอได้ทดลองค้นหากิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบัลเลต์ ยิมนาสติก และสเก็ตน้ำแข็ง หลังจากลองเล่นกิจกรรมทั้งสามอย่างอยู่ได้ระยะหนึ่ง เธอก็หลงไหลเสน่ห์ของสเก็ตน้ำแข็งเข้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
“ถ้าความรู้สึกตอนเด็กๆ ชอบสเก็ตน้ำแข็งเพราะว่า หลังบ้านจะมีเนินหิมะเล็กๆ ที่จะออกไปเล่นไถลลงมาบ่อยๆ แต่พอได้ลองเล่น ทั้งบัลเลต์ ยิมนาสติก และสเก็ตน้ำแข็งไปได้ระยะหนึ่งก็รู้สึกว่าสเก็ตน้ำแข็งมันเป็นกีฬาที่สนุก มันเป็นกีฬาที่ให้เราได้ใช้แรงจากความอะเลิร์ตอย่างเต็มที่ แต่ก็บวกเอาความสวยงามของยิมนาสติกกับบัลเลต์เข้าไปด้วยอีก”
ความน่าทึ่งไม่ได้มีเพียงแค่การเริ่มเล่นด้วยอายุเพียงแค่ 3 ปี แต่ยังรวมไปถึงการลงสนามแข่งขันครั้งแรกด้วยเพียงอายุแค่ 4 ปี หรือหนึ่งปีหลังจากเริ่มหัดเล่นเท่านั้น แต่อย่างคำคมที่ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ การแข่งขันครั้งแรกของชนกพรไม่ประสบความสำเร็จ สาวน้อยของเราอยู่ในอันดับรั้งท้าย แต่เธอเปลี่ยนความผิดหวังครั้งแรกให้เป็นพลัง และกลับมาตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักและตั้งใจ
“หลังจากการแข่งขันครั้งแรก เราก็ก็กลับมาฝึกอย่างตั้งใจมากขึ้น ช่วงแรกก็เรียนรู้และฝึกท่าพื้นฐาน พอเริ่มอายุ 9 ขวบก็เริ่มจริงจังแบบนักกีฬามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตี 4 อบอุ่นร่างกายหนึ่งชั่วโมง ลงฝึกในลานสเก็ตอีกสองถึงสามชั่วโมง ก่อนพัก 45 นาที แล้วก็กลับไปฝึกต่ออีก”
คงต้องปรบมือเสียงดังๆ ให้กับความตั้งใจของชนกพร เพราะไม่ใช่แค่เพียงเทคนิคบนลานสเก็ตน้ำแข็งเท่านั้น แต่เธอยังต้องฝึกทั้งยิมนาสติก บัลเลต์ สำหรับการจัดท่าทางอันสวยงาม ไปพร้อมๆ กับการทำเวตเทรนนิ่งเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กัน ซึ่งชนกพรบอกว่า “มันคือเสน่ห์ของฟิกเกอร์สเก็ตที่มีทั้งความแข็งแกร่ง และความงดงามอ่อนช้อยอยู่ด้วยกัน”
ความพยายามความตั้งใจของชนกพรประสบความสำเร็จในที่สุด เธอสามารถคว้าแชมป์ ในการแข่งขันที่รัฐวิสคอนซิล และติดอันดับสามในการแข่งขันระดับมิดเวสต์ และด้วยฝีไม้ลายมือฟิเกอร์สเก็ตระดับแชมป์ เมื่อเธอเดินทางกลับเมืองไทยพร้อมพ่อแม่ ก็ได้รับการติดต่อจากญาติให้มาร่วมเป็นผู้ฝึกสอนประจำที่ “เดอะ ริงก์”
ชนกพรบอกว่าพอได้มาเป็นครูฝึกสอนไอซ์สเก็ต แล้วได้สอนเด็กๆ ที่มาเรียนก็ทำให้ย้อนนึกไปถึงช่วงวัย 3 ขวบของตนเองที่เริ่มหัดเล่นสเก็ตน้ำแข็งเหมือนกัน และดูเหมือนสาวสวยคนนี้จะติดใจการเป็นครูเข้าให้แล้ว เพราะเธอบอกว่า มีเด็กไทยหลายคนที่อยากเล่นสเก็ตน้ำแข็งเป็น แต่ติดปัญหาข้อจำกัดหลายๆ อย่างทั้ง สนาม อุปกรณ์ หรือค่าใช้จ่าย โดยเธอบอกว่า วันหนึ่งเธอจะจัดเป็นแคมป์อบรมสเก็ตน้ำแข็งระยะสั้นๆ ให้กับเด็กๆทุกคนเป็นการกุศล
ถึงแม้วันนี้ “ชนกพร สงวนทรัพย์” อาจจะยังไม่ใช่นักสเก็ตน้ำแข็งลีลาที่ติดอันดัลหนึ่งในสิบของโลก แต่ด้วยความตั้งใจของเธอ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า จากเด็กอะเลิร์ตคนหนึ่งก็สามารถเป็นเจ้าหญิงบนลานน้ำแข็งที่สวยสง่าได้เช่นกัน :: Text by FLASH mag.
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net